Chapter3
3
บราสีดำ
Ari’ s Part
เอริ : " โอ๊ย!! เสาร์ติดเรียนพิเศษคณิตวะแก "
ฝุ่น : " แกไม่ช่วยไม่ได้นะเว้ย อาจารย์เก็บตั้ง10คะแนน "
เอริ : " ช่วยดิช่วย งั้นวันอาทิตย์ไหม "
ฝุ่น : " วันอาทิตย์ วาวาไม่ว่าง "
เอริ : " แล้วจะติวกันที่ไหนอะ "
ฝุ่น : " โรงเรียนมะ แกเลิกเรียนกี่โมง "
เอริ : " เออๆ โรงเรียนก็ดีใกล้ๆ เราเลิกบ่าย2 "
ฝุ่น : " ได้!! งั้นรอที่ประจำละกัน "
สอบเก็บคะแนนภาษาอังกฤษ เหมือนนิยายรันทดของพวกเรา เพราะอาจารย์ท่านเป๊ะมาก แล้วนี่เป็นการสอบอ่าน เสียง สำเนียงต้องเป๊ะ ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อนๆ ในกลุ่มฮือฮากันมาก เพราะเอริเพิ่งสอบได้เต็ม10ไปเมื่อวันศุกร์ (แต่ของแบบนี้มันจะให้คล่องเลยก็ยากนะ)
เอริ : " แกมารับเราหน่อยดิ ออกมารอแล้ว "
ฝุ่น : " เออๆ เดี๋ยวไป "
เสื้อยืดคอวีสีขาวเข้ารูปตัดกับบราสีดำเด่น คอวีคว้านกว้างเห็นสายดำวับๆ แวมๆ คือมียังไงก็ใส่มายังนั้น ไม่ได้คิดจะมาอ่อยใครนิ แต่ไอ้คนที่ขับรถหัวตั้งมารับนี้สิ คือคนที่ตอนนี้ไม่อยากเจอที่สุดในโลก สต๊อปเหลือบมองหน้าแป๊บนึ่งก่อนจะเร่งให้รีบขึ้น มันกระชากมอเตอร์ไซด์ตอนออกตัวจนสะดุ้งไปกอดเอว ตลอดทางเหมือนจงใจขับช้าๆ ทั้งๆ ที่เรียนพิเศษกับโรงเรียนอยู่ห่างกัน แค่2ซอย กว่าจะฝ่าแดดมาถึงที่จอดรถด้านหน้า แล้วต้องเดินเข้าไปอีกกว่าจะถึงกลุ่ม รู้สึกเจ็บแป๊ะอีกแล้ว
เอริ : " เฮ้ย!! ทำบ้าอะไรเนี่ย "
สต๊อป : " ก็อยากอ่อยทำไม "
เอริ : " เลิกดีดสายเสื้อเราสักทีเถอะ "
สต๊อป : " ไม่เลิกจนกว่าจะใส่เสื้อซับมาให้มันเรียบร้อยกว่านี้ " #กระซิบใส่หู
เอริ : " โอ้ย!! ร้อนจะตาย เลิกแกล้งได้แล้ว "
สต๊อป : " บราสีดำ ความหมายคือ ช่วยแกะให้ฉันหน่อยนะ "
เอริ : " คนบ้า "
Stop’ s Part
วันแรกที่เจอหน้ายัยนี้ก็รู้สึกได้ทันทีว่าหล่อนอ้วน...อ้วนเพราะอมโลกไว้ทั้งใบไง ปากคุยจ้อไม่หยุดแต่ดวงตาไม่ยิ้มอย่างที่พยายามแสร้งทำ ถึงผมจะเป็นแค่เด็ก ม.4 แต่เรื่องสาวๆ ผมผ่านมาจนนิ้วมือไม่พอนับแล้ว ปกติผมก็เกรียนๆ เจ้าชู้หลีสาวไปเรื่อย แต่พอต้องย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้พ่อก็ขอให้เลิกซ่าสักพัก เพราะถ้าโรงเรียนนี้เชิญเราสามคนออกอีก ก็คงไม่มีที่ไหนรับเราแล้วล่ะ ชื่อเสียงที่ผมสะสมมามันไม่ได้ดีงามสักเท่าไร ดวงตาที่ซ่อนใต้แว่นใสของผม มันผ่านอะไรมาเยอะจนผมต้องแสแสร้งแกล้งทำไปวันๆ
