บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 เผชิญหน้าบอสจอมโหด!

เมื่อเปิดประตูห้องทำงานเข้าไปแล้ว เธอก็เห็นหน้าของเจ้านายคนใหม่เต็มตา แล้วก็อึ้งไปหลายวินาทีกว่าจะดึงสติคืนมาได้ จากนั้นพิมาลินก็หัวใจแทบสลายในนาทีต่อมา

ก่อนแต่งตัวออกมาทำงานเธอบอกบิดาแล้วว่า สำหรับสามพี่น้องตระกูลภิรมย์ไพบูลย์เธอสามารถจะทำงานกับใครก็ได้เพื่อไถ่หนี้ให้กับครอบครัว แต่ต้องไม่ใช่ บุตรชายคนโตของตระกูลนี้

แต่ว่าที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ เลวร้ายยิ่งกว่าบุตรชายคนโตของตระกูลภิรมย์ไพบูลย์เสียอีก

‘ทำไมถึงเป็นเขาไปได้ล่ะ...ต้องไม่ใช่เขาสิ!!...ต้องไม่ใช่แบบนี้ เธอจะต้องไปถามบิดาให้รู้เรื่อง’

คิดปุ๊บพิมาลินก็จะหันหลังตั้งท่าจะเดินกลับปั๊บเลย แต่ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอกำลังจะทำ

หมับ!!

“ว้าย อุ๊บ!!”

กริ๊ก!!

เจ้าของร่างเพรียวระหงในชุดทำงานสีครีมลอยหวือเข้ามาปะทะอกแกร่งของซีอีโอหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในสูททันสมัยดูสมาร์ท ค่อนไปในทางน่าเกรงขามเต็มแรง พร้อมกับเสียงลงกลอนประตูดังกริ๊กตามมา

คนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวหน้าคะมำกับอกกว้างหลายวินาทีกว่าจะรีบพยุงตัวเองยืนให้มั่นคง ในวงแขนแกร่งที่ยังโอบประคองเธออยู่ ก่อนจะหันไปมองทางประตูที่ถูกล็อก เธอก็ยันมือกับอกกว้าง แล้วแหงนเงยมองใบหน้าของคนจอมเผด็จการด้วยอาการหวาดหวั่นอย่างที่สุด

‘...ในชีวิตนี้ เธอไม่คิดว่าต้องมาเจอเขาอีกเลย ไม่เคยคิดเลยจริงๆ...’

“จะรีบไปไหน นั่งคุยกันก่อนสิ”

“งั้นก็ปล่อยให้ฉันนั่งลงสิ จะมากอดเอาไว้ทำไม”

“ก็เห็นว่ากำลังจะเบี้ยวสัญญา ถึงได้ฉุดดึงเอาไว้ไง”

“สัญญาอะไร!?”

ชายหนุ่มหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ ก่อนจะตอบคำถามเธออย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า

“คุณคงไม่ได้อ่านสัญญาที่พ่อของคุณได้ไปก่อนที่จะมาทำงานนี้สินะ ถ้าอย่างนั้นเลิกงานแล้ว ก็รีบกลับไปอ่านซะให้เข้าใจ ก่อนที่พ่อของคุณจะไม่เหลืออะไรเลย”

เมื่อสิ้นคำห้าวกระด้างที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจของเขา ทุกอย่างรายรอบตัวก็เหมือนจะเงียบงัน

พิมาลินมองเจ้าของเสียงห้าวกระด้างนั้นอย่างมึนงงสงสัย แล้วก็ถึงกับพูดไม่ออก เพราะไม่เคยรู้เรื่องสัญญาบ้าบออะไรนั่นมาก่อนเลย

ไม่เคยมีใครเล่าให้เธอฟัง มีเพียงคำสั่งของบิดาเท่านั้น ที่สั่งให้เธอมาเป็นเลขาของซีอีโอคนใหม่ของบริษัทของบิดาเธอเอง

บิดาของเธอบอกเพิ่มเติมอีกเพียงว่า พ่อแก่แล้วพ่ออยากพักบ้าง แค่นั้นเอง

คนที่ยังตื่นตกใจ สำรวจมองเบ้าหน้าหล่อคมเข้มแบบหนุ่มลูกครึ่งแขก และมองแววตาดุๆของผู้ชายตรงหน้าอยู่นานด้วยนัยน์ตาพร่าพราย เมื่อนึกไปถึงเด็กหนุ่มหน้าหล่อผิวสีแทนคนหนึ่ง ที่แอบเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ จากหลายสถานที่

...คราวนั้น เขามองเธอ... เธอก็แอบมองเขาเช่นกัน ตามประสาเด็กสาวที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วัยรุ่น และชอบมองเพศตรงข้ามที่หน้าตาดี เธอมองตอบเขาบ่อยๆ โดยไม่รู้เลยว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่ก็มองเรื่อยมา

จนกระทั่งเรียนจบม.ต้น เธอก็ไม่เห็นเขาอีกเลย เป็นเวลาถึงสองปี จนเธอจบม.ปลายก็เห็นเขาอีกครั้ง ครั้งล่าสุดนั้นเธอไม่เคยลืม และภาพมันชัดติดตา และติดอยู่ในหัวใจของสาวน้อยคนหนึ่งเรื่อยมา เพราะเธอถูกเขาช่วยชีวิตเอาไว้จากการที่เกือบถูกรถชน

แต่ก็เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผ่านมาอีกหลายปีจนเธอมาทำงานช่วยบิดาที่บริษัท ก็ไม่เห็นเขาอีกหลายปี และเธอคิดว่า คงไม่มีวันได้พบเจอเขาอีกแล้ว...

...จนกระทั่งวันนี้ ตอนนี้ นาทีนี้... ที่ตกอยู่ในวงแขนของเขาอีกครั้ง มันเหมือนกับความฝัน แต่เป็นฝันที่น่าหวาดหวั่น และชวนให้หวาดกลัวอยู่ลึกๆ ว่ามันไม่ปกติ...

พิมาลินพยายามนึกและจำได้เป็นอย่างดีว่า สายตาที่เขามองเธอในอดีตที่ผ่านมา ดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

แต่ทว่าในความไม่เป็นมิตรนั้น เธอกลับค้นพบว่ามันซุกซ่อนความใจดีเอาไว้ภายใน ในยามที่ชายหนุ่มเผลอ เมื่อเธอบังเอิญไปเห็นเขา ช่วยชีวิตน้องหมาข้างถนนตัวหนึ่งที่ถูกรถเฉี่ยวชน

เธอเห็นเขาอุ้มมันขึ้นรถแล้วพามันไปหาคลีนิกรักษาสัตว์ใกล้ๆ แววตาที่มองสุนัขตัวนั้นดูห่วงใยมากเหลือเกิน

มันช่างต่างกับแววตาที่เขาจ้องมองเธอเรื่อยมา มันดูมีแต่ความเกลียดชัง

ทว่าก็ดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินเขาผิดอีก ว่าเขาคงเกลียดชังเธอ แต่ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณสี่ปีก่อน ถ้าจำไม่ผิด เมื่อเธอเดินข้ามถนนแบบเหม่อๆ เกือบถูกรถเฉี่ยวชน ก็ถูกมือเขาคู่นี้ ฉุดดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขา เธอถึงรอดมาได้อย่างปลอดภัย

...แต่ทว่าหนนี้ เขาฉุดดึงเธอมากอด ทำไมกัน?...

...เขากลายมาเป็นซีอีโอของบริษัทส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ของบิดาเธอได้อย่างไรกัน มันบังเอิญมากเกินไปหรือเปล่า...มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่!...

ดวงตาคู่สวยที่กำลังพร่าพร่าย และเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ไหวระริกเมื่อกลอกดวงตามองเบ้าหน้าของผู้บริหารหนุ่มคนใหม่

แล้วพอสบตาเขาที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว ความหวาดหวั่นระคนหวาดกลัวก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่า เมื่อดวงตาคมกล้าของเขา มันทอประกายความร้อนแรงแบบไม่น่าไว้ใจ เหมือนมีบางอย่างเคลือบแฝงอยู่ออกมา

เธอเป็นผู้หญิง เธอรู้สึกได้

สังเกตว่าเขาหลุบตาลงมองริมฝีปากของเธอ และมองต่ำลงไปกว่านั้น ที่ ‘ร่องอก’ มองค้างอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะตวัดสายตามาสบตาเธออีกครั้ง แล้วกระตุกยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อย ดูเหมือนเป็นการแสยะยิ้มเสียมากกว่า

...มันดูไม่น่าไว้ใจ....

พิมาลินหายใจรัวแรง หน้าอกอวบๆก็กระเพื่อมไหวขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความประหม่า หวาดหวั่น แล้วภูเขาสองลูกย่อมๆก็แนบชิดเบียดติดกับเสื้อสูทราคาแพงของเขาอยู่หลายนาที โดยที่เธอแทบจะลืมหายใจเสียด้วยซ้ำ หวาดระแวงกับความชิดใกล้ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel