บท
ตั้งค่า

บทที่ 16. สิ้นสุดความเกลียดชัง...

แมวที่ได้รับอิสรภาพมุ่งหน้ามุ่งหน้าไปยังเรือนใหญ่ด้วยใจที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง เธอจะต้องจัดการกับยอดรักให้ได้ ให้สมกับความแค้นที่เธอถูกกระทำ โดยแมวไม่ได้คิดเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นมันมาจากตัวเธอเองไม่ได้เกิดขึ้นจากใครเลย และไม่มีใครที่คิดจะทำร้ายเธอแม้แต่ยอดรักเอง...

แต่ตอนนี้แมวนั้นวิตกจริตไปเสียทุกอย่างคิดแต่เพียงว่าเธอจะต้องจัดการกับทุกคนแม้แต่กับอัคราด้วย... ความคิดเลวร้ายที่อยู่ในหัวของแมวนั้นเสมือนมะเร็งร้ายที่ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล หรือแรงกระตุ้นใดๆ มากมาย เธอก็พร้อมก็จะเกลียดชังทุกคนที่ไม่ชอบหน้าหรือไม่ต้องการให้มาขัดขวางสิ่งที่เธออยากได้ เธออยากได้อัคราเธออยากเป็นหนึ่งในเรือนเด่น เมื่อยอดรักเข้ามาขวางนั่นก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอเกลียดยอดรัก...

เธอไม่ต้องการให้พิชฎาได้ในสิ่งที่เธอต้องการ นั่นก็เพียงพอเช่นกันที่จะทำให้เธอเกลียดพิชฎา และพร้อมจะแทงข้างหลังพิชฎากับอาทิตย์ผู้ชายหน้าตัวเมียที่กล้าทำร้ายเธอ... ในขณะที่คิดแค้นคนนั้นคนนี้แมวก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพบว่ามีคนมาขวางทางเธอไว้สองคน...

“นั่นใครมาขวางทางฉัน หลีกไปนะโว้ย...” แม้ในขณะที่เหมือนหมาจนตรอก แมวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวสิ่งใด เพราะตอนนี้จิตใจเธออยู่ที่เรือนเด่นซึ่งอยากจะเข้าไปบีบคอยอดรักให้ตายคามือนั่นเอง

“ฉันถามว่าใคร หลีกไปนะ ฉันมีอาวุธนะจะบอกให้...”

“แกมีอะไรเป็นอาวุธหรือนังแมว...”

“นังพิชชี่... กะ แก... ไอ้อาทิตย์ พวกแกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...” เสียงตอบกลับมาและคนทั้งสองเดินมาจนแสงไฟกระทบให้เห็นใบหน้าชัดเจนแมวถึงกับตกตะลึงด้วยไม่อยากเชื่อว่าพิชฎากับอาทิตย์จะมาอยู่ที่นี่ได้...

“พวกแกออกมาได้ยังไง...”

“ก็ออกมาพร้อมๆ กับแกนั่นล่ะนังอสรพิษ...” อาทิตย์กัดฟันพูดอย่างชิงชัง

“พวกแกต้องการอะไร”

“ก็ต้องการอิสระไงล่ะ...” พิชฎาพูดเสียงเย็นพร้อมทั้งค่อยๆ วาดแขนซึ่งไขว้หลังไว้มาข้างหน้าทำให้แมวเห็นมีดสั้นคมกริบที่สะท้อนเสียงไฟจากตะเกียงเจ้าพายุที่ลุกชิตช่วงเพราะแรงลมในยามดึกมืดมิด...

“จัดการมันเสียทีสิ อย่ามัวแต่พูดฉันไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานนักหรอกนะ...”

“แกก็จับมันไว้สิไอ้แมงดาแล้วฉันจะกระซวกมันเอง...” แววตาของพิชฎาเต็มไปด้วยแววกระเหี้ยนกระหือไม่ต่างจากแววตาของเพชฌฆาตพอๆ กับอาทิตย์ที่โผนเข้ามาหาแมวทันที..

แมวซึ่งระแวงระวังอยู่แล้วไหวตัวหลบพลางฟาดตะเกียงใส่หน้าอาทิตย์เต็มแรงทำให้น้ำมันกระฉกออกจากตะเกียงรดใบหน้าอาทิตย์เต็มๆ พร้อมทั้งสะเก็ดไฟที่ปลิวออกมาจากตะเกียงก็ลุกพรึ่บไปทั้งใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างรวดเร็ว...

“อ๊ากกก...” เสียงร้องโหยหวนของอาทิตย์ดังก้องท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืนอันมืดมิด ร่างสูงโปร่งของเขานอนดีดดิ้นอยู่บนพื้นหญ้าราวหมาขี้เรื้อนโดนไฟครอก ในขณะที่ทั้งแมวและพิชฎากำลังตบตียื้อแย่งมีดสั้นคมกริบซึ่งมันจะเป็นอาวุธที่ใช้ห้ำหั่นอีกฝ่ายให้ม้วยมรณาและเพื่อตนจะได้เป็นผู้อยู่รอด...

“แกไม่มีทางรอดไปได้หรอกนังแมวอีชั่วช้าหน้าดำ”

“แกก็เหมือนกัน อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้แกรอดไปได้...” สองสาวยื้อแย่งมีดกันอย่างไม่มีใครยอมและเหตุการณ์ต่างๆ นั้นก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสุดท้ายก็เกิดความพลาดพลั้งกับใครคนใดคนหนึ่ง

แมวใช้แรงที่มีเหนือกว่าจนสามารถบิดข้อมือพิชฎาจนงอกลับหันปลายมีดเข้าหาตัวเองแล้วแมวก็ออกแรงผลักให้มีดเสียบเข้ากลางอกของพิชฎาจนมิดด้าม...

ฉึก... เสียงมีดกรีดลึกลงกลางอกของพิชฎานั้นดังก้องอยู่ในหูของแมวซึ่งยิ้มเยื้อนอย่างพอใจในชัยชนะของตน...

“ฮ่าๆ เป็นไงล่ะนังสาวชาวกรุง อย่างแกน่ะหรือจะชนะฉันได้...” แมวผลักร่างที่ทรุดฮวบของพิชฎาออกให้ไกลตัวพร้อมทั้งชักมีดออกมาจนพิชฎาล้มกองกับพื้น พิชฎาหายใจรวยรินมองแมวอย่างเคียดแค้น

“แก...” พิชฎาพูดเสียงติดขัดเลือดสดๆ ทะลักออกมาจากปากแผลที่เปิดกว้างทั้งกระอักออกมาทางปากด้วย ลมหายใจของเธอเริ่มขาดห้วงความหนาวเหน็บเริ่มรายล้อมรอบกายจนเย็นเฉียบไปทั้งตัวเสมือนว่าเธอกำลังอยู่ท่ามกลางหิมะขั้วโลก...

“ตายซะเถอะพวกแกสองคนมันก็เหมาะสมกันอยู่แล้ว ต่อไปฉันก็จะไปจัดการนังยอดรัก แกน่าจะดีใจที่ฉันก็จะกำจัดมารหัวใจของแกด้วยเหมือนกัน...”

พูดจบแมวก็สะบัดหน้าเดินฉับๆ หมายจะไปยังเรือนเด่นเพื่อจัดการกับคนที่เธอคิดว่าเป็นมารหัวใจ... แต่แล้วก็มีมือของใครคนหนึ่งมาคว้าไหล่เธอไว้อย่างแรงจนเธอต้องเซถลาหันกลับมาและทันใดนั้นเองเธอก็รู้สึกร้อนวูบบนใบหน้า และแสงเจิดจ้าจากเปลวไฟก็ลุกโชนจนเธอตาพร่าไป...

“กรี๊ดดดด... ร้อนๆ ช่วยด้วยๆๆ กรี๊ดดดด...” แมวกรีดร้องด้วยความทรมานจากเปลวไฟที่ลุกไหม้ไปทั้งใบหน้าและลำตัวของตน...

อาทิตย์ซึ่งแมวคิดว่าเขาตายไปแล้วนั้นฮึดเฮือกสุดท้าย คว้าตะเกียงเจ้าพายุซึ่งยังคงมีทั้งน้ำมันและเปลวไฟอยู่ฟาดลงบนใบหน้าแมวก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้นหญ้าในวินาทีสุดท้าย ดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความเจ็บปวดทรมานไม่ต่างกัน ก่อนจะค่อยๆ หายใจแผ่วเบาและแน่นิ่งไป...