แต่กับเอริผมไม่เคยฝืนใจเลย คนบ้าอะไรตัวเตี้ยเท่าลูกหมา ผมฟูหยอย ชอบก้มหน้าหลบตาตลอด ยิ่งมองยิ่งรู้สึกอึดอัดเหมือนคนที่หวาดระแวง แต่พออยู่กับไอ้ฝุ่นหรือน้องเล็กเหมือนเป็นอีกคน เฮฮาบ้าบอ ผมเชื่อแล้วครับว่าผู้หญิง ...เกรียนกว่าผู้ชาย ดูจากที่แซมมี่ชอบดีดสายบราเพื่อนอะนะ
(ผู้ชายจะมีความรู้สึกมากเวลาเห็นอะไรวับๆ แวบๆ ต่อจินตนาการได้ ยิ่งผมรวบหางม้าโชว์ท้ายทอยขาว ตัดกับสายบราสีดำยิ่งน่ามอง)
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมอยากทำแบบนั้น เรื่องแปลกๆ ในห้องพยาบาลได้ยินไอ้ฝุ่นคุยกับวาวา ว่าเอรินอนอยู่ห้องพยาบาลผมกะจะมาแอบอู้สักหน่อย ภาพที่เลื่อนประตูออกเห็นผู้หญิงใส่ชุดแปลกๆ ยืนมองเอริอยู่ มือเกลี่ยผมให้อย่างอ่อนโยน จังหวะที่ผมก้มหน้าลงไปถอดรองเท้า ตานะตาดันเหลือบไปเห็นว่าใต้เตียงว่างเปล่า ทั้งๆ ที่มันควรจะมีขาของคนนั้น ผมแทบกลั้นหายใจตอนเงยหน้า แต่มันก็ไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นแล้ว เหลือเพียงเอริที่หลับกระสับกระส่าย จากที่ตั้งใจจะมาอู้ก็เริ่มกลัว ห่วงเพื่อนก็ห่วง เลยกรอกยาพาราบวกยาแก้แพ้ให้หลับไป แล้วค่อยยกกลุ่มมารับเอริพร้อมๆ กัน
โรงเรียนเราไม่ใช่โรงเรียนอินเตอร์ก็จริง แต่เน้นวิชาเกี่ยวกับภาษามาก (ไอ้เราก็ไม่เคยตั้งใจเรียนอยู่แล้วด้วย) เคยแต่ทำให้มันผ่านๆ ไป ไม่เข้าใจเลยทำไมต้องทุ่มเทกับการเรียนขนาดนั้น ชีวิตคนเรามันสั้นนะเอาเวลาไปทำเรื่องที่อยากทำจะดีกว่า ติวภาษาอังกฤษกันจนถึงเย็น วันนี้ไอ้ปลายมันเอาบิ๊กไบร์คู่ใจมาเลยตระเวรส่งบ้านได้ที่ละคน แล้วตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับเอริอยู่ด้วยกันสองต่อสองที่โต๊ะ
ผมพยายามชวนคุยตลอด แต่คำตอบที่ได้ก็ประมาณ เปล่า , ใช่ , ไม่ , ก็ดี แค่นี้จริงๆ (คือนอกจากเธอจะหน้าอมโลกแล้ว ยังเป็นคนมนุษยสัมพันธ์แย่มากรู้ตัวหรือเปล่า) ถามมากๆ เข้าก็เลี่ยงเดินไปล้างหน้า ส่องกระจกเหมือนเดิม ถามว่าผมจะตามไหม? (ตามสิครับ ไม่ตามธรรมดายังเดินไปดีดสายบราอีกด้วย โทษฐานที่ตั้งใจใส่มาอ่อยกันขนาดนี้)
เอริ : " เฮ้ย!! อย่าแกล้ง " #ก้มหลับตาล้างหน้า
สต๊อป : " .... " #ดีดซ้ำอีกข้าง
เอริ : " ไอ้โรคจิต " #เงยหน้าด่าใส่กระจก
พรึงง ... #รู้สึกโล่ง
ต้องรีบเอาแขนประคองสองเต้าไว้ ตัวผมยืนซ้อนหลังใกล้ชิดมากพอจะเห็นแก้มแดงเขินอายสะท้อนอยู่ในกระจก สองแขนหนีบเข้าหาตัวเพื่อประคองไม่ให้เต้ากลมทิ้งน้ำหนัก หน้าอกไซร์ใหญ่เกินวัยหน้าหลงใหลยิ่งขี้นยามที่เจ้าของหนีบคลึงอยู่แบบนี้ ผมก้าวไปชิดเอริโดยอัตโนมัติ
เอริ : " เล่นบ้าอะไรเนี้ย สายหลุดแล้ว "
สต๊อป : " อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวใส่ให้ "
เอริ : " บ้าน่า ใส่เองได้ ถอยไป "
สต๊อป : " จะใส่เองได้ไงละ " #กระซิบใส่หู
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมดึงเสื้อผู้หญิงขึ้นแบบนี้ แต่ผิวเนียนๆ ของเอริทำให้ผมหวั่นไหว ยิ่งเธอก้มหน้าลงช่วยรวบผมปะบ่าเอาไปไว้ข้างเดียว โชว์ต้นคอมีขนอ่อนๆ รำไร กลิ่นหอมโคโรจน์เฉพาะตัวยิ่งชวนหลงใหล ความสูงที่ต่างกันมากเป็นอุปสรรค์ผมพยายามเกี่ยวตะขอเท่าไรก็ไม่เข้าสักที เสื้อแนบเนื้อดึงรั้งติดอยู่แค่สองเต้ากลม ภาพเอริในกระจกตอนนี้ชวนหลงใหลจนผมเผลอกดปลายจมูกลงหลังคออย่างแผ่วเบา ดูเจ้าตัวจะไม่รู้เลยว่าโดนขโมยหอมไปซะแล้ว เฮ้อ!! เสร็จสักที
(ผมช่วยดึงเสื้อลงให้ แล้วรีบเดินออกมานั่งที่เดิม ทั้งทีในใจเต้นรัวมาก)
ปลาย : " เป็นอะไรวะมึง ดูเงียบๆ ไป "
สต๊อป : " เงียบอะไรวะ กูก็ปกติ "
ปลาย : " ไม่จริงอะ ปกติมึงพูดมากกว่านี้ "
ปลาย : " ทะเลาะอะไรกันเอริเปล่าว่ะ กูเห็นมึงตึงๆ ใส่กัน "
สต๊อป : " คือกู แบบว่า เฮ้อ!! ไม่มีไรโว๊ย ไม่มีไรทั้งนั้นอะ "
สต๊อป : " กูอาบน้ำก่อนนะ "
ถ้ารอบๆ ตัวผมยังมีแต่ความรู้สึกนี้วนเวียนอยู่ ผมต้องอึดอัดใจตายแน่ๆ หวังว่าในห้องน้ำจะช่วยให้ผมผ่อนคลายได้ ร่างเปลือยเปล่าใต้ฝักบัวปล่อยน้ำอุ่นไหลทั่วร่างอย่างคนข่มอารมณ์ ความรู้สึกปรวนแปรอยู่ในหัวใจเหมือนมีกระแสไฟวิ่งเร่งจังหวะ ฝ่ามือลูบไล่ความร้อนเหมือนเติมเต็มความรู้สึกที่ยังหน่วงๆ อยู่
ภาพริมฝีปากบางส้มฝาดขยับยั่วอยู่ในจินตนาการ สายตาจ้องอย่างเขินอาย แก้มขึ้นสีระเรื้อ ผิวเนียนละเอียดที่ผมอยากลูบไล้ เอวคอดเข้ารูปขัดกับเนินอกล้นชูชัน สายบราสีดำถูกปลดออกจากสองไหล่ ตะขอบราถูกปลดออกอย่างเบามือ กลิ่นหอมอ่อนๆ สูดดมจากเรือนผม ไล่ผ่านซอกคอลงมาตาแผ่นหลังอย่างนุ่มนวล ฝ่ามือหนาลูบไล้จากเอวอ้อมมาเกาะกุมสองเต้าไว้ในอุ้มมือ ปลายนิ้วคลึงเค้นเพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย
เสียงครางกระเส่าแผ่วเบายิ่งยั่วยวน จูนปลายนิ้วที่ตุ่มอ่อนนิ่มจนแข็งเป็นไตบีบปลายยอดอกเน้นๆ อย่างมันมือ ร่างเล็กห่อตัวลีบสะกดความเสียว ปล่อยเสียงครางเรียกชื่อราวกับขอร้องให้ยั้งมือ กดจมูกลงหลังหูซุกไซ้อย่างระบายอารมณ์ ผละมือข้างหนึ่งมากอบกุมแก่นกลางขยับจังหวะขึ้น-ลง-ซ้าย-ขวา จากช้าไป เร็ว แรง เร็ว แรงและเร็วขึ้นอีก เอริ ..เห้อๆ เอริ เอริ เอริ เอ...ริ เห้อๆ ๆ อืมมมม #ปลดปล่อยสบายตัวไป
" ปกติก็ไม่หื่นแบบนี้นิหว่า ทำไมมีแต่ยัยนี้วนเวียนอยู่ในหัวว่ะ "
#สต๊อปเพ้อกับตัวเอง
