บท
ตั้งค่า

31

“นอนที่โซฟาด้านนอกก็ได้ครับ...ผมนอนไม่หลับจริง ๆ อ่ะ” ดลวัตรอ้อนวอนเสียงอ่อยทั้งที่ตอนนี้มันปาเข้าไปตีหนึ่งแล้ว พูดจบก็เดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟานอนหลับตานิ่ง

“บอส ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ” เพียงขวัญตรงเข้าฉุดแขนคนหน้ามึนที่ทำเป็นทิ้งตัวหนักไม่ขยับเขยื้อน

“ผมลุกแล้วครับขวัญ...ได้โปรดอย่าแตะตัวผม” ดลวัตรตอบเสียงกระเส่า ถ้าไม่กลัวเข่าศอกของหญิงสาวจะดึงเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ....ได้แต่คิด สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ คือดึงแขนของตัวเองกลับก่อนจะใช้สองมือกุมสัดส่วนสุดหวงกลางกาย เป็นการบอกใบ้ว่าอะไรของเขาที่ลุก....

“อร๊ายยยย....หน้าด้านที่สุดเลย...คนบ้า...”

เพียงขวัญกระทืบเท้าเร่า ๆ ไม่รู้จะจัดการกับผู้ชายกวนประสาทคนนี้ยังไงดี

“เข้าไปนอนเถอะครับขวัญ ไม่ต้องห่วงผมหรอกน่า หรือว่าจะนอนบนโซฟานี้กับผมก็ได้นะ....มาครับ..ผมขยับให้แล้ว.....ดลวัตรตบมือลงบนที่ว่างอันน้อยนิดข้างลำตัว

“ใครอยากจะนอนด้วยไม่ทราบ”

“ไม่ต้องอายหรอกน่า ผมก็เหมือนขวัญนั่นแหละ พอไม่ได้นอนกอดกันก็นอนไม่หลับ” ดลวัตรอารมณ์ดีต่อให้ทะเลาะกันถึงตีสี่เขาก็ไหว ดีกว่านอนเหงา ๆ คนเดียวเป็นไหน ๆ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องหาเรื่องทรมานร่างกายเพียงแค่จะได้ต่อปากต่อคำกับยัยตัวแสบ

“เพ้อเจ้อ” หญิงสาวได้แต่ฮึดฮัดขัดใจ สะบัดหน้ากลับเข้าไปในห้องนอนอย่างหงุดหงิด พยายามหลับตานอนเพราะร่างกายอ่อนล้าเต็มที...เฮ้อ....เวรกรรมอะไรของฉันวะเนี่ย........

เช้าวันเสาร์ ณ จอมขวัญรีสอร์ท

“คุณแม่ขา พี่ขวัญจะแต่งงานจริง ๆ เหรอคะ” ขวัญข้าว ถามคุณจอมขวัญมารดาสุดที่รัก ในขณะที่ปากยังเคี้ยวชมพู่ฉ่ำสดหยับ ๆ มองดูมารดายืนสั่งการแม่ครัวกับพวกพี่ ๆ ป้า ๆ ให้ทำกับข้าวคาวหวานเตรียมต้อนรับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวและครอบครัวเพื่อมาเจรจาสู่ขออย่างเป็นทางการ

“ลูกคนนี้นี่ บอกกี่ทีแล้วว่าของกินเต็มปากห้ามพูด” จอมขวัญเอ็ดลูกสาวคนเล็กที่ทั้งแก่นทั้งซน เพราะคนเป็นพ่อให้ท้ายขนาดจบมหาวิทยาลัยแล้วยังทำตัวเป็นเด็ก ๆ อยู่เลย

“โธ่คุณแม่ขา....ข้าวมีงานเยอะแยะนี่คะ มัวทำทีละอย่างเสียเวลาแย่” หญิงสาวแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ รู้สึกเสียหน้าเหมือนกันที่คนอื่น ๆ พากันก้มหน้าซ่อนยิ้ม ถึงแม้จะเป็นคนสนิทกันทั้งนั้น

“ย่ะ...นิสัยแบบนี้ ความเป็นกุลสตรีก็ไม่มี สงสัยพ่อกับแม่ต้องเตรียมสร้างคานไว้ให้แล้วล่ะมั้ง” จอมขวัญค้อนควักลูกสาวคนเล็กอย่างหมั่นไส้ โดยเฉพาะ ริมฝีปากสีแดงดั่งลูกเชอร์รี่นี่น่าหยิกไม่หยอกช่างยอกย้อนนัก

“ไม่ต้องค่ะคุณแม่...เดี๋ยวหนูขอยืมใช้คานทองของพี่ขวัญ ต่อเลยก็ได้ค่า.....” ขวัญข้าวทำหน้าทะเล้น

“เดี๋ยวเถอะเด็กคนนี้....เถียงคำไม่ตกฟาก” คุณจอมขวัญเงื้อมืออยากจะฟาดสักทีแต่ก็ตีไม่ถึง หลบหลีกไวอย่างกับลิง

“อะไรกันครับ.... แม่ลูก....เสียงเอะอะออกไปข้างนอก” เสียงห้าวทุ้มของกิตติ ผู้ชายสูงวัยที่ยังดูหล่อและเท่ห์ในสายตาของลูกสาวเหลือเกิน เดินเข้ามาหาผู้หญิงอันเป็นที่รักทั้งสองคน

“คุณพ่อขา...คุณแม่จะตีข้าว” หญิงสาววิ่งไปแอบหลังผู้เป็นพ่อ ที่ยืนหัวเราะร่วน

“ไปกวนอะไรแม่เขาอีกล่ะ หืม” มือกร้าน จับศีรษะลูกสาวโยกอย่างเอ็นดู

“คุณพ่ออ่ะ เข้าข้างคุณแม่ตลอด ๆ หนูไปดีกว่า” ขวัญข้าววิ่งตื๋อออกจากห้องครัว ตามประสาคนอยู่ไม่สุข

“เฮ้อ...ลูกคนนี้ จะทำให้ฉันขายหน้าแขกซะล่ะมั้ง ดูแต่งเนื้อแต่งตัวเข้าสิ ยังไม่ทันจะได้บอกก็ออกไปซะแล้ว....”จอมขวัญส่ายหน้า ระอาปนเอ็นดู

“คุณขวัญข้าวน่ารักออกค่ะ ปากนิดจมูกหน่อย แถมขี้อ้อนอีกต่างหากลองว่าหนุ่ม ๆ ได้เห็นสักครั้ง อิฉันว่าขี้คร้านจะตะลึง” ป้าสม แม่ครัวเก่าแก่ออกความคิดเห็น

“ฉันไม่ให้ใครหรอกลูกสาวคนนี้....ฉันหวง” กิตติรีบออกตัวปกป้องยิ่งกว่าจงอางหวงไข่

“แหมนายคะ ผู้หญิงเราถึงเวลาก็ต้องมีคู่ ขนาดหนูเพียงขวัญบอกว่าจะเกาะคานอย่างเหนียวแน่น ยังเจอเนื้อคู่เข้าจนได้...อิฉันล่ะอยากเห็นแฟนคุณขวัญจริง ๆ” ป้าสมยิ้มปลื้ม ราวกับได้รับข่าวดีของลูกหลานตัวเองอย่างนั้นแหละ

“เขาเป็นเนื้อคู่กันจริง ๆแหละค่ะ” จอมขวัญเอ่ยยิ้ม ๆ พอให้ได้ยินกันสองคน แต่สามีอย่างกิตติรู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังไม่ชอบมาพากล

“คุณจอม ช่วยไปเลือกเสื้อผ้าให้ผมหน่อย” กิตติพูดเสร็จก็จูงมือเมียรักออกจากห้องครัว เพื่อที่จะถามในเรื่องที่คาใจ พอเข้าไปภายในห้อง ผู้เป็นนายใหญ่ของที่นี่ก็เปิดฉากถามเมียรักทันที

“เรื่องนี้คุณกับเพื่อน ร่วมมือกันใช่ไหม” เปล่านะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญ ส่วนดาริกาก็ช่วยนิด ๆ หน่อย พวกเขาคลิกกันเองต่างหาก จอมขวัญไม่ยอมเล่ารายละเอียดให้สามีฟัง เพราะรู้ว่าเขาหวงลูกสาวมาก ขนาดลูกบอกว่าจะเกาะคานยังไม่สะทกสะท้านแถมยังชอบใจอีกต่างหาก

ทางด้านท่านประธานพัชร พ่อหม้ายเนื้อหอมวัยสามสิบสี่ปี ขับรถออกมาจากบ้านคนเดียวตั้งแต่เช้า เขาไม่ได้รีบร้อน แค่อยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ของทุ่งนาป่าเขาเพื่อเป็นการคลายเครียดเท่านั้น พัชรนัดกับมารดาว่าจะเข้าไปที่บ้านของเพียงขวัญให้ทันมื้อเที่ยงเพราะทางนั้นแจ้งว่าจะขอเลี้ยงอาการกลางวัน แค่เพียงบอกชื่อรีสอร์ทเรื่องเส้นทางไม่ใช่ปัญหาและแถวนี้ก็อยู่ใกล้ ๆ แต่ชายหนุ่มยังไม่อยากรีบเข้าไป ขอขับรถกินลมชมวิวเล่นสักพักก่อน

แถวนี้นอกจากพืชไร่ บางแห่งก็ปลูกทานตะวันเป็นทุ่งสุดลูกหูลูกตา ชายหนุ่มลดกระจกรถขับช้า ๆ บนถนนเส้นรองที่นาน ๆ จะมีรถสวนมาสักคัน สายลมพัดเอื่อยๆ ตีหน้านำพาอากาศบริสุทธิ์ ให้ได้สูดเข้าปอดอย่างเพลิดเพลินซึ่งนาน ๆ ครั้งนักธุรกิจผู้นำองค์กรใหญ่จะได้มีโอกาสแบบนี้ ..........เฮ้ย ! ......พัชรเหยียบเบรกตัวโก่ง เมื่อเหลือบเห็นจักรยานแว๊บ ๆ บิดส่ายก่อนพุ่งเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง ชายหนุ่มลงจากรถอย่างรวดเร็วเห็นเด็กชายนอนแอ้งแม้งโดนจักรยานทับอยู่ เขาจึงรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยยกออก ก่อนจะดึงเจ้าตัวเล็กขึ้นมา พร้อมกับถามด้วยความห่วงใย

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าไอ้หนู” พัชรคว้าเอวเด็กชายรูปร่างบอบบางขึ้นมาจากที่โดนรถจักรยานทับอยู่ครึ่ง ๆ ก่อนจะลูบคลำไปตามแขนขาไม่ทันได้มองหน้าตา จนกระทั่งเจ้าตัวร้องประท้วง จึงได้เห็นดวงตากลมโตดำขลับ จ้องมองอย่างเอาเรื่อง....

“อร๊ายยย......อีตาลุงโรคจิต !......”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel