บท
ตั้งค่า

8. ภีมะ

พั่บ พั่บ ภีมะไล่เปิดแผ่นกระดาษที่ณิชาเซ็นมาให้จนครบทุกแผ่น “หล่อนคิดว่าตัวเองฉลาดแค่ไหนกัน...”

“ตอนนี้สื่อต่างๆได้ประโคมข่าวประกาศอย่างเป็นทางการแล้วครับ” ภีมะแค่รับฟังไว้ แต่งงาน เขาไม่เคยสนใจมันเลยด้วยซ้ำ

“ทำไปตามเห็นสมควรแล้วกัน”

“คุณภีมไม่คิดว่าคุณณิชาน่ารักบ้างหรือครับ”

“ผมไม่ปฎิเสธว่าเธองดงามสวยดั่งเทพธิดาในเทพนิยาย แต่ผมเกลียด...” น้ำเสียงและสีหน้าเปลี่ยนไปทันที กรามแกร่งขบกัดแน่น ความเจ็บปวดของเขามีใครกันจะเข้าใจ

“ภีมะ...ทำอะไร”

“พ่อ ผมไม่อยากไปที่นั่นแล้ว”

“ออกมา แกอย่ามาทำตัวขี้ขลาด” ภีมะร้องลั่นเมื่อถูกดึงออกมาจากตู้เสื้อผ้าที่เขาขึ้นมาซ่อนตัวจากพ่อของเขาเอง เขาร่ำร้องบอกแต่ไม่ไป

ตื๊ดดดด เสียงเข็มเล่มแล้วเล่มเล่าที่ทิ่มแทงบนเนื้อขาวเนียนละเอียด เสียงร้องไห้ขอความกรุณาไม่เป็นผล จนเสียงร้องไม่มีให้ได้ยิน ความเจ็บปวดติดต่อกันหลายปีที่เขาต้องพบเจอ ค่อยๆสร้างความเกลียดชังในจิตใจของเขา จนมันล้นเอ่อ เขาเกลียดทุกคน รวมถึงพ่อของเขาเองที่เอาแต่ทนุถนอมพี่ชายตาบอดและทำร้ายเขาทั้งร่างกายและจิตใจ

“คุณชาย คุณพ่อของคุณท่านได้จากไปแล้ว” คำบอกกล่าวนั้นไม่ทำให้เขาทุกข์ร้อนเลยสักนิด พินัยกรรมฉบับแรกถูกเปิดเผยหลังจากนั้นทันที เขาขึ้นรับตำแหน่งเป็นทายาทของนายนักรบ และสิ่งแลกที่เขาทำคือส่งตัวพี่ชายตาบอดไปกักขังไว้ที่เกาะ เขาต้องการให้เหนือสมุทรรู้จักความโดดเดี่ยวที่เขาได้รับมาตลอดทั้งชีวิตบ้าง

ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูเรียกภีมะคืนกลับสู่ปัจจุบัน รัสเดินเข้ามาทันทีที่ได้รับอนุญาต

“ทางโรงพยาบาลแจ้งผลการตรวจซีทีสแกนครับ” ภีมะรับเอกสาร คิ้วเรียวกระตุกเล็กน้อย เมื่อเห็นรายงาน

“ยืนยันแน่แล้วเหรอ” รัสพยักหน้า “ดี! ปิดเรื่องนี้ไว้ อย่าให้หลุดออกไปได้เด็ดขาด” รัสขานรับและขอตัว

‘สูญเสียความทรงจำ ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด เพราะศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนเสียหายต่อสมอง’

ฮา ฮา ฮา ภีมะหัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะครั้งแรกในชีวิตเขาเลยก็ว่าได้

“ทำไมคนเข้าออกเยอะจัง” ณิชาที่ถูกเชิญมาที่คฤหาสน์นรารัตน์ มองผู้คนที่เดินเข้าออกไปมามากมาย

“มีบางส่วนในบ้านที่ควรได้รับการปรับปรุงครับ” รัสรายงาน ณิชาเดินตามรัสไปยังห้องที่มีคนหลายคนเดินออกมา “ที่นี่คือห้องของคุณณิชาครับ”

“ห้องของฉัน...หมายความว่าไงกัน”

“หลังการแต่งงาน คุณจะได้พักที่ห้องนี้ครับ”

“แต่ฉันจะอยู่ที่บ้านของพ่อ”

“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้อยู่สักหน่อย...” เสียงของภีมะดังแทรกขึ้นมา “ฉันคงไม่อยากสิ้นเปลืองกับเธอนักหรอก”

“งั้นห้องนี้ก็ไม่ใช่ห้องของฉัน”

“ก็ตามใจเธอสิ...ไม่อยากได้ก็ไม่มีใครเขาว่า” ระหว่างสงครามน้ำลายของณิชากับภีมะ หญิงสาวในชุดยูนีฟอร์มแม่บ้านเดินเข้ามาพร้อมรายงานว่า “คุณชายค่ะ ทุกอย่างของคุณเหนือสมุทรเรียบร้อยแล้วค่ะ” !! ณิชาหูผึ่งทันที

“เมื่อกี้...พี่เหนือ พี่เหนืออย่างงั้นเหรอคะ” หมับ! พรึ่บ! ณิชาหลงลืมตัวตามประสา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอโผเข้าเกาะแขนภีมะ ภีมะสะบัดออกทันทีและมองเธอด้วยแววตารังเกียจอย่างเปิดเผย

ณิชาไม่แคร์ไม่สนใจท่าทางเหล่านั้นของเขา เธอหันไปหาหญิงสาวที่มาแจ้งข่าว “ห้องพี่เหนือ...เอ่อ คุณเหนือสมุทรอยู่ไหนคะ” หญิงสาวก้มหน้ามองพื้นทันที เธอไม่กล้าตอบคำถามของณิชา

อุ้ย! เสียงร้องของณิชาดังขึ้น เมื่อจู่ๆ เธอก็ถูกภีมะกระชากแขนและลากให้เดินไปกับเขา “นี่! ปล่อยนะ ฉันเจ็บนะ” ณิชาร้องและใช้แรงที่มีน้อยนิดของตัวเองดึงแขนของตัวเองออกจากพันธนาการนั้น

โอ้ย!!! ปึก ร่างบางกระแทกกับผนังห้องสักห้องที่เธอถูกลากเข้ามา “ทำอะไรเนี่ย” ณิชาร้องถามเสียงดังกว่าปกติ ดวงตากลมมองใบหน้าภีมะที่ตอนนี้เปลี่ยนไปน่ากลัวมาก ไม่เข้ากับใบหน้าสวยงามของเขาเลย

“ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอว่า มีสมองหรือเปล่า” เสียงข่มความโกรธอย่างอดทน “ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง...นี่เธอไม่รู้ใช่มั้ยว่าได้แสดงความงี่เง่าออกไป”

“นี่! ทำไมต้องว่ากันถึงขนาดนี้”

“ว่า!…ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันแค่ว่า ผู้หญิงดีที่ไหนเขาทำกัน ณิชาเธอลืมสถานะตัวเองไปแล้วยังงั้นเหรอ เธอกำลังจะแต่งงานกับฉัน แล้วเมื่อกี้คืออะไรไปทำกระดี๊กระด๊าให้กับผู้ชายอีกคนต่อหน้าผู้คนมากมาย” !! ณิชา นิ่งไปเลย จริงด้วยเมื่อกี้เธอดีใจจนลืมคำนึงถึงเรื่องนี้ ก็ใครจะไปทันคิดล่ะ เธอพึ่งจะอายุสิบแปดมามาดๆ เองนะ คนรักหรือแฟนเธอไม่เคยมีมาก่อน พี่เหนือเป็นรักแรกของเธอนี่น่า

“ขอโทษ” !!! เสียงอ่อยๆ คราวนี้ทำให้ภีมะอึ้งไป ตอนแรกเขาคิดว่า ณิชาต้องดื้อดึงเถียงหัวชนฝา แต่เรื่องกลับตาลปัตร

“ถ้างั้น...ต่อไปก็อย่าทำแบบนี้อีก”

“ได้ ฉันจะเก็บความรู้สึกไว้ในใจและไม่ใกล้ชิดกับพี่เหนือให้ใครเห็นเป็นอันขาด”

!!!! ภีมะแทบสำลักลมหายใจตัวเอง สองมือกำแน่นอย่างอดทน ฮึ! และเดินจากไปทันที ทิ้งณิชาที่ไม่เข้าใจอะไรไว้เพียงลำพัง

ณิชาไม่แคร์และใส่ใจท่าทางของภีมะสักนิด เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องที่เธอพึ่งรู้สึกว่ามันคือห้องหนังสือ เธอก็ไม่เห็นภีมะแล้ว เมื่อลองสอบถามคนในบ้านพวกเขาบอกว่าคุณชายออกไปข้างนอกแล้ว

“ห้องของคุณณิชา ถ้าคุณอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็สั่งมาได้เลยค่ะ”

“ทำๆไปเถอะค่ะ อะไรก็ได้” เธอไม่ได้อยากได้ห้องสักหน่อย แต่เธออยากรู้ว่าห้องของพี่เหนืออยู่ไหน แต่ก็นั้นแหละเธอไม่กล้าเอ่ยถาม เอาเถอะยังไงเธอก็รู้อยู่ดีในไม่ช้า

“พี่เหนือจะเป็นยังไงบ้างนะ” ณิชาเปรยกับตัวเองเบา สำหรับเธอแล้วในตอนนี้มีเพียงพ่อกับเหนือสมุทรเท่านั้นที่เธอจะเชื่อใจได้

ณิชามองบ้านของตนอย่างแปลกใจ เมื่อเธอกลับมาพบกับคนมากมาย “กลับมาแล้วเหรอ”

“คนพวกนี้?”

“คุณชายส่งมา ให้มาช่วยหนูเก็บของ”

“ของ! อะไรเหรอคะ”

“ณิชา หนูต้องย้ายไปอยู่ที่โน้นสักระยะหนึ่ง มันเป็นธรรมเนียม” ณรงค์บอกบุตรสาว ไม่แปลกที่ณิชาจะไม่รู้เรื่องเพราะสำหรับเขาลูกสาววัยสิบแปดย่างสิบเก้ายังเด็กเกินไปที่จะออกเรือน

“หนูไปๆมาๆได้มั้ยคะ”

“หนูรู้ใช่มั้ยว่าหนูจะหย่ากับคุณชายไม่ได้”

“รู้ค่ะ คนอารมณ์แบบเขาอายุสั้นจะตายไป”

“ณิชา!!!” ณรงค์เสียงเข้มปรามบุตรสาวของตนทันที เพราะในบ้านตนตอนนี้ไม่ได้มีแค่เขาพ่อลูกเท่านั้น

ณิชาได้แต่นิ่ง เธอจะบอกพ่อได้ยังไงว่าการแต่งงานเพียงแต่ในนามเป็นทางออกทางเดียวที่เธอจะไม่ต้องตายในทันที เธอก็ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ กับ พี่เหนือที่แสนดีของเธอสักช่วงหนึ่ง ชีวิตเธอมันจบลงแล้ว แต่เธอรักพ่อ ไม่อยากให้พ่อต้องเดือดร้อน ความหวังครั้งสุดท้ายของชีวิตคือพ่อและพี่เหนือปลอดภัย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel