บท
ตั้งค่า

6. พร้อมหน้าพร้อมตา

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด อื้มมมม ภีมะบิดขี้เกียจ เมื่อถูกรบกวนจากเสียงเรียกของโทรศัพท์ “มีอะไร”

“เกิดอุบัติเหตุที่เกาะครับ”

“ใครเป็นอะไร?” น้ำเสียงเปลี่ยนไปทันที

“คุณเหนือสมุทรครับ” รัสรีบแจ้งทันที “ตอนนี้ ฮอร์ฯ รอคำสั่งของคุณภีมครับ”

“ตรวจสอบดีแล้วเหรอ”

“ครับ กฤษคือคนของเราครับ” ภีมะนิ่งไป

“ได้ เอาออกมาทั้งสองคน”

“พี่เหนือจะปลอดภัยใช่มั้ยคะ”

“เขาต้องผ่าตัดด่วน” ฮือ ฮือ เสียงร่ำไห้ของณิชาดังก้องกังวาล พวกเธอทำได้เพียงรอ รอความเมตตาเท่านั้น

“มาแล้ว!!!” เสียงตื่นเต้นของกฤษดังแทรกความโศกเศร้า ณิชาหยุดเงียบฟัง จริงด้วยนี่มันเสียงเครื่องยนตร์ของเฮลิคอปเตอร์ ณิชายิ้มทั้งน้ำตา

“พี่เหนือ ได้ยินมั้ย...พี่จะปลอดภัย

ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าที่วิ่งตามรถเข็น กึกก้องในหูของเหนือสมุทร เสียงเรียกหาเขาดังไม่ขาด

“พวกคุณเข้าไปไม่ได้ค่ะ” พยาบาลห้ามณิชาไว้ ณิชาเข้าใจถอยออกมาทันที ควับ! ประตูห้องผ่าตัดปิดลง ด้านนอกเหลือเพียงเธอและกฤษ

“คุณณิชา คุณต้องไปแล้ว รีบเถอะครับ” ณิชามองกฤษอย่างไม่เข้าใจ “ผม ผมเป็นคนของคุณชายภีมะ สิ่งเดียวที่ผมจะไถ่โทษให้กับคุณได้คือ คุณต้องรีบไปจากที่นี่ครับ ก่อนที่...”

“เลี้ยงไม่เชื่อง!...” ก่อนที่กฤษจะพูดจบ เสียงของบุคคลที่สามก็ดังขึ้น ณิชาหันหลังทันที เธอยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวนัก แต่คนตรงหน้าเขาคือใครกัน เขา...

ทุกอย่างรอบตัวเธอเงียบสงัด แม้แต่เสียงลมหายใจเธอก็ยังไม่ได้ยิน ทำไมถึงมีแต่เขากับเธอ ภาพลักษณ์ภายนอกของเขาช่างน่ามองและน่าหลงใหล แต่แววตาของเขามันช่าง...

“คุณชาย” กฤษโน้มตัวลงทันที และเสียงนี้ทำให้ภวังค์ของณิชาหายไป ที่แท้เขาคือผู้ชายที่เธอเกลียดมาตลอดปีกว่า

“พาเธอไปที่รถ” ภีมะสั่งการออกไป

นี่!!! เสียงร้องของณิชาดังทันทีที่รัสเดินเข้าไปยืนตรงหน้า ท่าทางเขาคุกคามไร้ซึ่งมิตรภาพที่ดี

“เชิญคุณไปกับผมครับ”

“ถอยไปนะ ฉันไม่ไป” ภีมะขยับทันที ทุกย่างก้าวของเขาไม่มีลังเล มุ่งตรงมาที่เธอ

“เหนือสมุทรสำคัญต่อเธอมั้ย” เสียงของเขาเป็นแบบนี้เองเหรอ เยือกเย็นไร้ความรู้สึก

“หมายความว่าไง”

“เขาต้องผ่าตัดไม่ใช่เหรอ...ถ้าไม่ได้รับคำยินยอมจากฉัน ทุกอย่างที่อุตส่าห์พยายามกันมาก็จะสูญเปล่า” !! ณิชาเบิกตากว้าง คำพูดของเขาได้ยินเพียงเธอเท่านั้น

“อย่าดื้อ...ไปรอที่รถ” คราวนี้เสียงของเขาดังขึ้นกว่าเดิม ทุกคนที่อยู่ที่นั่นได้ยินทุกคน ณิชาไม่มีทางเลือกทำเพียงเดินไปตามทิศทางที่รัสนำไป

พรึ่บ พรึ่บ นี่ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วที่เธอต้องรอเขาอยู่ในรถ แม้เธอจะเป็นห่วงเหนือสมุทร แต่เขาบอกกับเธอแล้วว่าเขาจะไม่เป็นอะไร แต่นี่นานขนาดนี้มันผิดปกติมากๆ

“นี่! เปิดประตูนะ” ตุบ ตุบ ณิชาเปิดประตูรถไม่ได้เลย แน่นอนว่ามันถูกล็อคจากฝั่งคนขับ ผู้ชายคนนั้นยังมีชีวิตอยู่มั้ยนะ เขานั่งนิ่งมาตั้งแต่ยี่สิบนาทีก่อนแล้ว

ณิชามองดวงตาที่สะท้อนอยู่ในกระจกส่องมองหลัง เขา!!! นี่เขากลับมาตั้งนานแล้ว แต่นั่งบื้อแกล้งเธอชัดๆ “นี่! เปิดประตูนะ”

“ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วย...ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่ต้องทำตามที่ฉันสั่ง”

“คุณมันสารเลว” โอ้ย!! บรื้นนนน เสียงเครื่องยนตร์ดังกระหึ่มก่อนที่รถจะออกตัวไปอย่างรวดเร็ว “นี่จะบ้าเหรอ อยากตายเหรอไง” ณิชาตกใจกับความเร็วของรถ เธอแทบจะมองสองฟากข้างไม่เห็น

“ความตายของฉัน...มันไม่ง่ายขนาดนั้นแน่” เอี๊ยดดดด การเบรกกระทันหันทำให้ตัวณิชากระแทกกับด้านหลังเบาะหน้าอย่างแรง โอ้ย! ณิชาสลบไปทันที มันไม่ใช่เพราะแรงกระแทกแน่ๆ แต่ความเครียดที่ถึงขีดสุดของเธอทำให้ร่างกายเธอเกินรับได้

กุก กัก เสียงรอบข้างรบกวนการหลับของณิชาในที่สุด ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดขึ้น แสงสว่างลอดเข้ามาจากหน้าต่างที่ถูกเปิดม่านไว้

“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณชาย” ณิชามองตามฝีเท้าของหญิงสาวเจ้าของเสียงที่เดินออกไป อื้ม ณิชาค่อยๆลุกขึ้น เขายืนอยู่ที่หน้าต่าง แผ่นหลังเขาตระหง่านตั้งตรง

“การผ่าตัดประสบความสำเร็จ...ยินดีด้วย” ณิชาเผยรอยยิ้มออกมาในทันที “มีความสุขสินะ” ณิชาไม่ตอบแต่พยายามจะลงจากเตียง เธอเดินไปที่ประตูทางออกจากห้อง

! เธอไม่มีรหัส ประตูเปิดไม่ออก “อยากไปเหรอ” เขาหันกลับมามองเธอ “คิดเหรอว่าจะได้ทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ”

“พี่เหนือบอกว่า กฎหมายเอาผิดคุณไม่ได้”

“ก็ดีที่รู้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เธอต้องรู้” ภีมะมองไปที่โต๊ะเล็กข้างเตียง มีแฟ้มเอกสารวางไว้ ณิชาเดินมาหยิบและเปิดอ่านตามสายตาคำสั่งของเขาซึ่งเธอยินดีกับคำสั่งนี้ ดวงตากลมเบิกกว้าง มันคือพินัยกรรม

“ทรัพย์สมบัติของฉันไม่น้อยเลยนะ”

“ใครเขาอยากได้กัน”

“ไม่อยากได้ก็ได้อยู่ดี” เสียงภีมะเปลี่ยนไป ไร้ซึ่งความเย้ยหยัน “ที่รัก” ณิชามองเขา สาเหตุเพราะเรื่องนี้เองเหรอที่เขาลักพาตัวเธอไปปล่อยเกาะ “ระหว่างทรัพย์สินของฉัน กับชีวิตที่ไร้ประโยชน์ของเธอ อะไรคือสิ่งที่ฉันควรสละ”

“นี่คุณต้องการให้ฉันฆ่าตัวตายอย่างงั้นเหรอ” ภีมะมอบรอยยิ้มเยือกเย็นให้กับเธอ

“คิดว่าทำได้มั้ยละ...ไม่ต้องรีบร้อน เธอยังมีเวลาหาวิธี ออ ฉันจะต้องไม่แปดเปื้อนด้วยนะ เพราะไม่งั้นพี่เหนือที่รักของเธอ...ฉันไม่ต้องพูดออกมาหรอกนะ”

“คุณ!”

“อย่าพึ่งเกลียดฉันเท่านี้ เธอต้องรู้บางอย่างเพื่อเกลียดฉันได้มากกว่านี้อีก...”

“อะไรอีกล่ะ” ความอดทนของเธอเริ่มจะไม่เหลือแล้ว เธอเจอเขาไม่กี่ชั่วโมงเองนะ เขาคือคนที่เธอเกลียดอย่างไม่ต้องสงสัย “หนึ่งสัปดาห์นับจากนี้ เธอเลือกเอาว่าจะไปที่ไหน ระหว่างโรงพยาบาลหรือที่บ้านกับพ่อผู้เป็นที่รัก...ก่อนตาย”

!!!

“พ่อ พ่อค่ะ...” เพล้ง! พู่กันในมือล่วงหล่นลงพื้น ณรงค์ผลุบลุกขึ้น เสียงครั้งแรกเขาอาจหูแว่ว แต่นี่หลายครั้งหลายคราว

“ณิชา ลูกพ่อ”

“พ่อ!” สองพ่อลูกโผเข้ากอดกัน “ณิชา พ่อขอโทษ” ณรงค์กอดบุตรสาวไว้แน่น ในที่สุดเขาก็ได้ลูกเขาคืนมาอย่างปลอดภัย

“พ่อค่ะ หนูคิดถึงพ่อค่ะ”

“ณิชาจริงๆด้วย ลูกผอมไปนะ ลูกพ่อปลอดภัย” ฮือ ฮือ ฮือออออ แม้ไม่เคยคิดว่าจะไม่ได้เจอ แต่ช่วงเวลาปีกว่าที่จากกันในทุกๆวันมันช่างทรมาน

“ณิชาพ่อขอโทษ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะพ่อ”

“มันเรื่องอะไรกันแน่คะ พินัยกรรมพวกนั้น มันจริงเหรอคะ” ณรงค์พยักหน้า แต่มีบางเรื่องที่ณิชายังไม่รู้

“พ่อ หนูไม่แต่งงานกับเขา เรามีทางยกเลิกมันได้มั้ยคะ เราไม่เอาสมบัติของเขา” เธอไม่อยากตายเสียหน่อย สมบัติอะไรก็ไม่มีคุณค่ามากไปกว่าชีวิตแน่นอน

“พวกเขามีเงินและอำนาจมากกว่าเรา เราไม่ใช่ผู้กำหนด” เธอไม่เข้าสักนิดถ้าเธอตายไป เขาก็ต้องเสียทรัพย์ยี่สิบเปอร์เซ็นต์อยู่ดี “ณิชา พ่อจะช่วยให้ลูกหนี ไปจากประเทศนี้” !! เมื่อเธอเลือกที่จะกลับบ้าน ก็เชื่อฟังพ่อของเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเขารู้ล่วงหน้า

“คุณณิชากลับถึงบ้านแล้วครับ” อืม ภีมะขานรับสั้นๆ รัสยังยืนรอ ก็ต้องมีคำสั่งต่อสิ...

“พี่มีอะไรอีกอย่างงั้นเหรอครับ”

เอ่อ “แค่นี้เหรอครับ คุณภีม”

“ผมรู้ว่าพี่คิดอะไรอยู่ ณิชาไม่หนีไปไหนหรอกครับ”

“อะไรทำให้คุณภีมมั่นใจครับ”

“ผมไม่ได้มั่นใจอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะอยู่หรือจะไป ก็ไม่มีผลอะไรกับผมทั้งนั้น”

“ผมไม่เข้าใจจนถึงวันนี้ คุณภีมไม่ใช่.../...หยุด” รัสไม่สามารถพูดตามที่คิดออกมาได้

“ผมอยากอยู่คนเดียว” ภายในห้องเงียบตามใจปราถนาของภีมะ “พ่อคงดีใจใช่มั้ยครับ ตอนนี้ลูกรักของพ่อได้กลับมาแล้ว” ภีมะเอ่ยกับรูปภาพของคนที่ได้ชื่อว่าพ่อคนหนึ่งของเขา

‘พี่ชายลูกเขามองไม่เห็น พ่อต้องดูแลพี่เขา’ ก็แค่คำพูดหนึ่งประโยคในหลายๆประโยคตลอดช่วงหนึ่งของชีวิตเขา เวลาหลังจากการทำงานพ่อให้กับเหนือสมุทรคนเดียว ส่วนเขานอกจากตำราและโรงเรียนแล้ว เขาก็เจอแต่บ้านกับพี่เลี้ยง และคนใจร้ายคนนั้น... “ณิชา เธอเลือกเกิดไม่ได้ ฉันเข้าใจ แต่เธอสามารถรับกรรมแทนกันได้...ฉันหวังว่าเธอจะเป็นที่รักของพี่ชายฉันอีกคนด้วยนะ”

“ทำไมยังไม่นอน”

“พ่อ นี่ไม่ใช่ความฝันใช่มั้ยคะ” ณรงค์ยิ้มให้บุตรสาว ณิชาโตขึ้นมาก มากจนเขาเป็นกังวล

“ที่เกาะนั่นเป็นไงบ้าง”

“มีพี่เหนือค่ะ เขาดีกับหนูมากค่ะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาเป็นไงบ้าง”

“คุณเหนือสมุทรเหรอ”

“พ่อรู้จักพี่เหนือด้วยเหรอคะ”

“แค่เคยเห็นสองสามครั้งเมื่อตอนที่พวกเขายังเด็ก”

“พ่อค่ะ นายภีมะนั่น เขา...เขาโกรธแค้นอะไรพวกเราหรือเปล่าคะ” คำถามนี้สร้างความเงียบขึ้นมาทันที “พ่อบอกหนูได้มั้ยคะ”

“หนูเจอกับเขาแล้ว...แล้วเขา”

“เขาไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ มีแต่คำพูดส่อเสียดแปลกๆ ทุกครั้งที่เขาสามารถทำให้หนูเจ็บปวดจากคำพูดของเขา เขาจะมีความสุขกับมันค่ะ”

“พ่อไม่ได้เคยเจอแค่คุณเหนือสมุทรในวัยเด็กเท่านั้น สำหรับคุณภีมะ ระหว่างพวกเรามีเรื่องราวมากกว่านั้น...แต่พ่อไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร พ่อเองก็ไม่แน่ใจว่าหนูจะได้รู้เรื่องนี้หรือไม่ ทุกอย่างขึ้นกับบุญวาสนาเท่านั้น”

“หนูไม่เข้าใจเลยสักนิด พ่อค่ะ...เขาเกลียดพวกเรา เขาต้องการให้...” ณิชาหยุดคำพุดของตนไว้ เรื่องที่เขาต้องการให้เธอฆ่าตัวตายเธอบอกใครไม่ได้โดยเฉพาะพ่อ “พ่อเราออกจากประเทศนี้ได้จริงๆเหรอคะ”

“ไม่ง่ายหรอก แต่พ่อคิดว่าพ่อหาหนทางได้ แต่เมื่อเราไปแล้ว เราจะไม่กลับมาที่นี่อีก” ณิชานิ่งไปทันที ถ้าเธอหนีไป เธอก็ไม่มีโอกาสได้เจอกับ พี่เหนืออีกแล้ว แต่ถ้าเธอสู้ เธอจะสู้กับคนที่มีพร้อมทุกอย่างด้วยมือเปล่าอย่างงั้นเหรอ ผลแพ้ชนะมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

“พ่อหนูไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนแบบนั้น”

“เราต้องหนีเท่านั้น”

“แต่ถ้าเราหนีไป เราก็จะสูญเสียทุกอย่าง เขาก็จะได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ...พ่อหนู...หนู” เธออยากจะบอกพ่อว่า เธอชอบพี่เหนือเสียแล้ว

“ถ้าลูกพ่อจะอยู่ที่นี่ ลูกต้องแต่งงานกับเขาเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าลูกจะต้องตกนรกทั้งเป็น”

“หนูไม่อยากแต่ง และเขาก็ไม่อยากแต่งกับหนูด้วย เขาและหนูน่าจะเหมือนกันแค่เรื่องนี้เท่านั้น...พ่อหนูเกลียดเขา เกลียดประเทศนี้ หนูเกลียดกฎหมายบ้าๆของที่นี่...รังแกคนไม่มีทางสู้ชัดๆ” ณรงค์มองบุตรสาวที่ตนรักยิ่งกว่าชีวิต ขอโทษนะลูกรัก

“ไม่นะ!” เสียงโวกเวกโวยวายข้างล่างทำให้ณิชาตื่นขึ้นมา เช้านี้เธอตื่นสายเพราะเมื่อคืนเธอนอนแทบไม่หลับเลย

“พ่อเกิดอะไรขึ้นคะ” ณิชาเดินลงมาทั้งชุดนอน ผมเผ้ายุ่งเหยิง

“ณิชา อย่าลงมา” คำเตือนของพ่อไม่ทันการเสียแล้ว

“คุณณิชา” ณิชามองรัส เธอจำผู้ชายคนนี้ได้

“คุณมาทำไม”

“คุณชายรออยู่ครับ”

“ฉันไม่ไปไหนกับพวกคุณทั้งนั้น”

“แน่ใจเหรอครับว่าคุณต้องการแบบนี้”

“ใช่! ไปให้พ้น” ณิชาขับไล่รัสอย่างไม่เกรงกลัว ซึ่งเธอก็ไม่กลัวพวกเขาจริงๆ

“แล้วคุณจะเสียใจครับ” รัสทิ้งท้ายก่อนเดินออกไป

“รู้แล้ว...เรียกคนของเรามาล้อมบ้านหลังนี้ไว้ ซื้อที่ดินละแวกนี้ทั้งหมด”

“ครับ” คำสั่งถูกจัดการอย่างรวดเร็ว ณิชายืนมองคนมากมายที่มายืนล้อมบ้านของเธอ ดวงตาคู่สวยทอดมองไปยังรถหรู เธอรู้ว่าเขาอยู่ในรถมองผลงานของตัวเอง

เวลาผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว พ่อเธอไม่อาจออกจากบ้านไปไหนได้เลย “ณิชาจะไปไหน”

“หนูจะออกไปข้างนอกค่ะ”

“แต่คนของเขาอยู่ด้านนอกเต็มไปหมดเลยนะลูก”

“พ่อ พวกเขากำลังรังแกพวกเราอยู่นะคะ...พ่ออย่าห่วงเลยค่ะ หนูแค่จะออกไปซื้อขนมเท่านั้น ยังไงหนูก็ยังมีสถานะว่าที่ภรรยาของเขาอยู่ คนของเขาไม่กล้าทำอะไรหนูหรอกค่ะ” ณรงค์มองบุตรสาวอย่างไม่อยกาเชื่อ ณิชา เข้มแข็งกว่าที่เขาคิดไว้

ภีมะมองร่างบางเดินออกมาจากบ้าน เธอไม่สนใจคนของเขาสักนิด “เก่งนิ” รัสเข้ามาถามว่าเขาจะเอายังไง ภีมะบอกให้ปล่อยณิชาไป แค่ตามไปดูห่างๆ

“คุณณิชาเดินไปซื้อขนมที่ซุปเปอร์หน้าปากซอยครับ” ภีมะได้ยินทุกอย่าง แต่เขาก็ยังนิ่ง “คุณชาย คุณเหนือสมุทรฟื้นแล้วครับ คุณหมออยากให้คุณชายไปพบครับ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันที

“ไป” รถหรูเคลื่อนตัวผ่านณิชาที่กำลังเดินกลับบ้านไป ดวงตาเข้มทอดมองร่างบางจากหน้าต่าง แม้เธอจะมองมาที่รถเขายามที่ขับผ่าน แต่เธอก็ไม่อาจมองทะลุกระจกที่ติดฟิลม์ดำหนาเข้ามาเห็นว่าเขากำลังจับจ้องมองเธออยู่

“การผ่าตัดไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ จนกระทั่งคุณเหนือสมุทรฟื้น ทาง

โรงพยาบาลต้องการทำซีทีสแกนสมองครับ”

“ทำไม”

“ตอนผ่าตัดเราไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่หลังจากที่คุณเหนือสมุทรฟื้น เราพบความผิดปกติบางอย่างครับ”

“แน่ใจเหรอว่าผิดปกติจริง”

“ทางเราจึงอยากตรวจให้แน่ใจก่อนครับ”

“ได้” ภีมะเซ็นเอกสารยินยอมการตรวจ

“อีกเรื่องที่หมอต้องรายงานครับ...คุณอาของคุณขอเข้าเยี่ยมคุณเหนือสมุทรครับ” ภีมะหลี่ตาทันที เขาไม่เจอกับคุณอาพิทักษ์นานมาก ข่าวช่างไปเร็วเสียจริง

“ไม่อนุญาต”

“ครับ” ภีมะจากไปโดยทันที เรื่องวุ่นๆกำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน ภีมะรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึงสักวัน

“คุณชาย แฟ้มรายงานขออนุมัติส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดครับ” รัสยื่นแฟ้มงานให้ทันทีที่ภีมะกลับเข้ามาในรถ วันนี้เขาไม่ได้เข้าออฟฟิศแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ทำงาน

“ทำไมคนตรวจสินค้าถึงไม่ใช่คนเดิม...เข้าโรงเก็บสินค้า ผมจะเข้าไปตรวจเอง” รัสรู้ดีว่าภีมะไม่วางใจใครง่ายๆ เขาเชื่อถือคนเก่าแก่ที่ทำงานกันมานาน การทุจริตเกิดขึ้นได้ทุกที่รวมถึงการแว้งกัด ถ้าเขาส่งออกสินค้าที่ไม่ได้มาตราฐานออกไป นั่นหมายถึงการถูกปิดฉากธุรกิจ

ภีมะเข้าไปตรวจสินค้าเองจริงๆ เหตุผลที่คนเดิมไม่ได้เซ็นเพราะได้รับบาดเจ็บและอยู่ในช่วงลาป่วย เมื่อทุกอย่างไม่ผิดปกติ ภีมะจึงลงลายมือชื่อ กว่าวันนี้เขาจะได้กลับไปพักผ่อนก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน งานด่วนที่เข้ามา ทำให้เขาลืมเลือนณิชาไปชั่วขณะหนึ่ง งานทำให้สมองเขาได้พักผ่อนคลายความตึงเครียดลงได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel