ตอนที่หก ผู้ชนะการประมูล
ชายหนุ่มมีสีหน้าครุ่นคิดพลางพยายามคิดคำนวณเลขในใจอย่างหนักก่อนจะยิ้มขึ้นมาแล้วรีบตอบอย่างมั่นใจ
“42คน บุตรชาย5 แต่ละคนมีหลาน8 พวกเขาไปเที่ยวกัน42คน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ชายหนุ่มผู้ชนะการประมูลคนแรกหัวเราะอย่างดีใจด้วยไม่คิดว่าคำถามจะง่ายดายถึงเพียงนี้
นางเป็นเพียงหญิงคณิกาจะให้มีสมองมาคิดคำถามยากปานใดเชียว คงเพียงแค่อยากเรียกค่าตัวให้สูงขึ้นเท่านั้น
เขาคิดอย่างดูหมิ่นดูแคลน
ชายหนุ่มทั้งหลายหันมามองหน้าไป่เหลียนฮวาอย่างจดจ่อ บางคนพอจะเดาคำตอบได้ก็รอหัวเราะเยาะชายหนุ่มผู้ชนะการประมูลคนแรกอย่างสะใจ
“ไม่ถูกต้องเจ้าค่ะ” เสียงอันไพเราะของไป่เหลียนฮวาดังออกมาก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะและเสียงเซ็งแซ่ของบรรดาชายหนุ่มดังขึ้นอย่างวุ่นวาย
“จะไม่ถูกต้องได้อย่างไร แม่นางดอกบัวขาว เจ้าอย่าได้โยกโย้ สองผู้เฒ่ามีบุตรชาย5 แต่ละคนมีหลาน8 ก็เท่ากับ40 รวมพวกเขาอีก2คน ย่อมรวมได้ว่าพวกเขาไปเที่ยวกัน42คน” ชายหนุ่มผู้ชนะการประมูลคนแรกยังคงมั่นใจในคำตอบของตนเอง
“ข้าเอ่ยตั้งแต่ต้นว่ามีคู่รักวัยชราไปเที่ยวกันสองคน ส่วนที่พูดภายหลังเป็นเพียงการบอกกล่าวว่าพวกเขามีบุตรชาย5คน บุตรแต่ละคนมีหลานให้พวกเขาอีกคนละ8คน แต่ไม่ได้บอกว่าบุตรชายและหลานของพวกเขาไปเที่ยวด้วยกันสักหน่อย ความจริงข้าบอกท่านแต่แรกแล้วว่าพวกเขาสองผู้เฒ่าไปเที่ยวกันสองคน ดังนั้นคำตอบจึงเป็นสองคนเจ้าค่ะ”
ไป่เหลียนฮวาเฉลยคำตอบช้าๆก่อนจะหันไปยิ้มแย้มให้ชายหนุ่มผู้ชนะการประมูลคนแรกเป็นเชิงว่านางบอกคำตอบเขาแต่แรกแล้ว
ชายหนุ่มผู้ชนะการประมูลคนแรกทรุดลงคิดตามก่อนจะมีสีหน้าแดงสลับเขียวอย่างอับอายเมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่ไป่เหลียนฮวาพูดเป็นเรื่องจริง เขามัวแต่คิดคำนวณโดยไม่ได้ใส่ใจคำพูดของนางอย่างถ่องแท้ เป็นเขาที่พลาดเอง
“ข้าแพ้แล้ว พวกท่านประมูลต่อเถอะ” เขายอมแพ้แต่โดยดี ขณะเตรียมตัวประมูลรอบต่อไปเพื่อให้ได้ตัวนางซึ่งเขาดูหมิ่นว่าไร้สมอง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
การประมูลดำเนินต่อไปอย่างเร่งเร้า ระหว่างรอบ ไป่เหลียนฮวาร่ายรำยั่วเย้าหนักขึ้นเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาใส่ราคาให้มากขึ้น จนรอบที่สี่ราคาประมูลขึ้นมาถึง50เหรียญทองแล้ว แต่ยังไม่มีผู้ใดสามารถตอบคำถามของนางได้
