บทที่ 4 สนองคืน
หลังจากอาการไข้ของซูเซียวหายดีแล้ว หญิงสาวก็เอ่ยบอกกับสาวใช้ว่าอยากจะไปเดินเล่น อ้ายเหม่ยกับอ้ายเสินพยายามเกลี้ยกล่อมเจ้านายสาวไม่ให้ออกไปข้างนอกเพราะกลัวว่าไข้จะกลับมาอีก แต่ซูเซียวก็ไม่ยอมเชื่อจะออกไปเดินเล่นข้างนอกให้ได้ สาวรับใช้ทั้งสองจึงทำได้เพียงเดินตามหญิงสาวเท่านั้น
"คุณหนูมาตรงนี้มาทำไมเจ้าคะ เดี๋ยวได้ผลัดตกลงไปอีกหรอกเจ้าค่ะ" อ้ายเหม่ยเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง จึงเดินตามคนร่างบางไม่ห่าง นางล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคุณหนูจะมาแถวนี้ทำไม ครั้งก่อนที่นางกับอ้ายเสินไม่ได้อยู่รับใช้จึงทำให้คุณหนูผลัดตกลงไปในบ่อน้ำ ครั้งนี้นางจะไม่ยอมให้เกิดอันตรายอะไรขึ้นกับคุณหนูเด็ดขาด
"ข้าอยากออกมาดูอะไรสักหน่อย" ซูเซียวเอ่ยบอกพร้อมกับเดินไปใกล้บริเวณที่ตนเองตกบ่อไปมาแต่ก็ไม่พบอะไร ขณะที่นางตัดสินใจที่จะเดินกลับ ก็หันไปเห็นถุงหอมลวดลายคุ้นตาจึงก้มลงไปหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นถุงหอมของซูหลันนั่นเอง นางจึงรีบยัดเก็บเข้าแขนเสื้ออย่างไวก่อนจะพาสาวรับใช้ทั้งสองคนเดินกลับเรือน
"พี่ใหญ่ ไปไหนมาหรือ" พอเดินมาถึงหน้าเรือนก็เจอเข้ากับซูเฟยหลงบุตรชายของจางซื่อหรือก็คือคุณชายใหญ่ของจวน ตอนเขารู้ว่าซูเซียวตกบ่อน้ำจนไม่สบายก็อยากจะมาเยี่ยมเสียเดี๋ยวนั้น แต่มารดาก็ห้ามเอาไว้เสียก่อนบอกว่าซูเซียวต้องการพักผ่อน เขาจึงไม่ได้มาหา พอได้ข่าวว่าอาการของหญิงสาวหายดีแล้วเขาถึงได้รีบมาหาทันที
"ป่วยมาหลายวันแล้ว อุดอู้อยู่แต่ในเรือน จึงออกไปเดินเล่นในสวนมา เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือ" ซูเซียวเอ่ยบอกก่อนจะถามกลับแล้วเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในเรือนก่อนจะสั่งให้สาวรับใช้รินชาให้กับซูเฟยหลง ถึงแม้ชายหนุ่มจะเกิดจากจางซื่อแต่ทั้งสองคนก็สนิทสนมกันเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มมักจะปกป้องพี่สาวอย่างซูเซียวอยู่เสมอจนซูหลันไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร
"ข้าเป็นห่วงพี่ใหญ่จึงได้มาเยี่ยม แล้วพี่หญิงหายดีเหรือยังขอรับ"
"ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบใจเจ้ามาก แล้ววันนี้เจ้าไม่ออกไปไหนหรือ" นางรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อซูเฟยหลงยังนึกเห็นห่วงนาง ผู้คนในจวนนี้นางนับนิ้วได้เลยว่ามีใครเป็นห่วงนางอย่างแท้จริงบ้าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือซูเฟยหลงน้องชายต่างมารดาคนนี้
"ข้ามีนัดกับสหายที่โรงน้ำชา แต่อยากจะมาดูพี่หญิงก่อนว่าหายดีหรือยังขอรับ" วันนี้เขามีนัดกับสหายที่โรงน้ำชาแต่เพราะเป็นห่วงพี่สาวก็เลยอยากมาดูให้แน่ใจว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นอะไรมาก เขาถึงจะไปเที่ยวเล่นได้อย่างสบายใจหายห่วง
"เจ้าก็เห็นแล้วนี่ว่าข้าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เจ้ารีบไปเถอะ อย่าปล่อยให้สหายคอยนานเลย" ซูเซียวเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม ซูเฟยหลงเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยลาซูเซียวก่อนจะเดินออกไปจากห้อง พอชายหนุ่มจากไปแล้วหญิงสาวก็เอ่ยปากไล่สาวรับใช้ทั้งสองให้ออกไปจากห้องโดยอ้างว่าตนเองจะพักผ่อน
พอไม่มีใครอยู่แล้วหญิงสาวก็หยิบถุงหอมออกมาจากแขนเสื้อแล้วครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง ในเมื่อถุงอมนี้อยู่ใกล้ๆกับที่เกิดเหตุคนที่ผลักนางตกบ่อน้ำก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นซูหลันได้มากที่สุด
เมื่อคิดได้ซูเซียวก็เอ่ยปากเรียกให้สาวรับใช้ทั้งสองเข้ามาในห้องก่อนจะพาอ้ายเหม่ยเดินออกไปโดยให้อ้ายเสินเป็นคนเฝ้าเรือน ร่างบางเดินตามทางจนถึงเรือนของซูหลัน นางปล่อยให้สาวรับใช้เข้าไปรายงานไม่นานก็มาเชิญนางให้เข้าไปในเรือน
"พี่ใหญ่มาหาข้ามีอะไรหรือเจ้าคะ" ซูหลันที่กำลังนั่งคุยอยู่กับซูฉีหรือน้องสามรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากที่เห็นซูเซียวมาหาตนเองถึงเรือน หรือหญิงสาวจะรู้ว่าเป็นนางที่ตั้งใจผลักหญิงสาวลงไปในบ่อน้ำ ไม่มีทาง ตอนนั้นไม่มีใครอยู่แถวนั้นสักคนเดียว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นนางที่ผลักอีกฝ่าย
"ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญมากหรอก ข้าแค่เอาของที่เจ้าทำตกไว้มาคืนให้ก็เท่านั้นเอง" ซูเซียวเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบถุงหอมลวดลายสวยงามออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นให้ซูหลันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"มิทราบว่าพี่ใหญ่เจอถุงหอมของข้าที่ใดหรือ" ซูหลันยื่นมือไปรับพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น ก่อนหน้านี้นางหาถุงหอมอันนี้อยู่หลายวันแต่ก็ไม่พบ ไม่คิดว่าตนเองจะไปทำตกเอาไว้ที่ไหนจนซูเซียวไปเจอเข้า
"ข้าเจอถุงหอมของเจ้าข้างๆ บ่อที่ข้าตกลงไป มิทราบว่าเจ้าไปทำอะไรที่นั่นหรือ" พอซูหลันได้ยินว่าเจอถุงหอมของตนเองที่ไหน หัวใจก็เต้นรั่วด้วยความกลัว ไม่คิดเลยว่าถุงหอมของนางจะไปตกในที่เกิดเหตุ เป็นเช่นนี้แล้วซูเซียวจะไม่สงสัยหรือว่าตนเองเป็นคนที่ผลักหญิงสาวลงไปในบ่อ ยิ่งคิดใบหน้าของซูหลันก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที
"ก่อนหน้านี้ข้าไปเดินเล่นแถวนั้นพอดี ไม่คิดว่าจะทำตกที่นั่น ขอบใจพี่ใหญ่มากนะเจ้าคะที่เก็บเอามาคืนข้า"
"วันหน้าเจ้าก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน ถ้าหากว่าตกไปอยู่ในมือของบุรุษชั่วช้าเจ้าจะเสียหายเอาได้" ซูเซียวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อยแต่ทำไมซูหลันฟังแล้วถึงได้รู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างไรก็ไม่รู้ พี่ใหญ่คงไม่ได้สงสัยว่าโดนนางผลักตกลงไปในบ่อหรอกนะ
"เจ้าค่ะพี่ใหญ่"
"ก็แค่ถุงหอม หนึ่งชิ้นไม่เห็นจะต้องขู่ให้พี่รองกลัวเลย" ซูฉีเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คิดว่าตัวเองเป็นบุตรของฮูหยินใหญ่จริงๆ หรือไรกันถึงได้วางท่าทางใหญ่โตเสียปานนั้น คิดจะวางท่าให้ใครดูกัน
"ข้าแค่พูดเรื่องจริง ถ้าหากว่าเจ้าคิดว่าข้าขู่ก็เรื่องของเจ้า ในเมื่อข้าส่งคืนถุงหอมแล้ว ข้าขอตัวก่อนก็แล้วกัน" ซูเซียวเอ่ยบอกจบก็หันหลังเดินออกไปทันที แต่ก่อนจะออกจากเรือนของซูหลันไม่วายที่ใบหน้างดงามจะแสยะยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
"ข้าล่ะเกลียดท่าทางหยิ่งยโสของนางหรือเกิน วันหน้าเจ้าก็อย่าไปยอมลงให้นางเลย นางก็แค่ลูกอนุ เจ้าสิเป็นถึงบุตรสาวของฮูหยินใหญ่" ซูฉีเอ่ยบอกเสียงดังด้วยความหมั่นไส้ ปากเอ่ยว่าซูเซียวเป็นเพียงบุตรของอนุแต่หญิงสาวไม่ได้คิดถึงตนเองเลยว่าตนเองก็เป็นเพียงบุตรของอนุเช่นกัน
"เจ้าก็อย่าพูดมากนักเลย...กรี๊ดดด นี่มันอะไรกัน" ซูหลันเอ่ยออกมาไม่ทันไรก็ส่งเสียงร้องดังลั่นด้วยความหวาดกลัวไม่คิดว่าถุงหอมที่ตนเองถืออยู่จะมีงูตัวน้อยเลื่อยออกมา ด้วยความตกใจหญิงสาวจึงโยนถุงหอมในมือไปข้างหน้า ถุงหอมเลยไปตกลงบนตักของซูฉีทำเอาซูฉีกรีดร้องออกมาด้วยความกลัวแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งไปทั่วห้องอย่างไว
"พวกเจ้ารีบเอามันออกไปจากเรือนของข้าเดี๋ยวนี้" ซูหลันเอ่ยบอกกับสาวรับใช้ที่ตอนนี้ต่างยืนอยู่หน้าประตูด้วยความกลัวไม่ต่างจากเจ้านาย นั่นมันงูนะจะไม่ให้กลัวได้อย่างไร
"บ่าวจะรีบไปตามบ่าวชายมาเอาออกไปนะเจ้าคะ" สาวรับใช้เอ่ยบอกก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างเร็ว กว่าบ่าวชายจะมาจับงูออกไปได้ก็ทำเอาคนในเรือนต่างขวัญผวา ซูหลันถึงกับนอนจับไข้ด้วยความกลัวส่วนซูฉีก็ไม่ออกจากเรือนของตนเองอยู่หลายวัน
แต่ไม่ว่าอย่างไรซูหลันก็ไม่กล้านำเรื่องที่โดนซูเซียวกลั่นแกล้งไปบอกใคร เพราะกลัวเรื่องจะใหญ่โตจนทำให้คนอื่นรู้เรื่องที่นางผลักซูเซียวตกลงไปในบ่อน้ำ
