บทย่อ
ข้อดีของการเกิดใหม่คือ ร่างนี้สาวและแข็งแรง นอกนั้นล้วนเป็นปัญหา ด้วยนิสัยซื่อจนเซ่อ แสนดีกระทั่งชีวิตบัดซบ สามีสูญหายในสงคราม ลูกสาวเป็นใบ้ น้องชายอยากเป็นจอมโจร และเพื่อความอยู่รอดก่อนต้องอดตาย นางต้องใช้มิติที่ติดตัวมาเปิดตลาดการค้าออนไลน์แบบข้ามภพ !?
1
“แม่ทัพเฉิน ใช่...ข้าเป็นแม่ของลูกท่าน และเราเคยร่วมเตียงกัน แต่นั่นนานมากแล้ว ตอนนี้หน้าที่ข้ากับท่าน เป็นเพียงคนทำธุรกิจการค้าร่วมกัน หวังว่าจะเข้าใจดี และไม่พยายามรื้อฟื้นความหลัง ให้ต้องอึดอัด”
เฉินเติ้งข่ายทำหัวคิ้วหนาชนกัน สีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด “ฮูหยินคนงามช่างใจแข็ง”
“เฮอะ ข้าบอกท่านไปเมื่อครู่ มันเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวาหรืออย่างไร”
“โถ ข้ายังไม่เคยชิน”
“เฉินเติ้งข่าย ข้าพูดย้ำเป็นครั้งสุดท้าย หากอยากทำหน้าที่พ่อของเป่าเป้ยข้ามิขัด แต่ถ้าต้องการมีฐานะเป็นคู่ชีวิตข้า เรื่องนั้น หยุดคิดเสียเถิด”
ชายหนุ่มอมยิ้ม และมองนางด้วยสายตาชื่นชม หรานชุนเจียวในวันนี้ คือสตรีที่เขาบอกกับตนเองว่า จะไม่มีวันปล่อยมือไปจากนางอีกเป็นอันขาด
“ตกลงตามนั้น ยอดหญิงเถ้าแก่เนี้ย ผู้เป็นแม่ของลูก และว่าที่ฮูหยินของเฉินเติ้งข่าย!”
**************
เรือนนอกสกุลเฉินลุกเป็นไฟ
โลกคู่ขนาน เมืองกานซี แคว้นฉางซาน
เด็กหญิงวัยสามขวบครึ่งตัวสั่นจัด พื้นดินนั้นก็ชื้นแฉะ นางอยากพลิกตัว แต่กลัวว่าจะเห็นใบหน้าของชายขี้เหล้าคนนั้นอีก ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาปรากฏตัว ณ เรือนนอกสกุลเฉิน ก่อนหน้านั้น เขามาก่อกวนมารดา ทั้งยังแอบอ้างตนว่าจะเป็นบิดาคนใหม่ให้เฉินเป่าเป้ยด้วย
และเฉินเป่าเป้ยไม่ต้องการ บิดานางอยู่ในป้ายไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทพอาชาคุ้มครองบ้านหลังนี้ และครอบครัวเล็กๆ แสนอบอุ่น
ยามนั้นขอบตาของเด็กหญิงร้อนจี๋ และทั้งที่กลั้นน้ำตาไว้แล้ว ทว่ามันไม่ยอมฟังแม่นางน้อย แล้วเอ่อล้นออกมาไม่หยุด มินานก็ทำให้นางปวดกระบอกตา
เฉินเป่าเป้ยสูดลมหายใจลึกๆ นางกลั้นก้อนสะอื้น และบอกตัวเองว่าต้องกลับเรือน แล้วแสดงความกล้าหาญ ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกว่าเป็นนังใบ้ปัญญาทึบ เป็นคนไร้ประโยชน์ ซึ่งให้ดีที่สุด มีค่าแค่เอาไปขายในตลาดมืด เป็นแรงงานในเหมือง
