18
ปองภพเปิดดูไม่อยากโยกโย้มากเรื่อง...และพอได้อ่านข้อความในนั้นก็อมยิ้มออกมานิด ๆ สมกับเป็นคุณนายปรางทิพย์จริง ๆ เมื่อเขาอ่านจบก็จรดปากกาเซ็นต์ชื่อลงไปอย่างง่ายดายก่อนจะเลื่อนแฟ้มกลับไปให้หญิงสาวที่มองเขาอยู่อย่างอยากรู้เต็มแก่
“หะ...ห๊า ห้าสิบล้าน” เกรซตาโตเท่าไข่ห่านหลังอ่านจบ....หล่อนกลืนน้ำลายดังเอื๊อก...ราวกับกระดูกหน้าแข้งของใครติดคอ
“ทำไมหรือจ๊ะ หนูเกรซ” คุณย่าปรางทิพย์ถามยิ้ม ๆ
“เอ่อ...เงินตั้งห้าสิบล้าน..คือ...หนูไม่รู้ว่าชาตินี้จะหามาชดใช้ได้หรือเปล่าค่ะ” หญิงสาวยอมรับสียงอ่อย หน้าตาเหยเกเหมือนอยากจะร้องไห้
“หนูจะกลัวอะไรล่ะจ๊ะถ้าหากรักกันจริง ๆ เรื่องที่จะเลิกกันก่อนสิบปีมันไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว ถ้าเป็นย่านะ...ต่อให้ห้าร้อยล้านย่าก็ไม่กลัวจ่ะ...ใครที่ไหนจะแต่งงานเพื่อเลิกกันจริงไหมจ๊ะ” หญิงชราบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก็จริง แต่สายตาจ้องเขม็งอย่างจับผิด ถ้าคิดจะตบตางุบงิบแต่งงานกันเพื่อช่วยน้องชายล่ะก็อย่าหวังรอดไปได้ง่าย ๆ เลย...เฮอะ...กระดูกมันคนละเบอร์แม่หนูน้อย…
“เอ่อ...สมมุตินะคะสมมุติว่าคุณภพเบื่อแล้วก็ทิ้งหนูก่อน แบบนี้คุณภพจ่ายคนเดียวใช่ไหมคะ” เกรซยังมีสติถามให้แน่ใจ เพราะในสัญญาเขียนไว้แค่ว่า ถ้าหย่ากันก่อนสิบปีแต่ละฝ่ายจะต้องจ่ายเงินให้คุณปรางทิพย์คนละห้าสิบล้านบาท แต่ถ้าสามารถอยู่ด้วยกันได้เลยปีที่สิบ จะได้เงินรางวัลพิเศษร้อยล้าน ไม่เกี่ยวกับมรดกอื่น
“ในสัญญาไม่ได้ระบุสาเหตุนี่จ๊ะ เอาเป็นว่ารักกันให้เหนียวแน่นแค่นั้นเป็นพอ ถ้าแยกกันเมื่อไหร่ก็โดนทั้งคู่ตามสัญญาจ้า....” คุณปรางทิพย์อธิบายอย่างใจเย็น
เกรซส่งยิ้มกร่อย ๆ ในขณะที่สะกิดคนข้าง ๆ ยิก แต่อีกฝ่ายนั่งนิ่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ‘ซวยแล้วไหมล่ะยัยเกรซเอ้ย’ หญิงสาวอยากจะยกขาขึ้นก่ายหน้าผากที่ได้มาเจอ คุณย่ามหาภัยตัวจริงเสียงจริงเลยวุ้ย.....
“เซ็นต์ซะสิจ๊ะ....ความจริงย่าก็ทำไว้อย่างนั้นแหละ ไม่คิดว่าเราจะมาตบตาคนแก่หรอกนะ...แบบว่าทำแค่ขำ ๆ อืม...แต่ถ้าเป็นจริงขึ้นมา ย่าก็จำเป็นให้ทนายทำไปตามสัญญานะจ๊ะ” คุณย่าปรางทิพย์ยังอุตส่าห์ขู่แบบเนียน ๆ
“เอ่อ...ค่ะคุณย่า” หญิงสาวปั้นยิ้ม หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อตัวเองมือไม้สั่น พอหันไปมองคนข้าง ๆ ก็นึกหมั่นไส้......ทำเป็นไม่เดือดเนื้อร้อนใจ.... ต่อไปนี้อย่าหวังว่าจะดิ้นหนีไปจากเจ๊เกรซได้อีกเลย...แม่จะหนีบไว้ให้แน่นเลยเชียว.......
ทั้งคู่พากันกลับจากคฤหาสน์หรู หลังจากรับประทานอาหารเย็นร่วมกับประมุขของบ้าน ซึ่งหญิงสาวไม่ปฏิเสธสักแอะ....ดีกว่าเสี่ยงกลับไปกินอาหารฝีมือตัวเองเป็นไหน ๆ
“เป็นอะไรคุณ..นั่งเป็นหมาหงอยเชียว” ชายหนุ่มถามอย่างอารมณ์ดีขณะขับรถกลับคอนโด เพราะเมื่อมองไปทางซ้ายทีไรก็เห็นคิ้วคู่งามเดี๋ยวขมวดเดี๋ยวคลายราวกับเจ้าของกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก นาน ๆ เข้าก็ถอนหายใจออกมาเป็นระยะ
“เกรซกำลังคิดว่ามีช่องโหว่ในสัญญาฉบับนั้นหรือเปล่าน่ะสิ ตั้งห้าสิบล้านเชียวนะคุณ” หญิงสาวมีสีหน้าครุ่นคิดจริงจัง
“ฮ่า...ฮ่า...ผมนึกว่าคุณหาวิธีที่จะได้ร้อยล้านซะอีก” อาจารย์หนุ่มหัวเราะขบขัน คนอะไรเซ็นสัญญาไปแล้วถึงค่อยมาคิดพิจารณาไตร่ตรอง มีแต่เขาทำกันก่อนเซ็นต์ทั้งนั้นแหละ นอกเสียจากไม่ได้มีความกังวลต่อผลของสัญญานั้นอย่างเช่นตัวเขาเองที่เซ็นต์ได้ทันทีที่อ่านจบ
“ฮึ...ไม่ต้องมาตลกรู้หรอกน่าว่าคุณขี้เบื่อ....เกรซก็ต้องหาทางหนีทีไล่เอาไว้บ้างสิคะ...ขืนยอมติดแหงกกับคุณตั้งสิบปี มีหวังแก่หนังเหี่ยวกันพอดีหรือถึงจะไม่เหี่ยวก็เริ่มต้นใหม่ได้ยากแล้วล่ะ จะมีลูกก็เสี่ยง...เฮ้อ...เป็นผู้หญิงนี่เสียเปรียบชะมัด หญิงสาวกลอกตาก่อนจะทิ้งตัวกับพนักพิงอย่างเซ็ง ๆ
“งั้นสู้ทำยังไงให้ผมไม่เบื่อคุณไม่ง่ายกว่าเหรอ” ชายหนุ่มชี้แนะ ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็ได้ประโยชน์เห็น ๆ
“จริงดิ...ก็น่าคิดนะ...ว่าแต่คุณบอกใบ้หน่อยว่าต้องแบบไหนถึงจะไม่เบื่อ...นะ...นะ” หญิงสาวกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงอย่างกระตือรือร้น และยังมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาอย่างมีความหวัง แทบจะกลั้นหายใจรอกันเลยทีเดียว
“บอกไปคุณก็ทำไม่ได้หรอกเกรซ” สบประมาทกันซึ่ง ๆ หน้าอยากรู้ว่ายัยตัวแสบจะทำยังไง
“ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ศรีภรรยาอย่างเกรซทำไม่ได้” หญิงสาวพูดด้วยความมั่นใจพร้อมกับกอดอกเชิดหน้าน้อย ๆ
“เอ่อ...เกรซ ผมว่าคำขวัญนี้มันคุ้น ๆ นะ”
“แฮ่.....นั่นน่ะสิคะ...” หญิงสาวยิ้มแหย ๆ สงสัยจะจำเอาคำของอดีตนายตำรวจหนุ่มที่เกือบจะเป็นแฟนกันเอามาพูดนั่นเอง
“เพ้อเจ้อจริง ๆ” ชายหนุ่มส่ายหน้าระอาในความมั่วของยัยตัวแสบที่ชอบจับแพะชนแกะมั่วไปหมด
“เอาเป็นว่าคุณลองบอกมาก่อนดีกว่า แต่เกรซมั่นใจว่าต้องทำได้แน่ ๆ” หญิงสาวจ้องมองเขาตาเขม็ง มุ่งมั่นว่าจะต้องรู้ให้ได้ แม้ว่าจะต้องใช้กำลังอ้างปากก็จะทำ
“อยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอ” ชายหนุ่มหันมามองก่อนจะถามยิ้ม ๆ
“ก็แน่ล่ะ ตั้งห้าสิบล้าน สำหรับคุณอาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่เกรซสิคะไม่รู้ว่าชาติไหนถึงจะหามาชดใช้ให้ได้หมด...ห้าสิบล้านนะไม่ใช่ห้าสิบบาท”
“ขึ้นห้องก่อนเดี๋ยวผมบอก” ปองภพขับรถเข้าจอดที่ประจำยังทำโยกโย้เล่นตัวไม่ยอมบอก แกล้งบ่มเพาะความอยากรู้ของหญิงสาวให้สุกงอมเต็มที่