ป้าผู้ดูแลหอเริงรมย์ยืนยิ้มอย่างเริงร่า ในขณะที่ผู้ดูแลชายพยายามพูดเร่งเร้าให้ชายหนุ่มทั้งหลายต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ไป่เหลียนฮวาร่ายรำจนเหนื่อยอ่อนด้วยพยายามใส่พลังแห่งการเย้ายวนเข้าไปอย่างเต็มที่ ถึงตอนนี้นางลอบมองหน้าผู้ชนะการประมูลในแต่ละรอบ
ชายหนุ่มคนแรกอายุราว30 หน้าตาท่าทางคล้ายบัณฑิต แม้เขาจะพยายามประมูลเพิ่มในรอบต่อไปแต่ก็ไม่สามารถสู้ชายสูงวัยคนที่สองซึ่งอายุราว50ได้ ชายคนที่สองนี้มีท่าทางคล้ายขุนนางซึ่งนางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดังนั้นจึงตัดออกไปจากตัวเลือกได้เลย
ชายคนที่สามมีอายุราวใกล้40 เขามีลักษณะคล้ายพ่อค้าด้วยรูปร่างกลมใหญ่ น่าจะเจริญอาหารอย่างมาก
ชายคนที่สี่ซึ่งเพิ่งชนะการประมูลถึง50เหรียญทองแต่ไม่สามารถตอบคำถามของนางจึงได้แต่นั่งลงอย่างโมโหโทโส เขามีอายุราว20กว่าเท่านั้น หน้าตาสะอาดสะอ้านท่าทางคล้ายคุณชายตระกูลใหญ่ผู้เอาแต่ใจ
อาหนิงเดินมากระซิบยามที่นางนั่งพักอยู่ด้านหลังฉากผ้าบางในช่วงระหว่างรอบ
“คุณชายเฉา อดีตคู่หมั้นของคุณหนูยืนอยู่ทางด้านหลังเจ้าค่ะ” ไป่เหลียนฮวาไม่รู้ว่าคนใดคือคุณชายเฉาจึงได้แต่ไม่พยายามเหลือบแลไปทางด้านนั้น
จนถึงรอบที่ห้าซึ่งเป็นรอบสุดท้าย ไป่เหลียนฮวาร่ายรำอย่างสุดฝีมือ โดยใช้ลีลายั่วยวนที่สุดเท่าที่คิดได้ออกมา นางยกขาขึ้นสูงก่อนจะวนขาไปรอบๆคล้ายท่าบัลเลต์ มือบางลูบไล้จากขาผ่านสะโพกมาหยุดตรงร่องกลางสะโพกจนได้ยินเสียงซี๊ดซ๊าดดังออกมาจากเหล่าผู้ชม
หญิงสาวก้มลงจนทรวงอกล้นแทบทะลักออกมาก่อนจะค่อยๆเงยขึ้นเพื่อสบตายั่วยวน แล้วจบด้วยการแตะมือไปบนส่วนกลางอันบอบบางของร่างกายอย่างแผ่วเบา
โอ๊ย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยต้องทำอะไรขนาดนี้เลย ทำถึงขนาดนี้แล้ว ประมูลให้สูงสุดๆเลยนะเจ้าคะ
ไป่เหลียนฮวาตะโกนในใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย
ก่อนจะกลับไปยืนหอบอยู่ด้านหลังม่านบางอีกครั้ง
เสียงประมูลเซ็งแซ่ดังขึ้นไม่หยุดเนื่องจากรอบนี้เป็นรอบสุดท้าย ดังนั้นเหล่าชายหนุ่มซึ่งนั่งรอดูความครึกครื้นจึงแสดงตัวออกมาอย่างต่อเนื่องจนราคาประมูลขึ้นไปถึง80เหรียญทองแล้ว
ป้าผู้ดูแลเตรียมตัวลุกขึ้นด้วยคาดว่าราคาคงสุดอยู่ที่ตรงนี้ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นราคาที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดหอเริงรมย์มา ผู้ใดจะคิดว่าสตรีธรรมดานางหนึ่งจะประมูลพรหมจรรย์ได้ถึง80เหรียญทอง นั่นสามารถซื้อบ้านได้ทั้งหลังหรือให้ครอบครัวหนึ่งกินใช้ได้หลายปีทีเดียว
เสียงอันทรงพลังเสียงหนึ่งดังมาจากระเบียงด้านข้าง
“100เหรียญทอง”
ทุกเสียงหยุดลงอย่างชะงักงันจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของตนเอง ทุกสายตาหันไปมองเจ้าของเสียงทรงพลังเป็นตาเดียวแต่ด้วยเขาหลบอยู่ห่างไกล อีกทั้งยังมีชายหนุ่มอีกสองคนนั่งบังอยู่จึงมองเห็นไม่ชัดนัก
ผู้ดูแลชายซึ่งเพิ่งได้สติรีบประกาศขานราคาก่อนจะปิดสรุปราคาที่100เหรียญทองด้วยกิริยาแตกตื่น
“เหลียนฮวา เจ้าถามคำถามง่ายๆหน่อย” เขารีบพุ่งเข้าไปกระซิบไป่เหลียนฮวาเพราะอยากให้ชายหนุ่มใจป้ำคนสุดท้ายชนะการประมูลไป
ไป่เหลียนฮวามองอย่างไรก็ไม่เห็นหน้าผู้ชนะการประมูลคนสุดท้าย นางจึงตัดสินใจทำตามกติกาโดยถามคำถามสุดท้ายซึ่งคิดเอาไว้ออกไป
“สิ่งใดเอ่ย ช่างเปราะบางยิ่งนัก เพียงเอ่ยถึง สิ่งนั้นก็จะหายไป”
สิ้นสุดเสียงอันไพเราะ บรรดาชายหนุ่มทั้งหลายก็หันไปถกเถียงกันดังลั่นเพื่อหาคำตอบอันถูกต้อง
“ข้าจะตอบได้หรือยัง” เสียงทรงพลังเอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายเสียงอันดังจนฟังสิ่งใดไม่ได้เลย
ผู้ดูแลชายรีบก้าวออกไปเชื้อเชิญ
“เชิญนายท่านตอบได้เลยขอรับ”
เสียงรอบข้างเงียบลงดังสั่งได้ ชายหนุ่มทั้งหลายกลั้นหายใจรอฟังคำตอบอย่างจดจ่อ
“สิ่งอันเปราะบางเพียงเอ่ยถึงสิ่งนั้นก็จะหายไป นั่นก็คือความเงียบอย่างไรเล่า” เสียงทรงพลังตอบออกมาอย่างมั่นใจ
ไป่เหลียนฮวาชะงักรอยยิ้มซึ่งเตรียมเอาไว้ก่อนจะหันไปเพ่งมองชายผู้นั้นอีกครั้ง
“ถูกต้องหรือไม่” เสียงทรงพลังถามออกมาอย่างกดดัน
ผู้ดูแลชายก้าวเข้ามาใกล้พลางกระซิบถาม
“ถูกต้องหรือไม่ ตอบออกมาสิเหลียนฮวา”
“ถูกต้องเจ้าคะ” ไป่เหลียนฮวาจำใจต้องยอมรับว่านั่นคือคำตอบที่ถูกแม้นางจะไม่อยากยอมรับว่านางแพ้แล้ว
เสียงเซ็งแซ่ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ผู้ชนะซึ่งไม่ใช่ตนเอง พวกเขาบางคนก็ยอมรับได้อย่างลูกผู้ชาย แต่บางคนยังคงไม่พอใจด้วยตนเองไม่อาจได้นางอันงดงามไปครอบครอง
“เพียงได้ชมการร่ายรำอันงดงามก็คุ้มค่าแก่การมาแล้ว”
“นางงดงามยิ่ง เสียดายที่เป็นเพียงนางคณิกา”
“ข้าจะรอยามนางค่าตัวลดลงมา ถึงไม่ได้เป็นคนแรกก็ขอให้ได้เชยชมนางสักครา”
“ข้าจะรวบรวมเงินทองมาซื้อนางสัก3วัน คอยดูเถอะ”
เสียงพูดคุยดังอย่างไม่เกรงใจใคร จนเมื่อผู้ดูแลชายประกาศผู้ชนะแล้วและเชิญเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายให้ออกไปหาความสำราญยังส่วนอื่นๆ
