กำลังใจจากครอบครัว
เช้าวันเสาร์หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปหาแม่ตามที่แม่ได้โทรมาบอกให้ไปหา
"แม่ขา หนูกลับมาแล้วค่าาา"ลูกสาวเดินลงจากรถขาเรียวรีบก้าวเดินไปหามารดาที่อยู่ด้านในตัวบ้าน
"กลับมาแล้วเหรอ มาให้แม่กอดหน่อยคิดถึงจังเลย"ขวัญข้าวเดินไปหาแม่แล้วโอบกอดแม่ด้วยความคิดถึงเช่นกัน
"ว่าแต่หายไปไหนกันหมดคะ คุณพ่อกับ เจ้าต้นไม้ ไปไหนคะ "มองไปรอบบ้านที่เงียบเหมือนไม่มีคนอยู่
"ปล่อยแม่ก่อน แม่อึดอัด"คนเป็นแม่ดันตัวลูกสาวที่โอบกอดตัวเองออก
"คุณพ่อดูสวนกล้วยไม้อยู่หลังบ้าน ส่วนต้นไม้เห็นบอกว่าจะไปติวหนังสือที่บ้านเพื่อน มา เหนื่อย ๆ นั่งก่อน แจ่มยกน้ำมาให้คุณหนูด้วยนะ"
"คะ คุณผู้หญิง"
"แม่มีอะไรจะคุยกับหนูหรือเปล่าคะ"สายตามองไปที่มารดา
"คือ แบบนี้นะ พ่ออาร์มแฟนหนูมาคุยกับพ่อกับแม่เมื่อวานว่าอยากแต่งงานกับหนู"
"แม่คะ หนูไม่แต่งงานกับพี่อาร์มนะคะ"มารดามองไปที่ลูกสาวที่ตอนนี้ตาเริ่มแดงเหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยลูกสาวตัวเองเงยหน้าขึ้นมองเพดานบ้านไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมาให้มารดาได้เห็น
"อ้าว ทำไม เห็นว่าพรุ่งนี้เขาจะให้ผู้ใหญ่มาคุยกับพ่อแม่นะ"มารดาที่ดูพฤติกรรมลูกสาวอยู่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัยมันนต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ
"แม่รู้ไหมว่าาพี่อาร์มทำหนูเจ็บมากเลย"ในใจไม่อยากที่จะเล่าเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดให้มารดาฟังแต่เรื่องที่เขาได้กระทำกับเธอมันช่างโหดร้ายไม่คิดว่าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนจะมีพฤติกรรมที่ไม่น่าให้อภัยขนาดนี้
"เขาทำอะไรเล่าให้แม่ฟังได้ไหม"มารดาที่เริ่มเป็นห่วงลูกสาวเอ่ยถ้าพร้อมกับให้มือที่เริ่มเหี่ยวย่นจับลงที่มือของลูกสาวบีบเบา ๆ เหมือนเป็นการให้กำลังใจ
"ก็พาผู้หญิงขึ้นคอนโดไงคะ คงไม่ต้องอธิบายหรอกมั่งว่าขึ้นไปทำอะไรกัน เพราะหนูเห็นกิจกรรมที่เขาทำด้วยกันเต็มสองตาเลย"น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไม่ยอมให้ไหลออกมาแต่ตอนนี้เริ่มห้ามไม่อยู่แล้วเพราะน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย
"จริงเหรอ ดีแล้วที่หนูรู้ก่อนที่จะแต่งงานถ้าแต่งกันไปแล้วทำแบบนี้สักวันก็เลิกกันอยู่ดี"มือเหี่ยวยกขึ้นมาเช็ดลงที่ดวงตาคู่สวย
"แล้วพ่อแม่เขาจะมาคุยกับพ่อกับแม่เหรอคะ"
"อืมใช่จ๊ะ แต่ไม่เป็นไรนะเรื่องนี้แม่จัดการเอง"
"ขอบคุณคะแม่ "ขวัญข้าวาวก้มลงกราบที่ตักของมารดา
"อยู่ทานข้าวกับแม่ก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบกลับ"
"คะแม่กินข้าวเสร็จค่อยกลับตอนเย็น ๆ ก็ได้วันนี้หนูขับรถของยัยกุ้งนางมาด้วย นางบอกว่าอยากกินขนมฝีมือแม่คะ แม่ได้ทำขนมไว้หรือเปล่าคะ"
เมื่อหญิงสาวได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้มารดาฟังความอึดอัดที่อยู่ภายในจิตใจก็เริ่มผ่อนคลาย ตอนแรกก็สองจิตสองใจว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้ทางครอบครัวตัวเองฟังหรือไม่ แต่ไม่คิดว่าพี่อาร์มจะมาเล่นกันเธอแบบนี้ ฮึ แต่งงานหวังมากเกินไปไหมอยากจะตะโกนใส่หน้าคนที่เป็นอดีตแฟนจริง ๆ
"พูดถึงเรื่องรถ เมื่อไหร่เราจะซื้อสักคันเวลาเดินทางไปไหนมาไหนจะได้สะดวก"
"ก็ดู ๆ ไว้แล้วคะ น่าอีกสักพักเก็บเงินดาว์นก่อน"
"แม่ซื้อให้เอาไหม"
"ไม่เอาคะ หนูอยากเก็บเงินซื้อเอง"
"ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อไปกินข้าวเถอะ ถึงเวลาพอดี นั้นไงพ่อเราก็เดินมาแล้ว"
คนเป็นพ่อเดินเข้ามาในต้วบ้านสายตามองมาที่ลูกสาวคนสวย
"มานานยังลูกสาวตัวน้อยของพ่อ"คนเป็นพ่อที่มองดูลูกสาวไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรเขาก็มองลูกสาวเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักตลอด
"พ่อ..อ่า ขวัญโตแล้วนะคะ"
"พ่อเชื่อว่าเราโตแล้ว ถ้าไม่อย่างงั้นจะมีหนุ่มตาบอดมาขอเราแต่งงานเหรอ"
"พ่อ ไม่พูดเรื่องนี้ได้ไหม หนูคุยกับแม่แล้วว่าจะไม่แต่งงาน"
"อ้าวทำไมละ มันทำอะไรบอกพ่อมาพ่อจะเอาปืนไปยิงมันทิ้ง กล้ามากนะที่มาทำให้ลูกเจ็บ"
"หนูไม่พูดละ อยากรู้อะไรถามแม่เลยนะคะ"
"ว่าไงแม่"สายตาคมจ้องมองไปที่คู่ชีวิตตัวเอง
"เดี๋ยวแม่เล่าให้ฟังตอนนี้เราไปกินข้าวกันก่อน แจ่มตั้งโต๊ะอาหารเสร็จแล้ว"
ทั้งหมดจึงย้ายตัวเองมาที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศการนั่งรับประทานอาหารที่ดูอบอุ่นสำหรับขวัญข้าวถึงแม้เธอจะเจ็บปวดจากที่ไหนมาครอบครัวเป็นส่วนสำคัญเสมอที่ทำให้เธอมีกำลังที่จะสู้ต่อไปถึงแม้ตอนนี้ยังขาดน้องชายตัวดีอีกคนที่ไม่ได้มาทานข้าวด้วยกัน
"อิ่มจังเลยคะ อาหารยังอร่อยเหมือนเดิมเลย"มือเรียวลูบลงที่ท้องตัวเอง
"ถ้าคิดถึงอาหารฝีมือแม่ก็มาบ่อย ๆ สิจ๊ะ กินกันอยู่สองคนพ่อกับแม่ก็เบื่อเหมือนกัน"
"อ้าวแล้วต้นไม้ละแม่"
"ช่วงนี้น้องมีกิจกรรมเยอะ เดี๋ยวไปทำรายงาน เดี๋ยวไปทำกิจกรรมที่มหาลัย ไม่ค่อยอยู่บ้านเลย"
ขวัญข้าวนั่งคุยกับพ่อและแม่จนเวลาล่วงเลยไปท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ หญิงสาวคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องขับรถกลับคอนโดได้แล้ว
"แม่คะพ่อคะขวัญต้องกลับแล้วนะคะ เย็นมากแล้วถ้ามืดจะขับรถลำบาก"
"จ้า ขับรถกลับดี ๆ นะแล้วนี่ขนมฝากให้กุ้งนางด้วย"มารดาส่งถุงขนมมาให้ลูกสาวที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างรถสีแดงสดที่ลูกสาวขับมา
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะจัดการเอง"
"คะรักพ่อกับแม่ที่สุดเลย"ขวัญข้าวกอดพ่อกับแม่ที่เดินมาส่งเธอที่รถ มือของทั้งสองลูบลงที่หัวถุย
"ไปเถอะลูกเดี๋ยวจะมืด"
ขวัญข้าวจึงผละออกจากอ้อมกอดของคนทั้งสองแล้วก้าวขึ้นรถขับออกจากตัวบ้านจุดมุ่งหมายคือคอนโดของเพื่อนสนิท ตอนนี้ขวัญข้าวสิงตัวอยู่ที่คอนโดเพื่อนเพราะไม่กล้ากลับคอนโดตัวเองกลัวว่าจะมีคนมาราวี
หญิงสาวขับรถเข้ามาตัวเมืองใกล้จะถึงจุดมุ่งหมายคือคอนโดเพื่อนแล้วโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ตื้ด ตื้ด ตื้ด มือเรียวสวยกดรับสายเมื่อเห็นว่าสายที่เรียกเข้านั้นเป็นใครที่โทรมาหา
"ขวัญข้าวเธออยู่ไหน"เสียงแรกที่ออกมาจากคนปลายสาย
"ขับรถอยู่กำลังจะถึงคอนโดของกุ้งนางแล้วคะ บอสมีอะไรหรือเปล่าคะ"
"เอกสารด่วนต้องรีบเคลียคืนนี้ เดี๋ยวฉันขับรถไปรับเธอที่คอนโดเพื่อนเธอน่าจะไม่เกินครึ่งชัวโมง"
"คะ"ขวัญข้าวรับปากกับประธานหนุ่มมือเรียวสวยต่อสายไปหาเพื่อน ไม่นานกุ้งนางก็รับสาย
"ว่าไงแก"
"กุ้งนาง ฉันกำลังจะถึงคอนโดแล้วแกช่วยลงมาเอาขนมที่แม่ฉันฝากมาให้กับกุญแจรถของแกด้วย"
"ทำไมละ แกจะไปไหน"
"บอสมีงานด่วนเดี๋ยวเขามารับฉันที่คอนโดแก ใกล้ถึงแล้วลงมาตอนนี้เลยนะ"
เมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกกุ้งนางรีบเดินมาหาเพื่อนที่ล๊อบบี้ของคอนโด ขวัญข้าวส่งกุญแจรถพร้อมกับถุงขนมมาให้ ก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อน
"ฉันไปดูเอกสารแป๊บเดี๋ยวมานะ บอสขับรถมาพอดี"
"อืม ไปเถอะบอสแกจอดรถรอแล้วเพื่อเขารีบ"
หญิงสาวพยัก ขาเรียวรีบเดินมายังรถของประธานหนุ่ม มือเรียวเคาะไปที่กระจกรถ ชายหนุ่มลดกระจกรถลง
"ขึ้นมาสิ เอกสารสำคัญต้องรีบใช้ไม่งั้นฉันคงไม่เรียกเธอมาช่วยหรอก"
"คะ"ขวัญข้าวตอบออกมาแค่เพียงสั้น ๆ ประธานหนุ่มจึงขับรถออกไปเพื่อมุ่งหน้าไปที่คอนโดของตัวเอง
"บอสคะ" ทางนี้ไม่ใช่ทางไปบริษัทนิคะ"หญิงสาวที่นั่งมองทางจำได้ว่าบริษัทที่ตนทำงานไม่ใช่ทางนี้ ปากบางเอ่ยถามเพื่อคลายความสงสัยทันที
"ใช่ ฉันจะให้เธอไปช่วยดูเอกสารที่คอนโดฉัน"ประธานหนุ่มกล่าวสายตายังคงมองถนนข้างหน้าเท้าแตะคันเร่งมุ่งตรงไปที่จุดหมาย