ก่อนหน้านั้น แม่นางน้อยออกมานอกเรือน ด้วยอยากเก็บมะเขือเทศสีแดงสดไปให้มารดาผัดกับไข่ไก่กิน นานแล้วที่เฉินเป่าเป้ยไม่ได้ลิ้มรสไข่ไก่แสนอร่อยของท่านแม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ต้องเก็บไข่ไก่จำนวนมากไปขายเป็นระยะเวลาเกือบเดือนเศษทีเดียว แล้วนำเงินไปส่งบ้านใหญ่สกุลเฉินเพื่อจ่ายค่าเช่าเรือนที่พักอาศัย หลังจากเก็บมะเขือเทศใส่ตะกร้าได้จำนวนไม่น้อย เฉินเป่าเป้ยก็ย่องไปดูลำธารเล็กๆ ในช่วงเวลาที่แสน
เพลิดเพลิน นางพบว่าแม่บ้านได้หายตัวไป
เด็กหญิงไม่ได้เป็นกังวลด้วยไม่ได้ออกไปเล่นที่ไหนไกลๆ มารดาสั่งว่าเถลไถลอย่างไร ก็ขอให้กลับบ้านตรงเวลา ทว่าเป็นตอนนั้นเองที่ดวงตากลมโต มองเห็นรถม้าคันหนึ่งวิ่งฝุ่นตลบบนถนน ก่อนหยุดที่หน้าประตูเรือนนอกสกุลเฉิน
เฉินเป่าเป้ยทำมือทำไม้ แล้วนับจำนวนคน ก่อนต้องตกใจ แม่นางน้อยเห็นว่าพวกเขามีเกือบสิบชีวิต คนที่ดูมีอำนาจเป็นสตรีหน้าตาหน้าเคร่งเครียด สวมเสื้อผ้าสีฉูดฉาด ซึ่งเด็กหญิงคุ้นตา แต่ไม่เคยคิดเข้าใกล้ ที่เหลือคงเป็นสาวใช้ และบ่าวชนชั้นแรงงานทั่วไป ขณะที่สนใจพวกเขาเหล่านั้น เด็กหญิงต้องสะดุ้งโหยง เมื่อมีมือใหญ่ๆ ดึงคอเสื้อนาง แล้วยกตัวเด็กหญิงขึ้นสูง จนสองเท้าลอยในอากาศ
“ฮ่าๆ ๆ จับตัวได้แล้ว หลานรักของอา...”
เสียงของชายผู้นั้น ทำให้เฉินเป่าเป้ยอยากร้องหาจางเนียนกับมารดามาช่วย ทว่าแม่นางน้อยตกใจจนเกินไป ตัวจึงแข็งทื่อ ตาลอยอีกทั้งริมฝีปากบิดเกร็ง
ยามนั้นคนตัวโตใจร้ายแกว่งร่างเล็กๆ ไปมา ตั้งใจข่มขวัญให้นางกลัว ยิ่งกลัวมากก็ยิ่งดี เขาจะได้ไม่ต้องออกแรงทำสิ่งใดให้มากกว่านี้ ที่เหลือก็ให้ผู้เป็นมารดาจัดการเสียเถอะ สำหรับเขาแค่มีที่ซุกหัวนอน ได้ดื่มสุราอย่างสำราญใจก็พอแล้ว
“อย่านะ อย่าถ่ายเบาตรงนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ข้าจะโยนลงไปในน้ำ ให้ตายเป็นผีเฝ้าลำธารเสียเลย”
ชายหนุ่มว่าจบจึงวางร่างของเฉินเป่าเป้ยลง พอเห็นว่าแม่นางน้อยนิ่งราวกับเป็นท่อนไม้ก็หัวเราะขบขัน
