ตอนที่หนึ่ง บัวสโรชินี
เอี๊ยด!
ตุ๊บ!
อ๊ายยยย!
เสียงรถกระแทกคนอย่างแรงพร้อมกับเสียงเบรกอย่างกะทันหันและเสียงร้องอย่างตกใจ ก่อนที่ร่างหญิงสาวคนหนึ่งจะกระเด็นกลิ้งไปตามการชนอย่างแรง ในขณะที่ผู้ขับรถเองก็พยายามเบรคจนฝุ่นฟุ้งกระจาย
น่าแปลกที่ชายหนุ่มซึ่งวิ่งไล่หญิงสาวคนนั้นมาติดๆกลับไม่คิดจะวิ่งเข้าไปช่วยเหลือหรือดูแล เขาหันหลังวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
เฮ้ย!.... เสียงคนขับรถตะโกนเรียกด้วยความไม่เข้าใจ
“คุณหนูสาม ท่านฝันร้ายอีกแล้วหรือเจ้าคะ” เสียงอาหนิง สาวใช้ประจำตัวเขย่าเรียกจนไป่เหลียนฮวาต้องลืมตาขึ้นมาอย่างมึนงง นางพยายามตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรู้สึกตัวได้ว่าตอนนี้นางคือคุณหนูสามแห่งสกุลไป่
บิดาของนางเป็นขุนนางซึ่งเพิ่งได้รับโทษประหารชีวิตด้วยข้อหายักยอกเงินภาษีของหลวงไปเมื่อหลายวันก่อน ในขณะที่หญิงสาวในสกุลล้วนโดนส่งมายังหอเริงรมย์แห่งนี้
“ข้าขอนอนอีกสักครู่ได้หรือไม่” ไป่เหลียนฮวาเอ่ยบอกกับสาวใช้ด้วยยังรู้สึกอ่อนแรงอยู่มาก ยามนี้ร่างกายของนางเพิ่งฟื้นไข้จึงยังไม่สามารถลุกขึ้นทำอันใดได้
“คุณหนูนอนพักอีกสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ บ่าวจะออกไปช่วยนายหญิงใหญ่ดูแลคุณหนูใหญ่และคุณหนูรอง” อาหนิงเอ่ยบอกก่อนจะรีบเดินออกไป
ไป่เหลียนฮวาหลับตาลงพลางครุ่นคิด
นางตื่นมาในร่างนี้ได้สามสี่วันแล้ว คราแรกนางยังงุนงงปรับตัวไม่ถูกจนผู้เป็นมารดากังวลว่านางจะมีอาการเสียสติจากความเสียใจ จนเมื่อสาวใช้อาหนิงค่อยๆเล่าเรื่องราวให้ฟัง นางจึงประมวลเรื่องต่างๆจนพอทำความเข้าใจได้บ้าง
นั่นเพราะร่างนี้ของหญิงสาวที่ชื่อไป่เหลียนฮวาไม่ใช่ร่างจริงของเธอ เธอมีชื่อว่า’สโรชินี’ หรือ’บัว’เป็นนักศึกษาจบใหม่จากสถาบัน การศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่ง ด้วยความที่มีหน้าตาโดดเด่นแต่ฐานะทางบ้านไม่ใคร่ดีนัก เธอจึงหาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอดด้วยอาชีพซึ่งใช้หน้าตาและรูปร่างเป็นบันได ปกติเธอจะระมัดระวังตัวอย่างดี เพราะอาชีพของเธอมักสุ่มเสี่ยงจากการโดนลวนลามและจ้องจะหาโอกาสจากผู้ชายทั้งหนุ่มทั้งแก่
แม้ที่ผ่านมาจะมีผู้เสนอเงินรายเดือนเพื่อเลี้ยงดูส่งเสียแลกกับการมอบความสุขให้แก่เขา แต่เธอก็หาทางเลี่ยงและปฏิเสธเรื่อยมา นั่นไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากได้เงิน แต่เป็นเพราะเธอคิดว่ายังพอมีหนทางอื่นที่จะหาเงินได้อีก
ใครจะคิดว่าด้วยคำชวนของเพื่อนร่วมงานซึ่งคบหากันมาเกือบปี จะทำให้เธอพลาดท่าเกือบโดนหลอกไปถ่ายหนังโป๊เสียแล้ว
เพราะคิดว่าเธอกำลังหางานประจำเพื่อเป็นรายได้หลักหลังจากที่เรียนจบมาได้สี่ห้าเดือนแล้ว เพื่อนร่วมงานสาวซึ่งมักพบกันตามงานแสดงสินค้าต่างๆจึงหวังดีชักชวนให้เธอมาสัมภาษณ์งานกับผู้บริหารใหญ่ของบริษัทแห่งหนึ่ง
ตอนได้ยินชื่อสถานที่สัมภาษณ์งาน บัวเองก็คิดว่าดูแปลกๆ แต่เพื่อนร่วมงานสาวยืนยันว่าบริษัทของพวกเขามีธุรกิจรีสอร์ตด้วย นั่นจึงทำให้พวกเธอสองคนยอมนัดมาสัมภาษณ์งานที่รีสอร์ตชานเมืองแห่งหนึ่ง
ผู้ชายซึ่งแนะนำตัวเองว่าคือเจ้าของบริษัท ดูสุภาพเรียบร้อย พูดจาเป็นการเป็นงาน ขณะที่ผู้ชายอีกสองคนไม่พูดอะไรมากนักแค่นั่งวางมาดให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้น พวกเขาเสนอเลี้ยงข้าวสองสาวอย่างใจดี ซึ่งทั้งสองยอมรับคำชวนด้วยบรรยากาศในรีสอร์ตดูปลอดโปร่งไม่น่ากลัวและยังมีคนเข้าออกอยู่บ้างพอประมาณ
จนเมื่อทั้งหมดย้ายสถานที่คุยมายังห้องพักห้องหนึ่งซึ่งดูโล่งกว้างและมีสวนสวยอยู่ด้านหน้า จู่ๆบัวก็รู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มแปลกไป ผู้ชายสองคนพาเพื่อนร่วมงานสาวแยกคุยห่างออกไปด้วยท่าทีเอาใจใส่จนเกินเหตุ ในขณะที่เจ้าของบริษัทหนุ่มพยายามพูดจาใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้นจนผิดสังเกต จนเมื่อเธอเริ่มรู้สึกวูบๆวาบๆร้อนรุ่มจึงคิดได้ว่ามีความไม่ชอบมาพากลแน่ๆแล้ว
บัวรีบรวบกระเป๋าเข้าหาตัวก่อนจะทำทีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
“น้องสโรชินีเข้าห้องน้ำในห้องนี้ก็ได้นะ พี่อนุญาต” ชายหนุ่มซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของบริษัทได้ทีเปิดประตูห้องพักเพื่อเชิญชวนให้เธอเข้าไปใช้ห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านใน
บัวส่ายหัวรัวเร็วก่อนจะรีบหาข้ออ้าง
“หนูขอไปเข้าที่ด้านหน้ารีสอร์ตดีกว่าค่ะ พอดีหนูปวดหนักหน่ะค่ะ คงจะทั้งนานทั้งเหม็น เดี๋ยวหนูรีบมานะคะ”
บัวรีบวิ่งออกมาโดยไม่รออะไรอีก ก่อนจะหันไปเห็นว่าผู้ชายสองคนซึ่งพาเพื่อนร่วมงานสาวของเธอแยกออกไปเริ่มลวนลามปลุกปล้ำถอดเสื้อผ้ากันแล้ว
คราวนี้บัววิ่งโดยไม่ฟังเสียงเรียกหรือหันไปมองอะไรอีก
แต่ด้วยต้องหยุดเปิดประตูจึงทำให้ชายหนุ่มซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัทวิ่งมาทันและพยายามรวบตัวเธอเอาไว้อย่างรุนแรง
“ปล่อยหนูนะคะ พวกหนูไม่ได้ตกลงมาทำอะไรแบบนี้ พวกคุณทำอย่างนี้มันผิดกฎหมายนะคะ”
“ไม่ได้ตกลงอะไรกัน เพื่อนหนูตกลงกับเราเรียบร้อยแล้ว”
บัวหันไปมองเพื่อนร่วมงานสาวด้วยความตกใจแต่เมื่อเห็นว่าเธอพยายามดิ้นรนต่อสู้อยู่เช่นกันจึงไม่เชื่อคำกล่าวอ้างนั้น
“ไม่จริง พวกเราไม่ได้ตกลงอะไรทั้งนั้น พวกคุณรีบปล่อยตัวพวกหนูนะคะ ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องแน่” บัวพูดขู่เสียงดังขณะพยายามตั้งสติสุดชีวิตเพื่อหาทางรอด
“เป็นเรื่องแน่จ๊ะ หลายเรื่องเลยล่ะ ดูสิ ทีมกล้องตั้งกันอยู่นั่น” ชายหนุ่มคนนั้นชี้ไปทางด้านข้างให้เห็นกล้องซึ่งกำลังตั้งถ่ายไปทางเพื่อนร่วมงานสาวซึ่งโดนรุมอยู่อย่างน่าสงสาร
“พวกคุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร พวกเราไม่ได้ยินยอม นี่มันเป็นคดีอาญานะคะ หนูจะแจ้งตำรวจ หนูจะฟ้อง” บัวขู่ฟอดอย่างไม่ยอมขณะพยายามดิ้นหนีอย่างสุดแรง
“กว่าจะฟ้องคลิปของพวกหนูก็คงว่อนไปทั่วแล้วล่ะ” ผู้ชายคนนั้นไม่ได้กลัวคำขู่แถมยังพยายามปล้ำถอดเสื้อผ้าเธอให้ได้
สายตาของบัวพยายามสอดส่ายหาทางหนีจนเห็นว่ามีรถขับเข้ามาทางด้านหน้ารีสอร์ต ด้วยแม้บริเวณนี้จะเป็นห้องส่วนตัวแต่ก็มีส่วนของสวนซึ่งเชื่อมติดกับบริเวณอื่นๆ
เธอรีบรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีก่อนจะผลักผู้ชายชั่วชาติที่กอดปล้ำอยู่บนตัวออกแล้ววิ่งสุดแรงเกิดกระโดดข้ามรั้วต้นไม้ของสวนไปทางรถคันนั้น
“ช่วยด้วยยยยยยย” เสียงตะโกนดังลั่น
“ช่วยพวกหนูด้วยยยยย” เธอร้องไปก็วิ่งไปโดยมีชายหนุ่มคนนั้นซึ่งรีบลุกขึ้นวิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว
บัวตัดสินใจวิ่งเข้าไปหารถคันนั้นด้วยหวังว่าคนขับน่าจะหยุดเพื่อช่วยเหลือพวกเธอ ใครจะคิดว่าเขาเอาแต่กดโทรศัพท์โดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง และแล้ว
เอี๊ยด!
ตุ๊บ!
อ๊ายยยย!
หลังจากนั้นเธอก็หมดสติไปโดยไม่รู้ตัว