“กรี๊ดดดด... ช่วยด้วย กรี๊ดดด...” มีเพียงแมวเท่านั้นในตอนนี้ที่กรีดร้องโหยหวนปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว หญิงใจทรพีนอนดิ้นปัดๆ ด้วยความทรมานอยู่กับพื้นไม่ต่างจากอาทิตย์ก่อนหน้านี้ แต่สำหรับแมวแล้วความทรมานของเธอนั้นมันไม่ได้มาจากเปลวไฟเพียงอย่างเดียว แต่มันมาจากจิตใจที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและริษยาที่ฝังหัวจิตหัวใจมานับสิบปี

ความเกลียดชังริษยาที่เธอสร้างขึ้นมาเองเพียงแค่เห็นคนอื่นได้ดีกว่า และไม่ว่าความรู้สึกเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับใครก็ไม่เคยส่งผลดีให้กับผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว เพราะโรคร้ายเช่นนี้คงรักษาได้เพียงหนทางเดียวคือ ให้มันตายไปกับตัวของผู้เป็นโรคร้ายเฉกเช่นเดียวกับแมว

แต่ความตายมันคงง่ายเกินไปกับคนอย่างแมว...

“เป็นไงบ้างพล...” อัคราโทรศัพท์หาพลเพื่อสอบถามผลการปล่อยเชลยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ซึ่งตัวเขาเองก็กำลังรอดูว่าเชลยคนใดจะบุกมาที่นี่เพื่อทำร้ายเขาลับหลัง...

“เป็นไปตามที่คิดครับ พวกเขาไม่สำนึกอะไรดีๆ ได้เลย พยายามจะกลับมาทำร้ายคุณยอดรัก... แต่ตอนนี้ไม่มีสามารถทำร้ายคุณยอดรักหรือใครๆ ได้แล้วล่ะครับ ป้าแก้วก็คงจะเสียใจมากเรื่องหลานของแก ตอนนี้คุณกุ้งก็กำลังปลอบอยู่ครับคิดว่าไม่นานแกก็คงทำใจได้...”

“อืม ขอบใจมากที่ช่วยเหลือ...”

“ไม่เป็นไรครับ คนพวกนี้ปล่อยไว้นานเขาก็คงไม่ทำร้ายแค่เราหรอกครับ พวกเขาพร้อมจะทำลายทุกคนเพื่อให้ตนเองได้มีชีวิตที่ดีกว่าเสมอ... ผลที่เกิดขึ้นมันก็มาจากจิตใจฝ่ายต่ำของพวกเขาเอง...” พลกล่าวอย่างปลงตก

“นี่หากฉันไม่เคยรู้จักแกมาก่อน ฉันคงคิดว่าฉันคุยอยู่กับพระมหาเถระแห่งสำนึกสงฆ์ที่ไหนสักที่แน่ๆ เลยว่ะพล... แต่ก็จริงของแก...” อัครากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายขึ้น...

“เอาเป็นว่าช่วยจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยก็แล้วกัน...”

“ครับ...” พลรับคำสั้นๆ ก่อนจะตัดสายไป

อัคราถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่เมื่อเรื่องร้ายได้ผ่านพ้นไป... เขาอดคิดไม่ได้เลยว่าหากเขาเป็นคนที่ไม่หนักแน่นอ่อนไหวหรือหูเบาขาดสติป่านนี้ชีวิตครอบครัวของเขาจะเป็นไปอย่างไร หรือไม่บางทีเขากับยอดรักก็อาจจะเกิดการเข้าใจผิดกันจนเกิดเรื่องใหญ่โต เมื่อเขาให้พิชฎามาที่นี่ และเขาก็อาจจะสูญเสียเธอกับลูกไป เมื่อแมวกับอาทิตย์นั้นต่างวางแผนการจะพาตัวยอดรักไปทำมิดีมิร้ายเพื่อแบลกเมล์ อีกทั้งเขาก็เห็นแล้วว่าอาทิตย์นั้นเป็นคนที่ใจคอโหดเหี้ยมจริงๆ

อาทิตย์อาจจะทำร้ายยอดรักจนแท้งลูกหรือไม่ยอดรักก็อาจจะแท้งลูกจากยาขับเลือดที่แมวแอบเอาใส่ไว้ในอาหารให้ยอดรักกินดีที่ว่ากุ้งเต้นนั้นรู้ทันและซ้อนแผนด้วยการเปลี่ยนอาหารทุกมื้ออย่างแนบเนียน ยอดรักจึงรอดพ้นจากเรื่องร้ายนั้นมาได้ และไม่เสียทีอาทิตย์

ในขณะที่พิชฎาผู้ต้นคิดนั้นก็ใจคอโหดเหี้ยมไม่แพ้กันเพราะถึงขนาดทำให้ตัวเองบาดเจ็บจนต้องคลอดก่อนกำหนดเพียงเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากอาทิตย์ และเพื่อให้ตนเองหาที่เกาะใหม่ได้โดยไม่สนใจว่าลูกของตนที่คลอดก่อนกำหนดนั้นเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ยอดรักซึ่งรู้ข่าวนี้ก็ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยผู้อาภัพคนนั้นด้วยการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลูกของพิชฎาซึ่งอยู่ในความดูแลของนางแปลกแม่ของอาทิตย์ ซึ่งนางก็ยินดีที่ได้หลานชายน่ารักน่าชังและนางก็ไม่อยากจะรับรู้ว่าลูกชายกับอดีตลูกสะใภ้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะตอนนี้นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขที่ต้องเลี้ยงดูให้ดีและนางก็ขอบคุณยอดรักที่เข้ามาช่วยเหลือ...

เรื่องราวทุกอย่างระหว่างที่พิชฎาเข้ามาอยู่ในไร่หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ ของแมวที่ติดต่อกับพิชฎานั้นเขารู้มาตลอดเพราะเขารู้ว่าคนทั้งสองนั้นเคยคบหากันมาก่อนและจากการที่เขาเฝ้าติดตามยอดรักมากว่าหนึ่งปีทำให้เขารู้ความเคลื่อนไหวของพิชฎากับอาทิตย์ ด้วยซึ่งมันทำให้เขาไม่เคยไว้ใจคนทั้งสาม เมื่อพิชฎากลับเข้ามาในชีวิตของยอดรัก เขาก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และการที่เอาศัตรูมาอยู่ใกล้ตัวจึงเป็นการกระทำที่เขาตั้งใจให้เป็นดังนั้น เพื่อเขาจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของคนทั้งสามได้โดยที่ทั้งแมว พิชฎาและอาทิตย์ไม่รู้ว่าพวกตนอยู่ในสายตาเขามาตลอด และเขาก็คาดการณ์ไว้ไม่ผิดเพราะสุดท้ายแล้วงูพิษก็ยังคงเป็นอสรพิษที่ไม่น่าไว้ใจอยู่นั่นเอง...

ยอดรักรู้สึกเศร้าอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยินข่าวอันน่าเศร้าสลดของคนเคยรู้จักแต่สิ่งที่พวกเขาทำและคิดจะทำกับเธอนั้นก็ทำให้เธอปลงตก เมื่อเห็นได้ชัดว่ากรรมมันติดจรวดแค่ไหน เมื่อเราคิดจะทำร้ายคนอื่นหรือให้โทษภัยคนอื่นสักวันมันก็ต้องย้อนกลับมาหาตัวเราเองดังคำกล่าวที่ว่า

ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว...

หลังจากเรื่องร้ายๆ ผ่านไปก็มีการทำบุญไร่ครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีซึ่งคนงานทุกคนต่างก็มาทำบุญกันหน้าตาเบิกบานสดใสถ้วนหน้า และไม่มีใครใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะมีไม่กี่คนที่รู้ข่าวซึ่งคนที่รู้ต่างก็ไม่มีใครอยากจะพูดถึงเพราะนั่นเท่ากับการหาเรื่องใส่ตัวหากว่าเรื่องในไร่ถูกเล่าขานไปในทางเสื่อมเสีย เพราะนอกจากจะถูกไล่ออกแล้วชีวิตก็อาจจะไม่ได้อยู่เป็นสุขก็ได้หากเอาเรื่องไม่ดีไปพูด

เพราะใครๆ ก็รู้ว่าคุณเด่นนายใหญ่แห่งไร่อัครานั้นไม่ชอบเรื่องซุบซิบนินทาและไม่ชอบให้ใครพูดถึงภาพลักษณ์ของไร่ในทางไม่ดีซึ่งคนงานต่างรู้ดีว่า งานที่ไร่แห่งนี้นั้นแม้จะหนักแต่ค่าตอบแทนงามและสวัสดิการทุกอย่างนั้นมันเอื้ออำนวยพวกเขาทั้งครอบครัว... และไม่มีใครอยากจะทิ้งโอกาสดีๆ รายได้งามๆ ไปแน่นอน...

“เป็นไงบ้างแกวันนี้...” กุ้งเต้นกับน้องพราวมาเยี่ยมยอดรักแต่เช้าในวันถัดมา

“ก็ดี ไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างโอเค...” ยอดรักยิ้มกว้างให้สองแม่ลูกซึ่งดูรักใคร่สนิทสนมกันดีจนน่าอิจฉา

“ก็ดีแล้วแก อย่าเครียดล่ะเดี๋ยวหลานฉันหน้าย่น”

“แหมแก หน้าย่นน่ะมันฟังดูเหมือนหน้าหมานะ หมาหน้าย่น”

“ก็ใช่ไงแก แกก็ต้องยิ้มสดใส อารมณ์ดีทำการบ้านบ่อยๆ หน้าจะได้ไม่ย่น อิอิ” กุ้งเต้นปิดปากหัวเราะคิกคัก

“นังบ้า...” ยอดรักหน้าแดงก่ำเมื่อรู้ความหมายของเพื่อนดีว่าหมายความว่าอย่างไร พอดีกับที่พลกับอัคราเดินเข้ามาพวกเธอซึ่งนั่งคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น...

“ยอดรักครับเราเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวทะเลกันไหม ที่บ้านริมหาดของนายโดมสวยมากเลยนะ ทะเลสวยหาดทรายก็ขาว” อัคราหอมแก้มภรรยาแล้วชักชวนเธอไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ

“จริงเหรอคะ รักอยากไปค่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวทะเลนานแล้ว ไปด้วยกันนะกุ้ง น้องพราวด้วย ไปด้วยกัน”

“แน่นอนอยู่แล้ว ใครบ้างที่ไม่ชอบของฟรี...” กุ้งเต้นหลิ่วตาให้เพื่อนรักอย่างน่าหมั่นไส้แล้วต่างก็พากันหัวเราะสดใส...

ยอดรักหายใจกระเส่าเมื่อถูกความเสียวซ่านรัญจวนโจมตีอย่างหนักหน่วงจนเธอแทบจะสำลักความสุขสมที่สามีสุดที่รักบรรจงมอบให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า และตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้เหยียบย่างลงบนผืนทรายเลยสักเม็ดเพราะเธอยังไม่ได้ออกจากห้องไปไหนเลยก็ว่าได้...

“อื้ม พี่เด่น พะ พอแล้ว...” ปากสาวครางประท้วงแผ่วพร่าแต่มือเรียวก็ลูบไล้กล้ามเนื้อแข็งแรงของสาวอย่างรักใคร่หลงใหลทั้งความต้องการก็ยังไม่สิ้นสุด...

“พอจริงเหรอเมียจ๋า...” อัคราเงยหน้าจากอกอวบนุ่มแสนอร่อยอย่างเสียดายเพื่อจะละมาจูบปากระเรื่อแสนหวานของภรรยายอดรักยอดสวาท...

“อือออ... พี่เด่นน่ะ...” ยอดรักพ้อเขาเสียงหวานทั้งยังแอ่นอกให้เขาฟอนเฟ้นอย่างหลงลืมตัวไปกับเพลิงเสน่หาทาเขาจุดขึ้นในกายเธอ อัคราคลึงเคล้นทรวงอวบใหญ่อย่างเมามันแล้วโน้มใบหน้าลงมาดูดกลืนยอดอกเครียดคัดอย่างหิวโหย ทั้งที่เขาเพิ่งดูดดึงมันอย่างเร่าร้อนไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วินาที ชายหนุ่มใช้ฟันคมกัดเบาๆ แล้วขบดึงยอดอกสาวอย่างหยอกเย้าเพิ่มความซ่านกระสันในเกมรักมากขึ้นด้วยมือร้อนๆ ที่เลื่อนลงไปลูบไล้เนินดอกไม้งามเขี่ยวนหยอกยั่วเรียกร้องให้เจ้าของดอกไม้งามหลั่งน้ำหวานอร่อยล้ำออกมาให้เขาดื่มกิน...

“รักจ๋า ยอดรัก หวานทั้งเนื้อทั้งตัวเลยเมียจ๋า...” อัครากล่าวเสียงแหบแห้งเมื่อเลียไล้สำรวจร่างสีน้ำผึ้งนวลเนียนของเมียรักอย่างหลงใหล

ปากร้อนร้ายมาหยุดนิ่งที่สะดือน่ารักเขาก็ตวัดลิ้นเลียเบาๆ หยอกเย้าให้เธอเสียวซ่านเล่นๆ ก่อนจะไล้เลียวนไปที่หน้าท้องนูนตามอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแสนรัก ยิ่งรู้ว่าภายในนั้นมีเลือดเนื้อเชื้อไขของตนแล้วอัคราก็แนบใบหน้าที่เต็มไปด้วยตอหนวดเขียนครึ้มลงไปแล้วเกลือกลิ้งใบหน้ากับท้องของเธอด้วยความรักแสนรัก ยอดรักทั้งเสียวซ่านทั้งอิ่มเอมใจกับการกระทำอันน่ารักน่าใคร่ของเขา...

“รักเหลือเกิน รักจ๋า พี่เด่นรักยอดรักที่สุด...” คำว่ารักออกจากปากหยักครั้งแล้วครั้งเล่าที่ฟังไม่รู้เบื่อหน่าย

“รักก็รักพี่เด่นค่ะ รักมาก...” หญิงสาวตอบรับความรักของสามีด้วยการรั้งร่างแกร่งขึ้นมาแล้วเป็นฝ่ายจูบเขาอย่างเร่าร้อนเสียเอง... อัคราครางอย่างถูกอกถูกใจเมื่อภรรยาแสดงความรักเร่าร้อนกับเขาอย่างไม่อิดออด ร่างเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเฉกเช่นชายชาตรีเอนกายลงนอนลงเตียงนุ่มยับย่นเมื่อเธอผลักให้เขาลงไปนอนแทนที่ที่เธอนอนอยู่เมื่อครู่ก่อนด้วยความเต็มใจ

ยอดรักคร่อมร่างแกร่งของสามีด้วยร่างงามอิ่มเอิบของตนแล้วก้มลงดูดยอดอกของเขาแรงๆ เหมือนแกล้งทั้งยังใช้เล็บจิกสะกิดยอดอกอีกข้างของเขาอย่างซุกซน อัคราครางกระเส่าหนักๆ ในลำคอแอ่นร่างขึ้นเหนือที่นอนอย่างอดทนไม่ไหวกับคลื่นความเสียวซ่านที่สาดซัดเข้าหาอย่างบ้าคลั่งเพียงเพราะปากและลิ้นเล็กๆ ของเธอ...

“อา... รักจ๋ารักของพี่... โอว ดีเหลือเกิน เก่งจังเมียพี่...” อัคราครางชื่นชมภรรยาที่ยิ้มกว้างอย่างยินดี เมื่อสามารถทำให้สามีครางเสียงดังได้ถึงเพียงนี้ หญิงสาวก้มลงไล้ลิ้นเล็กๆ ที่ร้ายกาจไม่แพ้เขาไปตามกล้ามเนื้อแข็งแรงเป็นลอนงดงามต่ำลงไปยังหน้าท้องแกร่งที่หดเกร็งด้วยความซ่านกระสัน ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปยังความแข็งขึงซึ่งบ่งบอกความต้องการของเขาอย่างชัดเจนด้วยความหิวกระหายในตัวเขาไม่ต่างจากเขาที่หิวกระหายในตัวเธอ...

ยอดรักดื่มกินไล้เลียร่างแกร่งของเขาอย่างเอาอกเอาใจและสร้างความเสียวซ่านให้กับเขาอย่างที่เขาเคยปรนเปรอให้กับเธอด้วยความรักทั้งหมดที่มีในหัวใจ อัคราครางกระเส่ามือหนาเอื้อมมาขยี้เรือนผมที่เริ่มยาวประบ่าของภรรยายอดรักอย่างซ่านรัญจวนในอารมณ์ก่อนจะลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนเท้าแขนไว้กับที่นอนเพื่อให้ได้มองหน้าเธอยามที่เธอกลืนกินตัวตนของเขา...

“อา... เมียจ๋า ยอดรัก พะ พอก่อน... โอว....” อัคราเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปิดใบหน้างามแดงก่ำออกเพื่อจะได้มองหน้าเธอชัดๆ ก่อนจะรั้งร่างงามขึ้นมาแล้วบดจุมพิตเร่าร้อนกับปากนุ่มที่ละจากแก่นกายกำยำของเขาอย่างแสนเสียดาย มือร้อนกร้านงานลูบไล้เนื้อนวลเปล่งปลั่งของภรรยาอย่างรักใคร่หลงใหลฟอนเฟ้นทั้งอกอวบและสะโพกหนั่นแน่นพร้อมกับที่เคลื่อนกายเข้าหาความอ่อนนุ่มของอิสตรีที่พรั่งพร้อมของเธอ...

“อืม... โอว... พี่เด่นขา...” ยอดรักครางกระเส่าสูดปากเร่าร้อนเมื่อเขาเข้ามาเติมเต็มในร่างคับแคบของเธอ ดวงตาของหนุ่มสาวประสานกันหวานเชื่อมทว่าร้อนแรงด้วยความปรารถนาที่ส่งผ่านถึงกันได้อย่างง่ายดาย ยอดรักโยกกายช้าๆ เมื่อความซ่านเสียวเสียดแทงไปทั้งร่าง เลือดสาวในกายร้อนฉ่าจนไม่อาจจะหยุดอยู่เฉยบนร่างแกร่งแข็งขึงของเขาได้ ในขณะเดียวกันอัคราก็สอดเสยร่างใหญ่โตของตนเข้าโรมรันภรรยาสาวด้วยความร้อนแรงปากก็ทั้งครางและดูดดื่มทรวงสาวที่สั่นไหวอยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยไม่รู้หน่าย...

“โอว รักจ๋า ยอดรัก โอ้ววว...” อัคราครางหนักๆ ในลำคอเมื่อเธอบีบรัดดูดดึงให้เขาจมดิ่งสู้ห้วงเสน่หาลึกล้ำจนไม่อาจจะทนต่อความเสียวสุขสุดใจนั้นได้ และในที่สุดทั้งเขาและเธอก็พากันล่องลอยไปสู่วิมานฉิมพลีแสนสุขสมได้อีกครั้ง...

ยอดรักหน้างอง้ำเมื่อวันที่สี่ของการมาเที่ยวพักผ่อนเธอยังไม่ได้ออกมาสัมผัสกับลมทะเลหรือหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าสดใสอยู่เบื้องหน้านั้นน่าเล่นที่สุดและเธอก็รู้สึกอิจฉาที่กุ้งเต้นกับครอบครัวได้วิ่งเล่นบนหาดทรายและได้แหวกว่ายน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน...

“รักไม่ยอมแล้วนะคะ ยังไงวันนี้รักต้องได้เล่นน้ำ...” หญิงสาวหันมาทำขึงขังใส่สามีจอมหื่นที่ไม่ยอมให้เธอไปไหนเลยเขาเทียวแต่จะพาเธอขึ้นเตียงอยู่ทุกวินาที... ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าแดงทุกครั้งไป...

“โธ่... ก็พี่เด่นห่างจากรักไม่ได้นี่นามันจะเวียนหัว...” สามีเจ้าเล่ห์อ้างซื่อๆ หน้าตาดูน่าเชื่อถือเสียเหลือเกิน...

“ไหนว่าหายแล้วไงคะ จะมาติดเมียหรือแพ้ท้องแทนเมียอะไรตอนนี้ ไปอาบแดดพี่เด่นก็อยู่ข้างๆ รักได้ หรือเล่นน้ำก็เล่นด้วยกันได้นี่คะ”

“ไม่เอา พี่เด่นกลัวดำ” คนไม่อยากห่างเมียอ้างดื้อๆ หน้าตาย เขานี่นะกลัวดำ อย่างกับตอนนี้ขาวตายล่ะ..

“พี่เด่นคะ...” ยอดรักทำเสียงแข็งใส่สามี ทั้งใบหน้าก็ตึงจัดจนอัคราต้องรีบมาโอบกอดเธอไว้อย่างเอาใจ...

“จ๋า เมียจ๋าอยากเล่นน้ำเหรอจ๊ะ ได้เลยครับ ไหนล่ะชุดว่ายน้ำ ไหนครีมกันแดด มาๆ ไปเถอะ พี่เด่นจะทาครีมกันแดดให้ รักจะนั่งตรงไหนพี่เด่นจะยกเก้าอี้ไปให้...” อัครารีบเอาใจเมียรักทันทีเมื่อเห็นประกายตาวาววับราวแม่เสือ...

“ดีมากค่ะ เพราะนับจากนี้ไปหากพี่เด่นเอาแต่ใจตัวเองไม่เอาใจรักได้เห็นดีกันแน่...”

พูดจบหญิงสาวก็เชิดหน้าเดินนำหน้าเขาออกไปยังหาดทรายขาวแสนนุ่มอย่างเบิกบานใจ...

มือใหญ่สั่นน้อยๆ ขณะยื่นไปจับกับมือเล็กๆ ที่กำแน่นของทารักหญิงตัวอวบอ้วนก้มแดงปลั่งซึ่งนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ภรรยาที่รักของตน ซึ่งกำลังมองมายังเขาด้วยความรักตื้นตันใจเมื่อวันที่พวกเขารอคอยได้มาถึงเสียที...

“ลูก... ลูกของเรา...”

อัคราพูดด้วยน้ำเสียงแหบเครือสั่นพร่าด้วยความตื้นตัน หลังจากหลายชั่วโมงมานี้เขาเฝ้ารอคอยจะได้พบหน้าลูกน้อยพร้อมๆ กับเธอ อยู่กับเธอจนวินาทีที่ลูกน้อยลืมตาดูโลก...

“ค่ะ นี่คือลูกของเรา...”

ยอดรักยิ้มบางๆ ให้สามีใบหน้าซีดเซียวของคุณแม่คนใหม่นั้นแม้จะซีดเซียวแต่เปี่ยมด้วยความสุขมากมาย...

“ขอบคุณนะครับยอดรักที่มอบของขวัญที่วิเศษที่สุดให้พี่...”

“รักก็ขอบคุณพี่เด่นเช่นกันค่ะ ที่มอบความรักและดูแลรักอย่างดีมาตลอด... ยอดรักของรัก”

“พี่เด่นตั้งชื่อให้ยายหนูสิคะ”

“คุณแม่ชื่อยอดรักและมอบของขวัญพิเศษให้พี่ ของขวัญที่เป็นดังแก้วตาดวงใจ... พี่จะให้ลูกสาวของเราชื่อ ยอดกมล ชื่อเล่นชื่อว่า น้องดรีม ดีมั้ย...”

“ดีค่ะ... รักชอบชื่อนี้ น้องดรีม ยอดกมล...”

หญิงสาวยิ้มให้สามีซึ่งมองเธอด้วยความรักสุดซึ้งก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มเซียวๆ นั้นฟอดใหญ่แล้วเผื่อแผ่ไปยังลูกน้อยที่ตอนนี้กำลังส่ายหน้าอ้าปากหาน้ำนมจากมารดา

“ยายหนูของเราคงหิวแล้ว..”

อัคราตื่นเต้นด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรท่าทางเงอะงะทำอะไรไม่ถูกของคุณพ่อหน้าเข้มตัวโตทำให้พยาบาลที่คอยดูแลความเรียบร้อยของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ยิ้มกว้าง...

“คุณแม่อุ้มน้องแบบนี้นะคะ...”

พยาบาลสาวเข้ามาให้คำแนะนำคุณพ่อคุณแม่สุดหล่อสุดสวยในการเลี้ยงดูแม่หนูน้อยที่กำลังเบะหน้าจะร้องไห้จ้าเมื่อความหิวมาเยือน....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel