บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 กู้จินเยว่

บทที่ 1 กู้จินเยว่

ปลายฤดูใบไม้ผลิท่ามกลางแสงตะวันอันริบหรี่ ลมพัดใบไม้รอบบ้านสกุลกู้ปลิวไสว มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนคุดคู้อยู่บนเตียงด้วยความทรมาน กู้จินเยว่นอนกุมท้องมาเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยามแล้วลมหายใจของนางเริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ ภายในท้องไส้รู้สึกปั่นป่วน กู้จินเยว่รู้สึกได้ถึงอวัยวะภายในที่ค่อยๆ แหลกสลาย ข้างกายนางมีภาชนะบรรจุของเหลวที่นางดื่มเข้าไปหนึ่งชั่วยามก่อน

หากย้อนเวลากลับไปได้นางจะไม่เลือกทำแบบนี้ กู้จินเยว่เจ้ามันช่างโง่เขลายิ่งนัก นางเคยวาดฝันชีวิตที่สวยหรูและครอบครัวที่อบอุ่น ด้วยฐานะที่ยากจนและ

โดนรังแกมาตลอดชีวิตทำให้กู้จินเยว่เลือกที่จะหมั้นหมายกับบุรุษที่ปักใจรักมาหลายปีเพื่อถีบตัวเองให้สูงขึ้น แต่เมื่อต้องผิดหวังกับความรักทั้งต้องเผชิญหน้ากับ

ความอับอาย และการถูกใส่ร้ายป้ายสี นางกลายเป็นตัวร้ายในสายตาของผู้อื่นจน

ไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อตัดสินใจที่จะปลิดชีพตัวเองแล้วก็กลับรู้สึกเสียดายชีวิตขึ้นมา นางลืมไปได้อย่างไรว่าชีวิตนี้อย่างน้อยก็ยังมีบุคคลอีกสามคนที่รักนางโดยไม่มีเงื่อนไข

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย ลูกคนนี้มันไม่รักดี

สร้างปัญหาให้พวกท่านมากมาย ต่อจากนี้ข้าขอให้พวกท่านมีชีวิตที่ดีหลุดพ้นจากนรกแห่งนี้และอย่าได้เจ็บปวดอีกเลยนะเจ้าคะ” ดวงตาทั้งสองข้างของหญิงสาวเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตา เปลือกตาของนางค่อยๆ ปิดลง

ปัง!ปัง!ปัง!

“จินเยว่! เปิดประตูให้แม่หน่อยเถิดลูก พ่อกับแม่เจ้ากลับมาแล้วออกมากินข้าวกินปลาเถอะอย่าทรมานตัวเองแบบนี้เลย” หนิงเทียนเคาะประตูอยู่สักพักก็ไม่มีเสียงตอบรับจากภายในห้องในอกของคนเป็นแม่รู้สึกเจ็บแปลบ นางและสามีพึ่งกลับมาจากการทำงานในสวนของครอบครัวก็รีบตรงปรี่ไปที่บ้านของพวกเขา ลูกสาวของพวกเขาไม่ยอมออกจากห้องมาหลายวันแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น

ปัง!ปัง! หนิงเทียนตัดสินใจเคาะประตูเรียกอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากคนในห้อง สุดท้ายหันหน้ากลับไปมองสามีที่ยืนอยู่ข้างหลังและพยักหน้าให้กัน หนิงเทียนเดินหลบไปด้านข้างเพื่อให้สามีของนางกระทำการได้สะดวก

กู้ซีห่าวเมื่อเห็นภรรยาหลบทางให้เขาก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาและถีบออกไปสุดแรง เมื่อประตูเปิดออกสายตาของทั้งหนิงเทียนและซีห่าวก็สาดส่องไปทั่วห้องจนเห็นลูกสาวของพวกเขาที่นอนงอตัวอยู่บนเตียง หัวใจของซีห่าวสั่นระรัวเมื่อหางตาหันไปเห็นขวดบางอย่างที่ตั้งอยู่ข้างกายของจินเยว่ ภายในใจกู่ร้องภาวนาไม่ให้เป็นดั่งที่ตนคิด เมื่อตั้งสติได้ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปในห้อง แขนทั้งสองข้างของซีห่าวค่อยๆ ประคองศีรษะลูกสาวขึ้นมาบนตัก เขายกมือที่สั่นเทาของตัวเองขึ้นมาจรดที่ปลายจมูกของจินเยว่ เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจบางเบาและเชื่องช้า เขาจึงหันหน้าไปหาภรรยาและส่ายหน้าเป็นการบอกเป็นนัยๆ

“เรามาสายเกินไปหนิงเทียน ลมหายใจของนางแผ่วเบามากแล้วเราทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ” ก้มหน้าบอกภรรยาสองมือดึงลูกสาวมากอดแนบอกแน่น

“กรี๊ดดด ไม่จริงใช่หรือไม่ท่านพี่” หนิงเทียนกรีดร้องออกมาเสียงแหลม

“ลูกของเราจะต้องไม่เป็นอะไร ข้าจะไปขอร้องท่านพ่อให้พาท่านหมอมารักษาเยว่เอ๋อร์” นางกล่าวพร้อมเดินเข้าไปนั่งบนเตียงกอดลูกสาวและสามีด้วยร่างกายที่สั่นเทา

ทุกคนภายในบ้านได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากทางหลังบ้านก็รู้ทันทีว่ามาจากห้องของใคร พวกเขารีบสาวเท้าไปตามเสียงด้วยต่างคนก็ต่างอารมณ์

กู้ซีฮันเป็นผู้เดินมาถึงคนแรกตามด้วยภรรยาของเขา ตามมาด้วยกู้หวังหย่งพร้อมภรรยาและลูกๆ ของเขา ภายในดวงตาของกู้ซีฮันว่างเปล่าไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร

เมื่อหนิงเทียนเห็นว่าบุคคลที่เข้ามาใหม่คือพ่อสามีนางก็รีบรุดเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าเขาน้ำตาของนางไหลเป็นสายเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด "ท่านพ่อ ช่วยเยว่เอ๋อร์ของเราด้วยเถิดเจ้าค่ะ ตามหมอมารักษานางเถอะนะเจ้าคะ ท่านต้องการอะไรข้าจะหามาให้ท่านทุกอย่าง ได้โปรดช่วยเยว่เอ๋อร์ด้วย" นางขอร้องด้วยเสียงแหบแห้ง

"ไม่ได้นะ ท่านพี่ท่านก็รู้ว่าปีนี้พวกเราแทบไม่เหลือเงินแล้ว ซ้ำผลผลิตก็เก็บเกี่ยวได้น้อยที่เหลืออยู่จะเก็บได้เพิ่มเท่าไหร่กันเชียว นี่ก็เข้าใกล้เหมันตฤดูแล้ว ถ้าต้องเอาเงินที่มีไปรักษานางแล้วเมื่อเข้าเหมันตฤดูคนที่เหลือเล่าจะทำอย่างไร" กู้ฮุ่ยชิวรีบกล่าวขัดขึ้นมาทันที คนจะตายอยู่แล้วจะรักษาให้เสียเงินเสียทองไปทำไมกัน

กู้ซีฮันเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรนี่ก็คือสายเลือดของเขา จะปล่อยให้ตายไปเฉยๆ ก็คงจะไม่ดี "ข้าว่าเรียกหมอมาดูนางเถอะ อย่างไรนี่ก็หลานของเราคนหนึ่ง ถ้าปล่อยไปไม่ดูดำดูดีชาวบ้านจะเอาไปนินทาว่าอย่างไร" เขากล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"แต่ว่าท่านพี่..." หญิงชรายังไม่ทันจะพูดจบก็ต้องหุบปากลงเมื่อสามีตวัดสายตามามองนาง

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครขัดแล้วกู้ซีฮันก็หันไปสั่งหลานชายคนโตที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม "จางหย่ง เจ้าไปตามท่านหมอบอกเขาว่าให้รีบมา"

หลังจากนั้นก็มีเสียงนุ่มแทรกขึ้นมา "ท่านแม่ นางจะเป็นอะไรหรือไม่ ข้ารู้สึกผิดยิ่งนัก ข้าน่าจะพูดกับนางให้นางเข้าใจว่าข้ากับท่านพี่เฟยหรงเราเป็นเพียงสหายกันเท่านั้น เป็นนางที่เข้าใจผิดไปเอง ข้าเป็นพี่จะแย่งคนรักของน้องสาวได้อย่างไรเล่า" กู้จางลี่นางเป็นลูกสาวท่านลุงของจินเยว่ ทั้งสองมักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง ในสายตาคนนอกจะเห็นว่าจินเยว่คอยรังแกพี่สาวตัวเองตลอด แต่ใครเล่าจะรู้ความจริงเท่ากับคนในครอบครัว เป็นจางลี่ต่างหากที่คอยรังแกจินเยว่

“โถ่ลูกสาวของแม่ ช่างน่าสงสารจริงๆ เจ้าโดนนางรังแกแล้วไยต้องรู้สึกผิดด้วยเล่า” แม่ของจางลี่แกล้งบีบเสียงตอบลูกสาวพลางโผโอบกอดลูกสาว นางรู้ดี

อยู่แก่ใจว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นมาอย่างไร

หนิงเทียนที่เงียบมาสักพักแต่เมื่อได้ยินสองแม่ลูกพูดเช่นนั้นนางก็อดไม่ได้ที่จะเหยียดยิ้มหยันออกมา ทำไมนางจะไม่รู้เล่าว่าลูกสาวจะต้องเจออะไรบ้างเพียงแต่นางไม่สามารถช่วยอะไรลูกได้เลย ก่อนหน้าที่ลูกสาวมาบอกกับนางและสามีว่าคนรักของนางจะมาสู่ขอนางรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ลูกสาวจะได้หลุดพ้นเสียที แต่ผู้ใดจะไปรู้ว่าเหตุการณ์มันจะกลับกลายเป็นเช่นนี้

ผ่านไปสักพักท่านหมอเกาก็มาถึง เขาตรวจชีพจรนางแล้วได้แต่ส่ายหัว

“ข้าไม่รับปากนะว่าจะสามารถรักษาชีวิตนางไว้ได้แต่ข้าก็จะพยายามช่วยนางให้ถึงที่สุด พวกเจ้านำยาในห่อนี้ไปต้มให้นางกิน เผื่อจะช่วยขับพิษออกมาได้บ้าง” พูดจบก็ขอตัวกลับ

“ทำตามที่ท่านหมอเกาบอกหนิงเทียน ข้าช่วยนางได้เท่านี้อย่าหาว่าพวกข้าไร้น้ำใจเลย ลูกสาวของพวกเจ้าเลือกที่จะทำเช่นนี้เอง เจ้าจะโทษผู้อื่นไม่ได้” เมื่อ

กู้ซีฮันกล่าวกับลูกสะใภ้จบก็เดินออกจากห้องไป คนอื่นๆ ที่เหลือก็เดินตามไปด้วย หนิงเทียนหันไปมองตามคนที่เดินออกไปก็พบว่าสองแม่ลูกนั้นหันมายิ้มเยาะให้นาง

หนิงเทียนรีบไปต้มยามากรอกใส่ปากของจินเยว่ทันที สามีของนาง

ประคองลูกสาวให้นอนในท่าทางที่สบายตัว ทั้งคู่นั่งข้างเตียงคนละฝั่งพร้อมฝ่ามือที่

กุมมือของบุตรสาวไว้เบาๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel