ตอนที่ 6 จีบ
ตอนที่ 6
จีบ
ไม่นานร่างบางของเจ้าแก้มก็วิ่งกลับมา พร้อมกับรุ่นพี่คณะแพทย์ที่วิ่งตามมาติด ๆ
“แฮ่ก นี่ค่ะพี่แพร” เจ้าแก้มยืนหอบแล้วชี้มือไปที่โซ่ทันที
“โซ่เหรอ?”
แพรวา รุ่นพี่ปี 4 คณะแพทยศาสตร์ที่ถูกตามตัวมากะทันหันมองคนที่รุ่นน้องต่างคณะบอกว่าป่วยด้วยความแปลกใจ
“สวัสดีครับ” โซ่เอ่ยทักทายรุ่นพี่ที่รู้จักกันตอนเขาเข้ากิจกรรมรับน้องด้วยใบหน้านิ่ง ๆ
“เห็นน้องบอกว่าโซ่ป่วยเหรอ?”
แพรวาถามขึ้นด้วยความไม่แน่ใจ เพราะตอนแรกเจ้าแก้มวิ่งไปตามเธอบอกว่ามีคนใจเต้นแรงแล้วมาขอยา เธอเองก็ตกใจมาก รีบวิ่งมาดู แต่ดูจากท่าทางบองคนป่วยแล้วไม่น่าจะใช่
“หึ” โซ่ไม่ตอบ แต่กระตุกยิ้มแล้วหันไปมองเจ้าแก้มที่ยืนหอบอยู่ด้วยเอ็นดู
“อ๋อ พี่เข้าใจละ”
เมื่อเห็นสายตาของรุ่นน้องหนุ่ม แพรวาก็เข้าใจในทันทีว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ค่อนข้างหนักใจแทนเขาอยู่ เพราะเธอเองก็รู้จักเจ้าแก้ม และพี่ชายเจ้าแก้มเป็นอย่างดี
“ดูแค่นี้ก็เข้าใจเลยเหรอคะ?”
เจ้าแก้มหันมามองแพรวาแล้วทำตาโตอย่างน่ารัก เธอเอ่ยถามด้วยตะลึง เพราะรุ่นพี่แค่มองก็รู้เลยเหรอว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร
แล้วก็ทำหน้าครุ่นคิดว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ?
“หึ ยากหน่อยนะ ซื่อ ๆ แบบนี้” แพรวายิ้มเอ็นดูแล้วหันไปพูดกับโซ่ด้วยความเหนื่อยใจ
“เขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก เจ้าแก้มก็คุยถามอาการไปนะ” แพรวาเอ่ยขึ้นแล้วโน้มหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของเจ้าแก้ม
“เขาชอบเจ้าแก้มมั้ง” เมื่อพูดจบแพรวาก็เดินออกไปทันที
เจ้าแก้มยืนนิ่งกับคำพูดของรุ่นพี่แล้วหันไปมองหน้าโซ่ช้า ๆ
ตึก ตึก ตึก
ใจของเธอเต้นแรงขึ้นเมื่อได้สบสายตานิ่งลึกของโซ่
เจ้าแก้มยกมือขึ้นมากุมตำแหน่งหัวใจของตัวเองไว้แล้วทำตาโต
ทั้งชีวิตเธอมีคนมาบอกว่าชอบมากมาย แต่ไม่เคยมีใครที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกขนาดนี้ เป็นคนอื่นเธอคงก้มหัวขอบคุณไปแล้วที่เขาชื่นชอบเธอ แต่กับคนตรงหน้า ทำไมเธอไม่กล้าแม้แต่จะพูดกับเขาเสียอย่างนั้น
“มะ ไม่ได้มาขอยาเหรอคะ?” เจ้าแก้มกลืนน้ำลายลงแล้วถามขึ้นเสียงติดจะสั่นเล็กน้อย
“มาจีบ ไม่ได้มาขอยา”
และคำตอบของโซ่ก็ยิ่งทำให้ใจเจ้าแก้มเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ตึก ตึก ตึก
“จะ เจ้าแก้มว่าเจ้าแก้มต้องเป็นโรคหัวใจแน่ ๆ เลยค่ะ”
เจ้าแก้มพูดขึ้นด้วยความใสซื่อ ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดีตอนนี้ เธอเข้าใจความหมายของโซ่ที่พูด เพราะที่ผ่านมาคนจะเป็นแฟนกันต้องจีบกันก่อน แล้วคนตรงหน้ามาบอกว่าจะจีบเธอ แสดงว่าต่อไปเธอต้องเป็นแฟนกับเขาอย่างนั้นสิ
“หึ ทำไม ใจเต้นแรงเหรอ?” โซ่อมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปใกล้เจ้าแก้มมากขึ้น
กลิ่นหอมของแป้งเด็กที่ติดตัวคนตรงหน้าทำให้เขาสูดดมเข้าไปเต็มปอด
“ชะ ใช่ค่ะ” เจ้าแก้มจึงตอบกลับไปแล้วมองใบหน้าหล่อใสตรง ๆ
“เต้นเหมือนกับฉันหรือเปล่า?” โซ่จับมือของเจ้าแก้มขึ้นมาทาบอกของตนเองแล้วถามขึ้นเสียงนุ่ม
“เอ๊ ใจพี่โซ่ก็เต้นแรงเหมือนกันเลยค่ะ”
เจ้าแก้มตอนแรกก็ขืนมือตนเองไว้เล็กน้อย แต่พอรับรู้ถึงการเต้นของหัวใจอีกฝ่ายแล้วก็ขมวดคิ้วสงสัย
“หึ” โซ่หลุดขำกับท่าทางน่าเอ็นดูนั้น
“เจ้าแก้มว่าเรารีบไปหาหมอดีกว่านะคะ” เจ้าแก้มรีบเงยหน้าขึ้นพูดกับโซ่ด้วยความกระตือรือร้น
“ไปทำไม?”
“โรคร้าย เราทั้งคู่ต้องเป็นโรคร้ายแน่ ๆ” เจ้าแก้มเอ่ยขึ้นแล้วผละตัวออกจากโซ่ หลังจากนั้นก็รีบวิ่งไปเก็บของทันที
“เดี๋ยว!” โซ่มองตามหลังร่างบางไปด้วยความเหนื่อยอ่อนพร้อมกับคิดในใจว่า ‘งานยากแล้วเรา’
“เจ้าแก้มต้องรีบไปตรวจค่ะ เอาไว้เราค่อยมาจีบแล้วเป็นแฟนกันนะคะ” เจ้าแก้มเก็บของไปด้วยแล้วหันมาพูดกับโซ่ ตามความเข้าใจของเธออย่างซื่อ ๆ
“อะไรนะ!!!” ทันใดนั้นก็มีสองเสียงที่ร้องขึ้นด้วยความตกใจ
เจ้าแก้มและโซ่หันไปมองก็พบว่าเป็นชิงชิงและหนูดีนั่นเองที่กำลังอ้าปากค้างมองทั้งคู่อยู่ด้วยความตะลึง
“มาพอดีเลย พาแก้มไปหาหมอหน่อย” เจ้าแก้มพูดขึ้นแล้วรีบลากเพื่อนสนิททั้งสองคนออกไป
และก็มิวายหันมาโบกมือให้โซ่ด้วย
“ดะ เดี๋ยวยัยแก้ม นี่แกจะไปไหน?” หนูดีที่ตั้งสติได้ก่อนที่จะถูกลากไปไกลกว่าขึ้นขืนตัวเอาไว้ แล้วก็เอ่ยถามขึ้น
“ไปหาหมอไง” เจ้าแก้มจึงหันไปตอบเพื่อนด้วยความใสซื่อ
“แกเป็นอะไร ทำไมต้องไปหาหมอ?” ชิงชิงจึงได้สติแล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ใจแก้มเต้นแรงมากเลยชิงชิง” เจ้าแก้มพูดขึ้นเสียงงอแง เหมือนเด็กฟ้องพ่อแม่เวลาป่วยไม่ผิดแน่
“ใจเต้นแรง?” สองสาวถามขึ้นพร้อมกันด้วยความแปลกใจ
“ใช่ แต่เอ… ทำไมตอนนี้มันหายแล้วล่ะ” เจ้าแก้มพยักหน้ายืนยันแล้วก็ยกมือขึ้นมากุมหัวใจตนเอง แต่ตอนนี้มันกลับเต้นปกติแล้วนี่นา
“ไปนั่งตรงนั้น” หนูดีและชิงชิงหันมามองหน้ากันแล้วลากเจ้าแก้มไปหาที่นั่ง
“ฉันจะพูดยังไงดี?” ชิงชิงหันไปถามหนูดี เพราะไม่รู้จะพูดยังไงกับเจ้าแก้มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามดี
“ไม่รู้” หนูดีเองก็ส่ายหน้าจนปัญญา
“เจ้าแก้ม”
“???” เจ้าแก้มมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองอย่างตั้งคำถามและตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก
“พี่โซ่มาพูดอะไรกับแก?” ชิงชิงจึงเอ่ยถามขึ้น
“เขามาหาแก้มที่นั่งอยู่ แล้วก็บอกว่าใจเต้นแรง แก้มก็เลยไปตามพี่แพรให้ แต่ว่าพี่แก้มบอกเขาไม่ได้เป็นอะไร”
เจ้าแก้มเล่าให้เพื่อนสนิททั้งสองฟังหมดเปลือก
“เขาบอกว่าจะจีบแกเหรอ?” หนูดีถามขึ้นต่อทันทีด้วยความตกใจ
“รู้ได้ยังไง?” แต่คนที่ตกใจกว่าคือเจ้าแก้ม นี่เพื่อนเธอรู้ได้ยังไง?
“แล้วจากนั้นใจแกก็เต้นแรง ใช่ไหม?”
“อื้ม ใช่ ๆ” เจ้าแก้มพยักหน้าหงึก ๆ ยอมรับว่าเธอเป็นอย่างนั้น แปลกจริง ๆ ที่พอพูดถึงโซ่แล้วใจเธอก็เต้นแรงอีกครั้ง
“พะ พี่โซ่จะจีบแก”
“กรี๊ดดดดดดด” สองสาวหันมามองหน้ากันแล้วร้องกรี๊ดออกมา
“อะไรอ่ะ นี่ ๆ ใจเจ้าแก้มเต้นแรงอีกแล้ว!”
เจ้าแก้มถามขึ้นด้วยความงง และรีบบอกเพื่อนว่าใจเธอเต้นแรงอีกแล้ว
“โอ้ย ยัยซื่อบื้อ” สองสาวจึงหันมาทำหน้าเอือมระอาใส่เจ้าแก้ม
จากนั้นก็อธิบายความสัมพันธ์ของคนที่จีบกัน เป็นแฟนกันและแต่งงานกันให้เจ้าแก้มฟัง อะไรที่อีกฝ่ายควรรู้ก็เล่าให้ฟังหมด เพราะที่ผ่านมามีคนมาจีบเจ้าแก้มมากมาย
แต่เจ้าแก้มกลับมีปฏิกิริยากับแค่โซ่คนเดียว นี่ก็ชัดแล้วว่าเพื่อนพวกเธอหวั่นไหวกับโซ่
เจ้าแก้มนั่งฟังไปก็ทำตาโตบ้าง พยักหน้ารับบ้าง จนมานึกถึงประโยคที่ตัวเองคุยกับโซ่เมื่อครู่
“ละ แล้วที่เจ้าแก้มบอกเขาว่าเดี๋ยวค่อยมาจีบแล้วเป็นแฟนกันล่ะ?” เจ้าแก้มกลืนน้ำลายลงคอแล้วถามขึ้น
“ก็หมายความว่าแกตกลงยอมให้เขาจีบไง รอได้เลยค่ะ แฟนคนแรกของแกคือพี่โซ่คนโหดแน่นอน!!”