“อ้าว ตายง่ายเสียจริง เอาเถิดถ้าอย่างนั้นเจ้าจงอยู่ที่นี่ จะได้ไม่ต้องเห็นว่า ย่าเล็กจัดการเฉดหัวมารดาเจ้าออกจากเรือนแสนสุขอย่างไร ฮ่าๆ ๆ”
เขาว่าจบก็ล้วงเข้าไปในอกเสื้อนำถุงหนังขนสัตว์ที่บรรจุสุราออกมาดื่มอย่างสำราญใจ
ประตูหน้าเรือนนอกสกุลเฉินถูกผลักเข้าไปอย่างแรง และผู้มาเยือนคือแม่เล็ก (ไป๋หนิว) หรือฮูหยินสามไป๋ นางมีความต้องการอย่างแรงกล้า เพื่อขับไล่สะใภ้รองเฉินไปให้พ้นๆ เรือนหลังดังกล่าว
เนื่องจากคุณชายใหญ่เฉิน (เฉินอู๋เซียน) กำลังจะกลับมาจากแผ่นดินใหญ่ ซึ่งฝ่ายนั้นต้องการยึดคฤหาสน์หลังโออ่าครอบครองเพียงผู้เดียว แล้วประกาศก้องว่า เมียน้อยของบิดาที่ยังมีชีวิตอยู่ ห้ามไปเกะกะลูกหูลูกตาเขาเป็นอันขาด ดังนั้นไป๋หนิวกับลูกชายคนเล็กจึงไม่มีที่ซุกหัวนอนโดยปริยาย และเรื่องง่ายที่สุดคือ ต้องรีบไล่บี้หรานชุนเจียวให้ระเห็จไปอยู่ที่อื่น
เนื่องจากหรานชุนเจียวเป็นเพียงสตรีที่ถูกซื้อตัวมาในราคาถูกแสนถูก หากจำไม่ผิดก็คงราวๆ ห้าสิบอีแปะ ให้ตายเถอะ เงินเพียงครึ่งหนึ่งพวงทองแดงเพียงเท่านั้น พร้อมข้าวสารครึ่งถัง เกลือหนึ่งจิน นางช่างค่าตัวน้อยกว่าสุนัขสักตัวของขุนนางเสียอีก
แถมย้ายเข้าคฤหาสน์สกุลเฉินได้ไม่นาน คุณชายรองก็ถูกเรียกตัวเข้าทัพใหญ่ขององค์รัชทายาท ก่อนหายตัวไปในศึกผาศิลาแดง เฮ้อ ตัวอัปมงคลเช่นนี้ ให้อาศัยชายคาสกุลเฉินมานานเกินไปแล้ว
และสะใภ้รองเฉิน นางช่างชั่วช้าและสาระเลวจริงๆ ไป๋หนิวส่งจดหมายให้จ่ายค่าเช่าบ้านหลังนี้มานับปี แต่เงินที่ส่งไปนั้นน้อยนิดเมินเฉย นางจึงส่งคนมาบอกให้สะใภ้รองย้ายออก แต่ส่งข่าวมาก็เกือบสองเดือนเศษ หากยังดื้อด้านไม่ยอมทำตามคำสั่ง วันนี้นางจึงต้องมาเฉดหัวคนพวกนี้ด้วยตนเอง เดินทางออกจากเมืองใหญ่ มาถึงที่นี่ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งค่อนวัน แต่นับว่าคุ้มค่า เพราะต่อจากนี้นางจะได้มีที่อยู่สบายๆ ไม่ต้องเดือนร้อนควักเงินหาที่อยู่อาศัยอื่น
ทว่าพอยืนอยู่กลางห้องโถง แทนที่จะไร้เงาหรานชุนเจียว อีกฝ่ายกับยังลอยหน้าลอยตายืนหัวโด่ให้นางต้องฉุนเฉียว โอ๊ย แม่เล็กสกุลเฉินใจเดือดปุดๆ นางเป็นใคร แล้วลูกสะใภ้ที่แสนต่ำต้อยเป็นใคร วันนี้คงต้องเอาเลือดหัวมันมาล้างเท้า แล้วใช้เศษอาจมสาดไล่มันไปให้พ้นๆ สกุลเฉิน

