ตัดความสัมพันธ์พี่น้อง | Ep.11 |
ตัดความสัมพันธ์พี่น้อง | Ep.11 |
วันต่อมา
หลังจากพักฟื้นไปหนึ่งวันเมื่อวาน วันนี้แพรพลอยก็ได้กลับมาทำงานที่บริษัทตามปกติ เมื่อคืนเธอนอนคิดทั้งคืน ใครกันนะที่มาตัดสายเบรครถเธอ เกลียดกันจริงๆ หรือทำไปเพราะความคึกคะนอง
ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองคนบางคนที่นั่งพิงเอกขเนกขาไขว่ห้างอยู่บนโซฟาเปิดหนังสือนิตยสารดูอย่างสบายอกสบายใจ อาชีพบอดี้การ์ดมันสบายจริงๆ เนอะ แค่มานั่งเฉยๆ ก็ถือว่าได้ทำงานแล้ว ไม่เหมือนเธอ นั่งอ่านข้อมูลบริษัทซ้ำๆ ก็ยังไม่เก็ทสักที แถมตั้งแต่เช้าชายหนุ่มยังไม่พูดกับเธอสักคำ นั่นยิ่งทำให้แพรพลอยร้อนในอกเข้าไปใหญ่ และเพิ่มน้ำหนักเรื่องที่กำลังเข้าใจผิดอีกด้วย
ก๊อกๆๆ
ผลัก!
หญิงสาวละสายตาจากเอกสารตรงหน้าขึ้นไปมองประตูที่ถูกเปิดพรวดพราดเข้ามา
"หนูแพร! ได้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุ เป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนรึเปล่า?" จักราชวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปถามหลานสาวด้วยท่าทีเป็นห่วงเป็นใย ส่วนอีกคนที่เดินกอดอกตามเข้ามาได้แต่ทำหน้าเลิดหน้าลอยไม่ได้ทุกข์ร้อนเหมือนสามีเพราะว่าไม่จำเป็นที่หล่อนจะแสดงความรู้สึกแบบนั้น
...ก็แหงล่ะ จะไปเป็นห่วงนังเด็กปากดีนี่ทำไม ก็ในเมื่อหล่อนกับนังเด็กไร้มารยาทนี่ต่างก็แสดงออกว่าไม่ชอบหน้ากัน
"เอ่อ...แพรสบายดีค่ะ อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เอง" ริมฝีปากบางสวยฉีกยิ้มให้คนเป็นลุง
"พึ่งมาไม่กี่วันก็สร้างศัตรูแล้วเหรอ?" ตรีสมรกรีดยิ้มร้ายถาม แววตาฉายชัดถึงการสมน้ำหน้าที่อีกฝ่ายโดนเล่นงาน
"แพรก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าบังเอิญไปเหยียบ หาง! ใครเข้า"
"นี่!...."
".....!"
ตรีสมรกำมือแน่นแนบลำตัวกำลังจะหันไปต่อว่านังเด็กเมื่อวานซืนที่พูดจายั่วยวนกวนประสาท ทว่าหล่อนดันถูกสายตาพิโรจน์ของสามีปรามไว้เสียก่อน จึงทำได้แค่ทุบมือมาที่หน้าขาตัวเองแล้วสะบัดหน้าไปทางอื่น
"ว่าแต่...คุณลุงรู้เรื่องนี้ได้ยังไงคะ แพรว่าแพรยังไม่ได้บอกใครเลย" แม้กระทั่งบิดาแพรพลอยก็ไม่แม้จะเอ่ยปากบอก นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมจักราชถึงรู้
"เอ่อก็...แหมหนูแพร ถึงลุงจะย้ายออกมาจากบ้านใหญ่แล้ว ก็ใช่ว่าลุงจะไม่สนใจคนในบ้าน พวกแม่บ้านเขาก็รายงานลุงตามประสาคนครอบครัวเดียวกัน"
"อ่อ" ใบหน้าสวยพยักรับอย่างไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าจักราชก็แค่หวังดีและเป็นห่วงเธอเท่านั้น
ผลัก!!
"น้องแพร!! ได้ข่าวว่าน้องแพรกลับมาแล้ว มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?" คนอื่นเข้ามาหน้าตาตื่นเพราะเรื่องที่แพรพลอยเกิดอุบัติเหตุ แต่คนมาใหม่กลับวิ่งหน้าตื่นเข้ามาถามเรื่องที่หญิงสาวกลับมาอยู่ไทย
ธัญ หรือ ธนชนม์ เป็นลูกชายคนเดียวของจักราชและตรีสมร อายุมากกว่าภูผา 2 ปี และมากกว่าแพรพลอย 4 ปี ปัจจุบันธัญอายุ 29 ปีเต็ม เขาเป็นถึงผู้จัดการใหญ่ในบริษัทแต่ทว่านานๆ ทีจะเข้ามาดูงานสักครั้ง เป็นเพราะนิสัยชอบเที่ยว ติดหญิงที่แก้ไม่หาย ทำให้ตัวจักราชและตรีสมรเองก็ยังเอือมละอากับลูกชาย
แพรพลอยถอนหายใจแล้วกลอกตาใส่พี่ชายที่ชอบแกล้งเธอมาตั้งแต่เด็ก เธอกับธัญไม่ค่อยถูกกันก็จริง แต่ก็ไม่ถึงขั้นอาฆาตพยาบาทปั่นจิตบิดสมองอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้สนิทถึงกับจะกอดคอแล้วออดอ้อนอย่างฉอเลาะเหมือนที่เธอทำกับภูผา
"แพรกลับมาตั้งหลายวันแล้วพี่ธัญ สมองพึ่งอัพเดตรึไงคะ?"
"แหม ก็ใครจะไปรู้ล่ะ เมื่อหกเดือนก่อนบินไปเที่ยวหาน้องแพรที่เยอรมัน ไม่เห็นน้องแพรบอกเลยว่าจะกลับมา" ใช่แล้ว ธัญเป็นคนเดียวที่บินไปเยี่ยมแพรพลอยที่เยอรมันทุกปี เรียกว่าไปปั่นประสาทจะดีกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเห็นภูผาเป็นที่หนึ่งอยู่ดี เพราะธัญชอบแกล้งเธอและสร้างปัญหาให้เธอตลอด
"แล้วทำไมแพรต้องบอกพี่ด้วย?"
"แล้วทำไม!...เอ๋?" ขณะที่ธัญกำลังจะต่อปากต่อคำกับน้องสาวตัวแสบ หางตาก็เหลือบไปเห็นภูผาที่ยืนอยู่ตรงโซฟาพอดี พอเห็นแล้วก็จำได้ทันทีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
"มีอะไรพี่ธัญ?" แพรพลอยกอดอกถามพลางมองตามสายตาของธัญที่มองไปยังชายหนุ่มอีกคน
"นี่มันไอ้ผานี่หว่า พี่ชายกำมะลอของเธอหนิ โอ้โห...มันโตเป็นหนุ่มแล้วแฮะ" ธัญฉีกยิ้มคล้ายจะหัวเราะเมื่อนึกถึงตอนเด็กที่เขาแกล้งแพรพลอยแล้วแพรพลอยวิ่งไปฟ้องภูผา แถมยังประกาศปาวๆ ว่าภูผาเป็นพี่ชาย
ส่วนภูผาได้แต่เอียงหัวมองหน้าธัญแล้วเลิกคิ้วให้อย่างกวนอารมณ์ เพราะเขากับธัญก็กัดกันมาก่อนด้วยเรื่องของแพรพลอยนั่นแหละ จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องของเด็กๆ
"พี่ธัญออกไปเลยนะแพรจะทำงาน!"
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
"โอ๊ยๆ! ไปแล้วๆๆ" ธัญสะดุ้งลูบแขนป้อยๆ เมื่อถูกแพรพลอยเหวี่ยงมือข้ามโต๊ะมาฟาดไหล่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ย
"ถ้างั้นลุงไปทำงานก่อนนะ ไว้มีปัญหาอะไรค่อยไปหาลุง"
"ค่ะคุณลุง"
หลังจากจักราชและตรีสมรเดินออกจากห้องไป ภูผาก็เดินเข้าไปหาแพรพลอยทันที
"พี่ธัญบินไปหาบ่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"....." ดวงตาคู่สวยช้อนมองเจ้าของคำถามที่มายืนอยู่ฝั่งตรงข้าม และมันคือประโยคแรกของครึ่งวันนี้หลังจากที่เมื่อวานแพรพลอยชี้นิ้วไล่เขาออกจากห้อง
และตอนนี้เธอก็ยังโกรธอยู่
"ก็ใช่สิ...มีแต่คนบางคนเท่านั้นแหละที่ตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเรา" แพรพลอยได้แต่คิดในใจ หากเธอไม่ให้คนตามติดชีวิตเขา เธอคงไม่มีโอกาสได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นยังไงและใช้ชีวิตแบบไหน
มือหนาค้ำลงบนโต๊ะทำงาน แล้วโน้มตัวลงไปหาคนที่นั่งทำหน้าท้าทายอยู่ฝั่งตรงข้าม จ้องเข้าไปในแววตาส่วนลึกก็รับรู้ได้ถึงความโกรธที่หญิงสาวมีต่อเขา
"ความสัมพันธ์พี่น้อง...ตัดมันไปเถอะเพราะเราคงไม่ได้เป็นแบบนั้นอีก"
"พี่ผาหมายความว่าไงคะ?" เสียงเล็กย้อนถามทันทีอย่างเอาเรื่อง ส่วนคนพูดนั้นทำหน้านิ่งไม่สะทกสะท้านอะไรกับสิ่งที่พึ่งพูดออกมา และหญิงสาวก็ไม่คิดจะหลบเลี่ยงใบหน้าหล่อที่โน้มลงมาใกล้ด้วย
คิดว่าพูดแบบนั้นแล้วเธอจะตัดใจเหรอ?
ได้!
"ก็ตามที่พูด"
"เหรอคะ?"
จุ๊บ!
หลังจากยกยิ้มมุมปากแฝงความเจ้าเล่ห์ไว้เต็มรูปแบบให้อีกฝ่ายแล้ว แพรพลอยก็เชิดหน้าขึ้นไปจุ๊บริมฝีปากหยักนุ่มสั้นๆ หนึ่งครั้งแล้วร้องสมน้ำหน้าให้ในใจ ซึ่งคนโดนจุ๊บปากก็ได้แต่มองตาคนทำอย่างเลิ่กลั่ก ทว่าภูผาก็ยังควบคุมอาการได้ดี
"ไม่เป็นพี่น้องก็ได้ค่ะ แต่เป็นอย่างอื่น"
ชายหนุ่มค่อยๆ ยืดตัวขึ้นหลังตรงแล้วทอดถอนหายใจออกมาอย่างสะกดกั้นอารมณ์ จากนั้นก็เดินกลับไปนั่งเงียบๆ ที่เดิม ทำเอาแพรพลอยแอบหวั่นๆ ในใจว่าอาจจะถูกเขาเกลียดแล้วก็เป็นได้
แต่แล้วไง?
ใครสน?
