บทที่ 6 เซียนพนัน
บทที่ 6 เซียนพนัน
หยูชิงม่านยืนนิ่งพิจารณาอยู่ที่หน้าบ่อนสักพัก พร้อมกับคิดไตร่ตรองว่าจะทำอย่างไรดี
“การจะเข้าไปในบ่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันตั้งอยู่ในซอยที่มีผู้คนผ่านไปมาน้อยมาก และไม่ใช่ที่ที่ใครก็สามารถเข้าไปได้ เพียงแค่ยืนอยู่ข้างนอก ก็อาจจะถูกจับตามองอยู่แล้ว ถ้าจะเข้าไปก็ต้องหาคนในซะก่อน”
หยูชิงม่านพึมพำกับตัวเองก่อนจะมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง
ในหัวก็คิดหาทางไปด้วย จนสายตาของนางไปหยุดที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูบ่อน
‘เขาคนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ทำงานที่บ่อนจริงจัง เพราะสวมเสื้อผ้าธรรมดา ๆ ข้าน่าจะลองเข้าไปพูดคุยกับเขา เผื่อจะหาทางเข้าไปในบ่อนได้’
พอเห็นเช่นนั้นแล้ว นางก็เริ่มคิดในใจว่าจะลองเข้าไปหาพูดคุยกับเขาดู
จากนั้นนางก็เดินไปหาเขาอย่างมั่นใจ รอยยิ้มเล็กปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง ก่อนจะหยุดอยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มคนนั้นและเริ่มต้นบทสนทนา
“พี่ชายท่านนี้ ขอโทษที่รบกวน” หยูชิงม่านยิ้มให้เขาเล็กน้อยและเอ่ยขึ้น โดยพยายามดัดเสียงให้เป็นชายหนุ่ม
“พี่ชายพอจะรู้ไหมว่า หากจะเข้าบ่อนนี้จะต้องทำอย่างไร”
ชายหนุ่มหันมามองหยูชิงม่านในคราบชายหนุ่มอย่างสนใจ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูผ่อนคลายเล็กน้อย
“หึ… เข้าบ่อนน่ะไม่ใช่เรื่องยากนักหรอก แต่ก็ต้องมีค่าผ่านทางเฉพาะนิดหน่อย พวกเราทั้งหลายไม่อยากให้ใครที่ไม่รู้จักกัน เข้ามาวุ่นวาย”
หยูชิงม่านพยักหน้ารับรู้ แล้วก็ก้มลงไปหยิบเงินออกจากแขนเสื้อของตนเองแล้วยื่นให้ชายหนุ่มดูและเอ่ยเสียงเบาออกมา “ถ้าพี่ชายสามารถพาข้าเข้าไปได้ ข้าก็ยินดีจะให้รางวัลแก่ท่าน”
ชายหนุ่มมองเหรียญในมือของหยูชิงม่าน เขามองมาด้วยความสนใจ สายตาเริ่มเปล่งประกายระยิบระยับแล้วจึงเอ่ยขึ้นมา
“นี่มัน… เอ่อ... ท่านเป็นผู้ใดกัน ใช่คนของทางการหรือไม่”
ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มมีความสงสัย แต่สีหน้าของเขากลับไม่ได้แสดงอาการปฏิเสธ
หยูชิงม่านยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเอ่ยเสียงที่ดูคล้ายหนุ่มเสเพล “พี่ชายไม่ต้องหวาดระแวง ข้าไม่ใช่คนของทางการอะไรทั้งนั้น ข้าเป็นเพียงแค่คุณชายน้อยจากตระกูลเล็ก ๆ ที่อยากลองเข้าไปเล่นพนันดูสักครั้งหนึ่ง ข้าอยากรู้ว่าในบ่อนที่แท้จริงเป็นอย่างไร”
ชายหนุ่มหันมามองหยูชิงม่านอีกครั้ง ดูเหมือนเขาจะเชื่อคำพูดที่อีกฝ่ายกล่าวมา และยิ่งเห็นเงินที่ยื่นมาให้ ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าการพาคุณชายคนนี้เข้าไปในบ่อนคงจะไม่เสียหายอะไร
“ก็ได้ ๆ คุณชายน้อย” เขายิ้มออกมาอย่างผ่อนคลายแล้วเอ่ยขึ้นมา “เช่นนั้นตามข้ามาเถอะ แล้วท่านจะได้เห็นบ่อนในแบบที่ท่านอยากรู้”
หยูชิงม่านพยักหน้ารับอย่างมั่นใจ แต่ในใจกลับคิดอย่างรอบคอบว่า ทุกสิ่งที่นางทำในยามนี้คือการเตรียมการให้ดี
หากนางจะทำให้สำเร็จในครั้งนี้นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการไม่ทำให้ตัวเองเป็นที่สะดุดตา
ชายหนุ่มยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะพาเดินไปที่ประตูบ่อน
หยูชิงม่านเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน พอเขาหยุดตรงหน้าประตูที่มีชายคนหนึ่งที่ยืนคุมประตูไว้ เขาก็เริ่มเอ่ยขึ้น “เชิญคุณชายน้อย อย่าลืมเรื่องรางวัลตามที่กล่าวมาก่อหน้านี้นะขอรับ”
หยูชิงม่านยิ้มบาง แล้วยื่นเงินให้ชายคนนั้น จากนั้นก้าวเข้าไปในบ่อนอย่างเงียบ ๆ
ทุกอย่างราบรื่นเหมือนที่นางวางแผนไว้
เสียงโห่ร้องจากโต๊ะพนันดังสนั่นไปทั่วโรงบ่อน ขณะที่
หยูชิงม่านในคราบคุณชายน้อยกำลังเล่นได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีท่าทีลังเลหรือหวาดหวั่นแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่นางทอยลูกเต๋าหรือเปิดไพ่ คนรอบข้างก็จับจ้องด้วยลมหายใจที่กลั้นเอาไว้ แล้วเมื่อผลลัพธ์ออกมาเป็นชัยชนะของคุณชายหน้าหวานอีกครั้ง
เสียงฮือฮาก็ดังกระหึ่มขึ้นอีก
“นี่มันอะไรกัน! เจ้าเด็กคนนี้มือขึ้นชะมัด”
“ข้าเล่นมานาน ยังไม่เคยเห็นใครที่ดวงดีขนาดนี้มาก่อนเลย”
“เป็นไปได้อย่างไร ชนะติดกันตั้งหลายตาแล้ว”
คนที่เข้ามาเล่นเป็นประจำต่างเอ่ยถึงคุณชายน้อยหน้าหวานอย่างสนใจ
หยูชิงม่านได้ยินก็ทำเพียงแค่แสยะยิ้มเล็กน้อยนางไม่ได้ใช้ดวงเพียงอย่างเดียวเหมือนคนอื่น แต่ความจริงแล้วทุกการเคลื่อนไหวของนาง ล้วนผ่านการคำนวณมาเป็นอย่างดี เทคนิคที่นางเคยเรียนรู้และฝึกฝนในชาติก่อน ถูกนำมาใช้ในเวลานี้อย่างไม่ลังเล
เงินที่กองอยู่ตรงหน้าของคุณชายน้อยเพิ่มพูนสูงขึ้น
จากเดิมที่เริ่มต้นด้วยเงินทุนเพียงไม่กี่ตำลึง ยามนี้ก็กลายเป็นเงินหลายเท่าตัวแล้ว และดูเหมือนว่าผู้คนในบ่อน ก็เริ่มให้ความสนใจกับคุณชายผู้นี้มากขึ้น
เสียงซุบซิบดังไปทั่ว จนกระทั่งเถ้าแก่ของโรงพนันซึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องชั้นบน ต้องหันมามองลูกน้องที่เข้ามากระซิบบอกข่าว
เถ้าแก่ของโรงพนันผู้นี้มีนามว่าเถ้าแก่หยาง ซึ่งความจริงแล้วเขาคือโจวเหวินหลง ชินอ๋องผู้ซึ่งเป็นพระอนุชาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เขาเป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมคาย แววตาดุ มองแล้วก็ออกจะน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย และโรงพนันแห่งนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่โรงพนันธรรมดาทั่วไป แต่เป็นแหล่งซื้อขายข่าวของเขาด้วย
“มีคนมือขึ้น?” โจวเหวินหลงขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามอย่างสงสัย ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง เพื่อมองลงไปเบื้องล่าง
สายตาของเขาจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มรูปร่างโปร่งบาง
ที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพนันอย่างมั่นใจ ท่าทางสุขุมของอีกฝ่าย ไม่ได้เหมือนพวกหน้าใหม่ที่เข้ามาลองเล่น แต่กลับดูคล่องแคล่วราวกับมืออาชีพ
โจวเหวินหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางพิจารณาอย่างครุ่นคิด ‘เด็กคนนี้...ไม่ธรรมดา’
ลูกน้องที่ยืนอยู่เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา “เถ้าแก่...จะให้พวกเรา...”
“ไม่ต้อง” โจวเหวินหลงโบกมือห้ามทันที และเอ่ยต่อโดยที่สายตายังอยู่ที่เดิม “อย่าเพิ่งทำอะไร ข้าดูออกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้พึ่งพาแต่โชคเท่านั้น แต่มีฝีมือจริง หากจะจัดการคงต้องใช้วิธีอื่น”
เขาหันกลับมาสั่งลูกน้องอีกคนด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“อย่าให้ใครไปแตะต้องเขา ปล่อยให้เด็กหนุ่มคนนั้นเล่นไปก่อน ข้าอยากเห็นว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน”
คำสั่งของเถ้าแก่ทำให้บรรยากาศภายในบ่อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกคนคุมบ่อนพนันที่เริ่มคิดจะหาทางจัดการหยูชิงม่าน ก็ต้องสงบปากสงบคำ เพราะรู้ดีว่าหากเถ้าแก่เอ่ยปากแล้ว ใครกล้าฝ่าฝืนก็มีแต่จะหาที่ตาย
ขณะที่หยูชิงม่านเองก็สัมผัสได้ถึงสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมองมาที่นาง ทำให้รู้ว่ายามนี้ตนนั้นเป็นจุดสนใจของทั้งโรงพนันไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม นางกลับรู้สึกสนุกกับมันเสียด้วยซ้ำ
‘ดีล่ะ...มาดูกันว่าข้าจะกวาดเงินจากที่นี่ไปได้มากแค่ไหน’
หญิงสาวคิดในใจอย่างสนุกสนานพลางหยิบลูกเต๋าขึ้นมา แล้วเกมพนันรอบต่อไปก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
บรรยากาศในโรงพนันเริ่มคึกคักและดุเดือดยิ่งขึ้น
ทุกสายตาจับจ้องไปที่หยูชิงม่านที่อยู่ในคราบคุณชาย ที่ยังคงกวาดเงินเข้ากระเป๋าได้อย่างต่อเนื่อง นางเล่นอย่างใจเย็น ไม่เร่งรีบ และไม่โลภเกินไป แต่ทุกการเดิมพันนั้น กลับเต็มไปด้วยความแม่นยำและมั่นใจ
กองเงินที่อยู่ตรงหน้าคุณชายน้อยพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ
จนผู้คนรอบข้างเริ่มฮือฮา จากที่เคยคิดว่านางเป็นแค่เด็กหนุ่มหน้าใหม่ที่โชคดี ยามนี้พวกเขาเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้ว
“เป็นไปได้ยังไงกัน นี่มันไม่ใช่แค่โชคแล้ว”
“หรือว่าเด็กนี่จะเป็นเซียนพนัน?”
เสียงซุบซิบดังไปทั่วโรงพนัน ไม่ช้าเหล่าผู้เล่นมากประสบการณ์และเซียนพนันของที่นี่ ก็เริ่มขยับตัวเข้ามา
