บท
ตั้งค่า

Chapter4

4

บนโต๊ะชมรม

Ari’ s Part

เด็กห้องคิงอย่างเราโดดเรียนอาจารย์ยังไม่ว่าเลย ไม่รู้จะว่างอะไรนักหนา ตั้งแต่ให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเองวันๆ ก็ได้แต่กินกับนอน โต๊ะประจำที่เรานั่งอยู่นี้ตีกรอบกั้นไว้เป็นสี่เหลี่ยมเหมือนมันเป็นสนามอะไรสักอย่าง ลองถามรุ่นน้องรุ่นพี่ ถามอาจารย์ดูก็รู้ว่ามันคือสนามเปตอง (เด็กสมัยนี้รู้จักกีฬาเปตองกันไหม?)

ชมรมที่บังคับให้ทุกคนต้องมีคือปัญหาใหญ่หลวง เพราะไม่รู้จะไปอยู่ชมรมอะไรดี แค่เวลาที่เรียนก็แน่นมากแล้ว กีฬาไม่เก่ง ดนตรีเล่นไม่เป็น ทำอาหารไม่ได้เรื่อง สรุปมีชมรม " อยู่ว่างๆ ไหม? " ด้วยสมองอันชาญฉลาดของข้า บรรเจิดไอเดียว่าจะตั้งชมรมเอง

กฎการตั้งชมรม

1. มีอาจารย์ที่ปรึกษาชมรม 1ท่าน (อาจารย์ ห้องพยาบาล)

2. มีสมาชิกอย่างน้อย 5คนขึ้นไป (เอริ , ฝุ่น , วาวา , น้องเล็ก , แซมมี่)

3. มีหัวหน้าชมรม (เอริ)

4. มีสถานที่หลักในการจัดกิจกรรม (โต๊ะประจำ สนามเปตอง)

จัดตั้งชมรมเปตองอย่างง่ายดาย กรอกชื่อเพื่อนให้เสร็จเรียบร้อยโดยที่พวกมันยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป

น้องเล็ก : " เอริ แกจะอยู่ชมรมไหนวะ เราไปอยู่ด้วยดิ "

เอริ : " ได้ๆ แกต้องอยู่ อยู่แล้ว "

ฝุ่น : " แกเลือกชมรมอะไร "

วาวา : " ปลูกต้นไม้ไหม คนน้อยดี "

แซมมี่ : " ชมรมการละครไหม น่าสนุกนะ "

วาวา : " ฝุ่น แกเลือกชมรมอะไร "

ฝุ่น : " ไม่รู้วะ เลือกอันเดียวกับเอรินะ "

เอริ : " ไม่ต้องคิดแล้ว ทุกคนอยู่ชมรมเดียวกันนี่แหละ " #ชูใบจัดตั้งให้ดู

" ชมรมเปตอง!! " #พูดพร้อมเพียง

สต๊อป : " เราขออยู่ด้วยดิ "

ปลาย แจ็ค : " เออๆ อยู่ด้วย ได้ไม่ต้องหา น่าเบื่อ "

สมาชิกจากห้าคนเริ่มขยับขึ้นมาเป็นแปด และเริ่มมีทั้งรุ่นน้อง รุ่นพี่มาขออยู่ชมรมนี้มากขึ้น จนตอนนี้ทะลุไปร้อยกว่าคนแล้ว พวกเค้าไม่ได้ชอบเล่นเปตอง ไม่ได้พิศวาสฉันแต่เพราะสามหนุ่มอยู่ที่นี้ จุดนี้เลยเฉิดฉายประหนึ่งคอนเสิร์ตเดอะสตาร์

อาจารย์ที่ปรึกษาท่านเก่งเรื่องเปตองมาก เอริลองเล่นแล้วก็ติดใจเพราะมันฝึกสมาธิได้ดี แต่ก็ยังหงุดหงิดกับเสียงกรี๊ดดังขัดจังหวะเรื่อยๆ สามหนุ่มหนีบกีตาร์มาเกาเพลงสร้างบรรยากาศชิวๆ เกือบทั้งชั่วโมง เสียงใสของสต๊อปตอนร้องเพลงเป็นอะไรที่น่ารัก รอยยิ้มมุมปากกับสายตาก้มต่ำใต้แว่นใสยิ่งชวนหลงใหล ฉันรู้สึกใจเต้นแรง

สต๊อป : " เอริ อยากฟังเพลงอะไร "

เอริ : " อาราย ก็ได้ " #ทำไมกูต้องแอ๊ปเสียงแบ๊วด้วยวะ

 

TALK : Writer

“เปตอง “ (ลูกบูล) คือกีฬาที่มาจากฝรั่งเศสในสมัยดึกดำบรรพ์ จนมาถึงสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงพระองค์ได้ทรงประกาศสงวนกีฬาการเล่นลูกบูลนี้ไว้สำหรับผู้สูงเกียรติ และให้เล่นได้เฉพาะพระราชสำนักเท่านั้น ต่อมาในสมัยพระเจ้านโปเลียนมหาราชขึ้นครอง อำนาจพระองค์ได้ทรง ประกาศใหม่ ให้การเล่นลูกบูลนี้เป็นกีฬาประจำชาติของฝรั่งเศสและเปิดโอกาสให้ประชาชน ทั่วๆ ไป ได้เล่นกันอย่างเสมอภาคทุกคน การเล่นลูกบูลนี้จึงได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตลอดมา เช่น โดยการนำเอาลูกปืนใหญ่ที่ใช้แล้วมาเล่นกันบ้างอย่างสนุกสนามและเพลิดเพลิน

วิธีเล่นเปตอง คือ วาดวงกลมลงบนดิน แล้วให้ผู้เล่นเข้าไปยืนเพื่อโยนลูกเหล็ก เริ่มเกมส์ด้วยลูกแก่น (ลูกเป้าหมายของเกมส์) ทีมไหนโยนลูกเหล็กใกล้แก่นมากที่สุดก็นับคะแนนเป็นของทีมนั้นไป

กีฬาเปตองเป็นกีฬาที่ฝึกสมาธิ การควบคุมลมหายใจได้ดี การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีด้วย ในเกมส์การแข่งขันเราไม่รู้ว่าจะเจอสถานการณ์ หรืออารมณ์แบบไหน จึงเหมาะสมสำหรับการฝึกคนสมาธิสั้น (อย่างเอริ)

ตั้งแต่วันนั้นแม้จะพยายามทำทุกวันให้เหมือนปกติ คุยเล่น เฮฮา แต่ลึกๆ ก็รู้ดีว่ารู้สึกดีกับเค้ามากกว่าที่รู้สึกกับกีกี้ซะอีก หนังสือเพลงกางเปิดให้เลือกว่าอยากฟังเพลงอะไร? เอาเหอะ!! อยากร้องเพลงอะไรก็ร้องมา เพราะมันไม่ได้อยู่ที่เพลง ประเด็นมันอยู่ที่คนร้องมากกว่า ... น่ารักชิหาย ^^

สต๊อป : ^^

รึเปล่า เธอคิดอยู่รึเปล่า

ไม่อยากจะคาดเดา เราอาจจะคิดไปเอง

รึเปล่า เธอคิดอยู่รึเปล่า

รู้สึกบ้างรึเปล่า เพราะว่าฉันรักแต่เธอ

รู้สึกรึเปล่า

(CR. รึเปล่า ARMCHAIR) #เขินหน้าร้อนฉ่า

โลกที่เคยมีกันอยู่แค่ห้าคนตอนนี้เริ่มวุ่นวายมาก คนนี้คู่คนนั้น คนนั้นกิ๊กอยู่กับคนโน้นมั่วไปหมด ความรักมันก็แบบนี้แหละ

" ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป " ความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ในใจ เริ่มรู้สึกมากขึ้นทุกๆ วันจะจัดการกับมันยังไงดี จะคุยกับไอ้ฝุ่นก็ไม่กล้า ก็มันเป็นประเภทไม่เก็บความลับเดี๋ยวต้องรู้ถึงหูสต๊อปแน่ๆ ไม่อยากให้อะไรมาทำลายคำว่าเพื่อนของเรา คงต้องเก็บรอยยิ้ม เสียงหัวเราะนี้ไว้แค่ในใจแล้วล่ะ

ปลายนิ้วลูบไล้เส้นผมอย่างอ่อนโยน ฝ่ามือลูบลงตามกรอบหน้า ดวงตาจ้องสื่อความหมาย ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มใสอย่างแผ่วเบา จงใจเลยมาจนถึงริมฝีปากบาง นิ้วหัวแม่มือคลึงเบาๆ ที่ปากอีกฝ่ายก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ร่างบางในอ้อมแขนหลับตาพริ้มรอรับรสจูบ เหมือนอนุญาตให้อีกเค้าได้ใจบดเบียดริมฝีปากเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ฝ่ามือร้อนเคลื่อนล็อกอยู่หลังคอ หาองศาที่จะบดปากได้แนบชิดยิ่งขึ้น รู้สึกลิ้นชุ่มเลียตามเนื้อบาง ค่อยๆ ชิมความหวานทีละนิดๆ สลับกับดูดคลึงจนรู้สึกชาไปทั้งตัว สองแขนกอดรัดแนบชิด ร่างบางทุบประท้วงเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ..

เฮ้อ .. เฮ้อ บ้าจริง!! " ฝันแบบนี้อีกแล้ว "

Diary วันที่ 1

รึเปล่า เธอคิดอยู่รึเปล่า

ไม่อยากจะคาดเดา เราอาจจะคิดไปเอง

รึเปล่า เธอคิดอยู่รึเปล่า

รู้สึกบ้างรึเปล่า เพราะว่าฉันรักแต่เธอ

รู้สึกรึเปล่า

คิดซิ .. คิดมั้ง .. คิดได้ใช่ไหม

ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้

ทำไมต้องใจเต้นแรงขนาดนี้

ทำไมต้องอยากเจอมากขนาดนี้ STOP!! Miss You

 

น้องเล็ก’ s Part

เอริ : " น้องเล็ก แกคิดจะมีแฟนไหมวะ "

น้องเล็ก : " ไมว่ะ ไม่คิดจะเอาตัวเองไปหยุดที่ใครคนเดียว "

เอริ : " แล้วแกไม่คิดอยากจะ เอออ..กอด หรือหอม อะไรแบบนี้แฟนมั่งเหรอวะ "

น้องเล็ก : " จะกอด จะจูบกันมันต้องแฟนกันแค่นั้นเหรอ กับคนอื่นไม่ได้ไง?

น้องเล็ก : “แกนี่เด็กจังเนอะ " #หัวเราะขำๆ

น้องเล็ก : " จะถามอะไรก็ถามมา เอาตรงๆ อ้อมค้อมอยู่ได้ "

เอริ : " แกเคยจูบกับใครเปล่าวะ "

น้องเล็ก : " เคยดิ "

เอริ : " แล้วตอนที่หายใจไม่ออก แกทำไงอะ "

น้องเล็ก : " ลองไหม? อธิบายไม่ถูกวะ "

เอริ : " บ้าไม่เอา "

น้องเล็ก : " ถ้าแกอยากรู้จริงๆ นะ มีที่หนึ่งแกไปสังเกตการณ์เอาเอง รับรองเด็ด "

เอริ : " ที่ไหนวะ "

น้องเล็ก : " คาบแปดก่อนชมรม ยอมโดดไหมละจะพาไป "

เอริ : " ไปไหน? "

น้องเล็ก : " ในโรงเรียนนี้แหละ เอาเปล่า "

เอริ : " เออ ก็ได้ "

สัญญาณเตือนหมดคาบเรียนดังขึ้น รีบลากแขนเอริออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว เดินลัดเลาะเส้นหลังตึกจนมาถึงห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา พวกเบาะยิมนาสติก ลูกบอลวอลเล่ย์บอลเต็มไปหมด สภาพในห้องบ่งบอกว่าเป็นที่รวมตัวของใครสักกลุ่ม ลากเก้าอี้จับเอริยัดซอกหลังเบาะเลือกมุมเหมาะๆ ให้ ไม่นานเสียงเรียกจากคนที่นัดไว้ก่อนตามมา (เบญ #เด็กสายวิทย์ห้องคิง แว่วตาหนา เรียบร้อย แต่งตัวถูกระเบียบเป๊ะ)

เบญ : " รอนานไหมน้องเล็ก "

น้องเล็ก : " ไม่ เพิ่งมาเหมือนกัน "

เดินไปโอบหลังเบญอย่างเอาใจ ประคองเบญมานั่งมุมที่เอริซุ่มอยู่ ค่อยๆ บีบไหล่ไล่ความล้าสะสม กดจมูกสดดมกลิ่นหอมที่เพิ่งฉีดพรมมาใหม่ๆ ซุกไซ้หลังหูอย่างเอาใจก่อนจะเบี่ยงตัวมาด้านหน้า คุกเข่าลงพื้นยืดตัวขึ้นไปบดจูบปากอีกฝ่าย บดคลึงเร่งจังหวะจนเบญดิ้นรนขออากาศหายใจ เบญก้มลงมาจูบย้ำๆ อย่างกับจะแข่งว่าใครคือคนชนะ มือเริ่มลูบต้นขาถกกระโปรงขึ้นเหนือเข่า อีกข้างบีบคลึงสองเต้าเล็กผ่านเสื้อนักเรียน

น้องเล็ก : " คิดถึงจัง "

เบญ : " ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง "

น้องเล็ก : " คิดถึงที่มันอยู่ข้างในนี่ตังหากละ "

ไม่พูดเปล่าลุกตัวขึ้นถาโถมริมฝีปากใส่ ฝ่ามือเลื่อนจากหน้าขาขึ้นไปจนถึงเนินสามเหลี่ยมอุ่น ปลายนิ้วบดบี้เม็ดเล็กผ่านชั้นในบาง เสียงกระเส่าของเบญที่พยายามกลั้นยิ่งน่าแกล้ง ล้วงมือเข้าชั้นในผ่านขนอ่อนนุ่ม ร่างเบญเกร็งหนักหนีบขาแน่นจนต้องเปลี่ยนท่าให้เค้ารู้สึกผ่อนคลาย ดึงตัวเบญลุกขึ้นจากเก้าอี้ สลับตำแหน่งลงไปนั่งข้างล่างให้เบญนั่งซ้อนอยู่บนตัก จมูกเข้าซุกไซ้เลี้ยงอารมณ์ มือรีบดึงเสื้อนักเรียนออก ปลดกระดุมทุกเม็ดจนเหลือแต่บราสีขาว กับก้อนกลมขนาดพอดีมือ

ลูบไล้บีบขย้ำอย่างหยาบโลน ก่อนจะถกกระโปรงขึ้นเหนือเอว โชว์ชั้นในลายการ์ตูนสีอ่อน ขัดกับคนสวมใส่ที่ตอนนี้ครางกระเส่ารุกเร้าอยากได้มากกว่านี้อีก ปลายนิ้วสัมผัสจุดสงวนจนเปียกแฉะล้วงมือลูบไล้เบาๆ เริ่มสอดนิ้วเข้าไปสนองอารมณ์คนบนตัว เสียงครางรอดไรฟันดูทรมานมาก รัวนิ้วเข้าออกไม่ยั้ง จาก1นิ้วเป็นสองนิ้ว เสียงครางของเบญดังขึ้นต่อเนื่องจนต้องช่วยบดจูบเพื่อเก็บเสียง ไม่นานร่างเบญก็เกร็งกระตุก หอบถี่ หายใจแรงๆ แน่นิ่งอยู่แบบนั้น

เบญ : " แกล้งหนักนะวันนี้ เจ็บนะเว้ย "

น้องเล็ก : " ก็คิดถึงอะ "

เบญ : " งั้น..คืนนี้เบญไปค้างด้วยไหมละ "

น้องเล็ก : " ได้หรอ เฮ้ย!! ไว้วันหลังดีกว่านัดเอริไว้แล้วจะติวงานกัน "

เบญ : " คิดถึงไม่จริงนี่น่า "

น้องเล็ก : " แต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวก็โดนเขี่ยอีกรอบหรอก "

เบญ : " ยังไม่หมดชั่วโมงเลย "

น้องเล็ก : " ช่วงนี้ ยุ่งๆ กะจะไปชมรมแล้วเนี่ย "

เบญ : " ก็ได้ "

ดีที่เบญเป็นคนไม่เรื่องมาก อยู่คุยกับเบญพักหนึ่ง ส่งจนเบญเดินลับตาไป เอริที่เหมือนจะช็อคไปแล้ว มือหนึ่งจูงแขนมันเดินมาตามทาง อีกมือถือกระเป๋าหนังสือให้อย่างช่วยไม่ได้ ร่างไร้วิญญาณเดินตามอย่างง่ายดาย สายตาเอริดูอึ้งๆ กับหนังสดที่เพิ่งแสดงไป ไม่รู้ว่ามันจะได้คำตอบหรือยังว่าตอนไม่มีอากาศให้ทำไง โต๊ะชมรมตอนนี้สมาชิกอยู่กันครบ รวมถึงพวกแฟนคลับสามหนุ่มดูน่าวุ่นวายที่สุด

ฝุ่น : " มาพอดีเลยแก เล่นเปตองกัน "

น้องเล็ก : " เออ เอาดิ "

ฝุ่น : " เอริ แกอยู่ทีมฉันนะ เอริๆ "

เอริ : " .............. " #ยืนอึ้งกลางวง

ฝุ่น : " มันเป็นไรวะ "

น้องเล็ก : " มันสงสัยว่า ถ้าโดนจูบจนไม่มีอากาศหายใจให้ทำไง "

ฝุ่น วาวา สต๊อป : " ห๊ะ!! "

แซมมี่ : " อย่าบอกนะ ว่าแกไปจูบกันมา "

น้องเล็ก : " จะบ้าเหรอ "

สต๊อป : " นี่ " #ดีดสายบรา

เอริ : " ห๊ะ อะไร "

สต๊อป : " อยากรู้มากไหม "

เอริ : " มากอยู่ เฮ้ย!! ไม่แล้ว ไม่อยากรู้แล้ว " #จ้องริมฝีปากคนถาม

เปร๊ะ!! ...

เสียงลูกเปตองกระทบกันดังหยุดทุกอย่าง ลูกกระเด็นใส่เท้าเอริอย่างไม่ตั้งใจ ปลายรีบเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วงทันที หน้าที่อยู่ห่างจากสต๊อปแค่ช่วงมือมีปลายเข้ามาแทรกกลาง ดึงสติเอริให้กลับมาอยู่ที่ตัว

ปลาย : " เป็นไรหรือเปล่า ไม่ได้ตั้งใจ "

เอริ : " เปล่า แค่ตกใจนิดหน่อย "

ปลาย : " ขวัญเอ้ย ขวัญมานะ " #ลูบหัวอย่างอ่อนโยน

ทั้งสนามเงียบกริบ เพราะภาพเอริกับปลายที่ยืนใกล้ชิดกัน คนเงียบๆ อย่างปลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สาวแค่เดินเฉียดก็กรี๊ดสลบ เชื่อว่าทุกคนตอนนี้คงอยากเป็นเอริ รอยยิ้ม สายตา ของปลายที่มองเอริ ทำให้สต๊อปรีบเดินออกห่างทันทีเพื่อนอีกหลายคนก็ด้วย เหลือแต่แซมมี่ที่จ้องค้าง อยากกรี๊ดด้วยความอิจฉา กว่าจะได้เริ่มเกมส์ก็หมดเวลาไปครึ่งชั่วโมงแล้ว

ออด...

น้องเล็ก : " หมดเวลาละ กลับบ้านกันเหอะ "

ฝุ่น : " เออไป วันนี้มีนัดด้วยวะ "

เอริ : " ไปๆ จะไปหาวิธีสละจูบแรกให้ได้ "

ฝุ่น : " รู้สึกว่าจะอ่อยนะเพื่อนเรา "

โต๊ะชมรมเหลือแค่กระเป๋าของพวกเรา ต่างคนต่างหยิบจนเห็นกระดาษแผ่นหนึ่ง

เขียนว่า...

"ไปตายซะ"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel