1
พลอยฟ้า นดาลกุล เดินเข้าไปในบริษัทใหญ่ที่เธอต้องมาฝึกงานด้วยความรู้สึกหัวใจเต้นแรง
ปีนี้เธอเรียนอยู่ปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยชื่อดัง และเป็นเทอมสุดท้ายที่ต้องมาฝึกงาน
สถานที่ฝึกงานไม่ใช่ที่ไหน เป็นบริษัทของคู่หมั้นของเธอเอง
เธอกับเขารู้จักกันมานาน ไปมาหาสู่กันอยู่บ้าง ในช่วงวัยเด็ก ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อ และใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้ปีกว่า จึงได้เจอกันอีกครั้ง
ไม่ได้เจอกันนานหลายปี รู้จักกันแค่ช่วงวัยเด็ก ทำให้พลอยฟ้าไม่ค่อยสนิทสนมกับคู่หมั้นหนุ่มเหมือนเคย
อาจเพราะเธอดูเชย ๆ ไม่เหมือนปราบที่ดูเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาแต่งตัวดี มีหน้าที่การงานที่ดี มีการศึกษาที่ดี ชาติตระกูลก็ดีไม่มีที่ติ บิดามารดายังเป็นผู้มีอิทธิพลอีกด้วย เรียกว่าชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้
เมื่อนึกเปรียบเทียบกัน เธอรู้สึกด้อยกว่าเขามาก บิดามารดาของเธอกับบิดามารดาของปราบหมั้นหมายเธอกับเขาเอาไว้แต่เด็ก เพราะตอนนั้นต่างก็รวยด้วยกันทั้งคู่ จนบิดามารดาของเธอล้มละลายและฆ่าตัวตายไปเมื่อหลายปีก่อน ทิ้งเธอเอาไว้กับยาย จึงกลายเป็นคนหมดตัว ดีที่คุณยายนั้นยังมีบ้านและที่ดินเป็นมรดกให้เธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไปนอนข้างถนน
แต่ถึงกระนั้นบิดามารดาได้โอนที่ดินผืนสวยราคาดีเอาไว้ให้คุณยายเพื่อมอบไว้ให้เธอ ดีตรงตอนบิดาซื้อที่ดินได้ใส่ชื่อคุณยายเอาไว้ตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นก็คงโดนยึดไปด้วยอย่างแน่นอน
“คุณปราบรออยู่ด้านในครับคุณพลอย” จักรเลขาหน้าห้องเอ่ยกับหญิงสาวที่เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
“ค่ะคุณจักร” เธอรู้จักกับเลขาของเขาดี อีกฝ่ายทำงานกับปราบตั้งแต่ที่เขากลับมารับช่วงต่อกิจการของปกรณ์ผู้เป็นบิดา แต่ปราบก็ยังเป็นแค่รองประธานบริษัท ยังไม่ได้เป็นประธานบริษัทเพราะปกรณ์ยังไม่ได้ลงจากตำแหน่ง
“อ้าว... น้องพลอยมาแล้วเหรอคะ” ปราบเห็นคู่หมั้นสาวเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขาก็รีบเดินมารับเธอในทันที เขาเข้ามาจับมือถือแขนทำให้พลอยฟ้าต้องรีบเบี่ยงหลบ
“พี่ขอโทษค่ะ ลืมไปว่าน้องพลอยหวงเนื้อหวงตัวกับพี่” เขาพูดเหมือนน้อยใจ แต่ระอาเต็มทน ที่ต้องยอมรับสถานะคู่หมั้นกับพลอยฟ้าเพราะที่ดินของเธอและตำแหน่งที่บิดาจะยกให้
บิดาและมารดาของเขาอยากได้ที่ดินของเธอ และถ้าเขาได้แต่งงานกับเธอ ท่านก็จะยกตำแหน่งประธานบริษัทให้เขา
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” พลอยฟ้าขยับแว่นตาหนาเตอะของตัวเองไปมา เธอใส่เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่ กระโปรงยาวกลอมเท้า และรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดตา เธอแต่งตัวมิดชิดและหอบกระเป๋าใบโต เขาเคยไปรับที่เธอที่มหาวิทยาลัย เห็นเธอกอดหนังสือหลายเล่มเดินต้วมเที้ยมมาขึ้นรถก็อายแสนอาย กลัวคนรู้จักเห็นว่าเขามีคู่หมันเฉิ่มเชยแบบเธอ
คนอื่นเขาใช้กระเป๋าดี ๆ สวย ๆ งาม ๆ แต่คู่หมั้นขอบเขาใช้กระเป๋าผ้าใบใหญ่เชย ๆ
ยังกับยายบ้าหอบฟาง!
“น้องพลอยนั่งก่อนนะคะ” ปราบรีบเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง
ตั้งแต่เขาได้เจอเธออีกครั้ง เขาก็สุดแสนจะเบื่อหน่าย ไม่มีความเซ็กซี่ขยี้ใจเหมือนผู้หญิงคนอื่นเลยสักนิด เขาไม่เคยเห็นผิวเนื้อสาวภายใต้ร่มผ้าเลยสักครั้ง เพราะนอกจากใส่เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่แล้ว เธอยังใส่เสื้อแขนยาวปิดทับเอาไว้อีกชั้น เหมือนกลัวจะโดนแดดแล้วคืนร่างเดิม กลายร่างเป็นผีดิบแวมไพรส์
ความจริงปราบคิดว่า เธอน่าจะใส่ชุดแม่ชีเสียเลย จะดีกว่าหรือไม่เธอก็น่าจะคลุมหน้าให้เหลือแต่ดวงตา
“พี่ปราบจะให้หนูฝึกงานกับพี่ปราบหรือคะ” พลอยฟ้าเอ่ยถาม เธอมองหน้าเขาตาแป๋ว ปราบในสายตาของเธอคือผู้ชายพูดเพราะ เขาพูดคะขากับเธอทุกคำ ทั้งยังเอาอกเอาใจเก่ง คุณยายบอกว่าไม่ได้เร่งรัดเรื่องการแต่งงานเพราะเป็นเพียงเรื่องที่ผู้ใหญ่เคยตกลงกันเอาไว้ ไม่อยากบังคับลูกหลาน หากไม่อยากทำตามสัญญาก็ไม่เป็นไร เพราะมันหมดยุคคลุมถุงชนแล้ว อีกอย่างบิดามารดาของเธอก็ล้มละลาย ไม่ได้ร่ำรวยทัดเทียมกัน ฝ่ายชายจะยกเลิกการหมั้นก็ไม่แปลก เพราะคุณยายไม่อยากให้ฝั่งปราบคิดว่าอยากจะไปจับเขา เพราะเขารวยกว่ามาก
“ค่ะ น้องพลอยมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”
“พลอยเกรงว่าจะโดนครหาน่ะค่ะ พลอยเรียนการเงินการบัญชี แต่ให้พลอยมาฝึกงานตำแหน่งเลขาของพี่ปราบแบบนี้” เธอพูดอย่างเป็นกังวล แถมมาฝึกงานกับเขาแบบนี้ก็ไม่ได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาด้วย
“จะไปสนใจคำพูดคนอื่นทำไมคะ พี่เป็นคนยื่นเรื่องขอนักศึกษาฝึกงานไปเอง และอาจารย์ของน้องพลอยก็อนุมัติให้น้องพลอยมาฝึกงานกับพี่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขานี่คะ” เขาเดินมาทรุดนั่งลงแทบเท้าของเธอ น้ำเสียงของเขาละมุนจนพลอยฟ้าถึงกับใจสั่น
ปราบ ปกเกล้า นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงวัยสามสิบสามปี เขารวยมาก มากเสียจนบริจาคเงินให้มหาวิทยาลัยของเธอปี ๆ หนึ่งหลายล้านบาท แถมยังให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาเรียนดีแต่ยากจนอีกหลายคน ทำให้เขาเส้นใหญ่มากพอที่จะขอเธอมาฝึกงานในตำแหน่งอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ
ปราบทำเช่นนี้เพราะอยากใกล้ชิดกับหญิงสาว เพื่อหวังที่ดินของเธอ และตำแหน่งประธานบริษัทที่บิดาเอามาล่อ ถ้าเธอรักเขา เธอจะโอนที่ดินให้เขาโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทยังได้เลย แต่เขาก็จะไม่เอาเปรียบเธอขนาดนั้น อาจจะให้เงินเธอบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะที่ดินปล่อยทิ้งไว้ก็ไร้ประโยชน์ บิดาอยากได้ นำมาใช้ประโยชน์ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ เธอน่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำ
“ค่ะพี่ปราบ”
“ถ้าน้องพลอยกลัวไม่ได้ทำงาน พี่จะหางานให้ทำ แต่ถ้าไม่อยากทำ ก็นั่งสบาย ๆ อยู่ในห้องกับพี่ก็ได้ค่ะ” เขาจับมือของเธอมากุมเอาไว้ก่อนจะจุมพิตเบา ๆ
“อุ๊ย! พี่ปราบอย่าค่ะ” เขาชอบถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งเธอถูกยายสอนให้รักนวลสงวนตัว ทำให้พลอยฟ้ารู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกรุกรานเอาแบบนี้
“รังเกียจพี่หรือคะ” ปราบกุมมือของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้เธอจะดึงมือหนีอย่างไรเขาก็ไม่ปล่อยง่าย ๆ ได้เธอมาฝึกงานก็ดีเหมือนกัน ถึงจะเชยไปหน่อย แต่เขาก็อยากเอาเธอไม่ต่างจากหญิงคนอื่น
อาจจะแปลกหน่อยตรงที่เธอไม่เซ็กซี่ขยี้ใจเหมือนสาวคนอื่นที่เขาลากขึ้นเตียงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ก็พอกลั้นใจกระเดือกลงอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ทำให้เธอยิ่งรักเขามากขึ้น เป็นเมียเขาแล้วเขาจะขออะไรเธอก็คงยอมตกลงโดยง่าย เขาจะแต่งงานกับเธอหลอก ๆ เพื่อให้บิดามารดาตายใจ ได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วค่อยเขี่ยเธอทิ้ง
“ไม่ใช่นะคะ แต่มันไม่ดีค่ะ” เธอดึงมือหนีได้สำเร็จ ปราบเองก็ยอมปล่อยแต่โดยดี แต่เขายกมือตัวเองขึ้นมาดม กลิ่นหอมอ่อนหวาน คล้ายดอกมะลิทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย มีแต่ผู้หญิงอ้าขาให้เอา แต่เธอเป็นแค่ยายเฉิ่มแสนเชย กลับทำเป็นเล่นตัว