10. ความทรงจำ
เหนือสมุทรลอบมองภีมะและณิชาที่เดินลงบันไดตามหลังกันไป “ดึกแล้วต้องพักแล้วนะคะ”
“ทำไมภีมะถึงต้องให้ปิดบังเรื่องการมองเห็นแล้วของฉัน”
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าคุณยังไม่กลับไปพัก เรื่องที่ปิดบังไว้ยังไม่ทันได้เปิดเผยคุณก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกนะคะ”
“ทำไมฉันถึงรู้สึกคุ้นเคยกับณิชา”
“ก็เธอเป็นน้องสะใภ้ของคุณไงคะ” ลัดลดาตอบกลับอย่างขอไปที แม้ตอนนี้เหนือสมุทรจะสมบูรณ์แบบแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าระหว่างเธอกับเขายังต้องมีความรู้สึกที่ดีและผูกพันกันมากกว่านี้ ไม่ใช่หวานซึ้งเฉพาะต่อหน้าผู้คนเท่านั้น
เหนือสมุทรไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ แต่เรื่องดวงตาของเขาถูกของเธอ คือเขาต้องพักผ่อน และใช้ดวงตาให้น้อย ทั้งๆที่เขาต้องการเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย แต่เขากลับได้เรียนรู้เพียงไม่กี่เรื่องตามที่น้องชายสั่งไว้ น้องชายที่เป็นผู้นำของตระกูลนรารัตน์
“ไหนว่าดึกแล้ว ทำไมถึงมีอาหารเต็มโต๊ะขนาดนี้”
“กินเข้าไป และกินเงียบๆด้วย” ณิชามองบนอย่างเหลืออด เขานั่งที่เดิมรวมถึงเธอดด้วย แต่ฝั่งตรงข้ามกลับว่างเปล่า ณิชาก้มหน้ากินพยายามที่จะไม่มองฝั่งตรงข้าม แต่...เธอกินอะไรไม่ลงเมื่อคิดถึงเรื่องของคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“เป็นอะไรไปอีกละ”
“เป็นอะไรคุณยังมีหน้ามาถาม ฉันกำลังเสียใจคุณดูไม่ออกหรือไง”
“เหนือสมุทรมีอะไรดีนอกจากตาที่มองไม่เห็น” ณิชาไม่พอใจเพิ่มขึ้น
“อธิบายให้คนหัวใจหยาบกระด้างฟัง พูดจนลิงหลับก็ไม่มีทางให้พบเจอแสงสว่างได้หรอก”
“เหรอ...ไหนลองพูดมาสิ ฉันก็อยากจะรู้”
“ตกลงให้พูดเหรอ เมื่อกี้ยังบอกให้กินเงียบๆ”
“ฉันจะกินเงียบๆ เพราะเธอไม่ได้อยากกินไม่ใช่เหรอ” ภีมะเลิกคิ้ว
“ทำไมถึงอยากรู้ ทั้งๆที่เรื่องที่เกิดขึ้นก็เพราะคุณ”
เฮ้ยยย ภีมะถอนใจอย่างเบื่อหน่าย “ไม่ต้องเล่าล่ะ ฉันคร้านจะอยากรู้แล้ว”
“ฉันก็ไม่อยากพูด...เปลืองน้ำลาย คนหยาบช้า” พรึ่บ! ณิชาลุกจากเก้าอี้อีกครั้ง ทุกครั้งที่พุดคุยกันเธอกับเขาไร้ซึ่งอนาคตจริงๆ
“เดี๋ยวฉันตามไป” ภีมะตะโกนตามหลัง กึก! ณิชาหยุดเท้าทันที
“ตามไปไหน”
“คืนนี้เราจะเข้าหอกัน”
กรี๊ดดดด ณิชากรีดร้องเสียงดังลั่น “ไม่...ไม่มีทาง”
“เพราะอะไร” เสียงของภีมะกลับเยือกเย็นเรียบนิ่ง “ณิชา...เธอลืมสถานะของตัวเองไปแล้วเหรอ เธอเป็นใครและฉันเป็นใคร”
“คนเก่งอย่างคุณนอกจากขู่เด็กผู้หญิงอย่างฉันแล้ว...” ณิชาหุบปากทันที เมื่อเห็นแววตาของภีมะเปลี่ยนไป “อยากหย่าแล้วใช่มั้ยละ”
“แค่เอกสารเท่านั้นที่ผูกมัดเราสองคน แต่เอกสารพวกนั้นมันผูกมัดทรัพย์สมบัติของฉันไว้ ตาย! เธอถึงจะหลุดพ้นจำได้มั้ย”
“นี่เกินไปแล้วนะ!”
“ไม่กินก็ไปนอน” ภีมะก้มหน้ากินต่อไม่สนใจณิชาอีกต่อไป ภีมะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อณิชาเดินหายลับไปแล้ว
“พี่รัส” คนที่ถูกเรียกเดินออกมาจากอีกมุม “มีอะไร”
“มีรายงานจากสายของเราครับ” รัสเข้าไปใกล้รายงานทุกสิ่งออกไป
“น่าสงสัยมาก”
“ตอนนี้คนของเราสืบอยู่ครับ” ภีมะพยักหน้ารับรู้
“พรุ่งนี้ผมจะพาณิชาไปวัดตัวตัดชุดสำหรับงานฉลอง”
“เอ่อ ไหนว่าจะให้ทางร้านส่งคนมาที่นี่ หรือว่าคุณชายจะ...ผมว่าไม่ดีนะครับ มันเสี่ยงเกินไป”
“พวกมันอยู่ในที่มืด เราอยู่ในที่แจ้ง ถึงเวลาแล้วที่เราต้องให้พวหมันพบทางสว่าง” รัสนิ่งเงียบไป แม้ไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่อาจโต้แย้ง อยู่กันมานานเขาย่อมรู้ดีว่าเวลาไหนควรเงียบเวลาไหนควรเสนอความคิดเห็น
“ตามนั้น” ภีมะลุกและเดินออกไปจากห้องอาหารทันทีโดยไม่ฟังเสียงทัดทานใดๆของรัส ‘มีคนกำลังเตรียมปูทางให้คุณเหนือสมุทร’ เขาต้องรู้ให้จงได้ว่าคือใคร
“พี่เหนือพี่เหนือ...” เสียงเรียกในฝันแต่ภาพที่เห็นช่างลางเลือน “เหนือ เหนือ” เหนือสมุทรตื่นขึ้นในกลางดึก
“ลัดลดา”
“คุณโอเคมั้ย ฝันร้ายหรือเปล่า” เหนือสมุทรพยักหน้า “คุณต้องการยามั้ย” คราวนี้เหนือสมุทรส่ายหน้า เขาพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ “งั้นฉันนอนต่อนะคะ” เหนือสมุทรพยักหน้าอีกครั้ง ลัดลดาล้มตัวลงนอนและเธอก็หลับไปในทันที เหลือแต่เขาที่ลืมตามองความมืดในห้อง
เสียงนั่นคือเสียงของใครกัน ที่แน่ๆไม่ใช่เสียงของลัดลดาแน่นอน “คุณเหนือสมุทร คุณมีภาวะสูญเสียความทรงจำ ต่อจากนี้คุณจะเกิดภาพและเสียงที่คุณจะสับสนว่ามันคือความฝันหรือความจริง ถ้าคุณทนไม่ไหวให้กลับมาหาหมอที่โรงพยาบาลในทันทีนะครับ” คำของหมอทางด้านสมองแจ้งเตือนเขาก่อนที่เขาจะถูกย้ายมาพักฟื้นที่บ้าน
เรื่องราวหลายปีที่ผ่านมาเขาจำแทบไม่ได้ เรื่องราวในวัยเด็กมันก็ขาดๆหายๆ แม้แต่น้องชายเขาก็ยังจำไม่ได้ สิ่งเดียวที่เขาจำได้คือความมืด เพราะเขาตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด ทุกอย่างจึงแปลกตาไป และเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาเห็นคือใบหน้าของลัดลดา เธอบอกว่าเธอคือคู่หมั้นของเขา แต่ทำไมสายใยที่เขามีต่อเธอมันช่างหละหลวมเสียเหลือเกิน แต่ทั้งเธอและเขาต้องเชื่อฟังน้องชายนั่นคือสิ่งที่เขาได้รับคำสั่งมา
“ณิชา” สองคำที่ถูกเปล่งออกมาก่อนที่ดวงตาจะปิดลงและเข้าสู่นิทรา
ซู่ซู่ซู่ เสียงน้ำจากห้องน้ำ ทำให้คนที่พึ่งก้าวเท้าเข้ามาทรุดนั่งลงที่โซฟาตัวยาวเปิดทีวีนั่งดูฆ่าเวลารอคนในห้องน้ำ
ณิชาที่ยังคงอยู่ใต้สายน้ำที่ไหลมาจากฝักบัว เมื่อคืนเธอนอนดึกมาก และเสียงนั่น เมื่อคืนเธอได้ยินเสียงพี่เหนือของเธอ เสียงที่เหมือนทะลุกำแพงเข้ามาได้อย่างง่ายดาย หรือว่าเธอจะคิดถึงเขามากเกินไป
กึก ณิชาปิดน้ำผ้าขนหนูผืนน้อยถูกดึงออกมาพันกายอย่างหลวมๆ ครืนนนน ประตูห้องน้ำถูกเลื่อนเปิด ดวงตาเหยี่ยวหันไปมองตามเสียง !!! และจู่ๆทุกอย่างก็หยุดรวมถึงเวลาด้วย ในห้องสีขาวสว่างตกอยู่ในภาวะความเงียบ ภีมะไม่อาจละสายตามาจากร่างนั้นได้
ผมสีน้ำตาลทองที่เปียกชื้น ไหล่เปลือยบางเบาสีขาวดั่งหยกเนียนละเอียด เรียวขาเล็กที่อยู่นอกเหนือปราการปิดกั้น กรึบ ภีมะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ลมหายใจเขาติดขัด
ณิชาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ผ้าขนหนูที่พันร่างกายก็ช่างเล็ก การก้าวขาของเธออาจจะเปิดเผยสิ่งหวงแหน สีผิวที่ขาวสว่างตอนนี้มันแดงลามไปทั้งตัว ใบหน้าเธอร้อนจนแทบจะระเบิด
อะแอ้ม เสียงไอของภีมะดังขึ้น เขาหันกลับไปทางหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ทันที “เดี๋ยว...เรา...ต้องออกไปข้างนอก” เสียงเอ่ยที่ไม่มีความหนักแน่นเลยสักนิด
“ไปไหน” ณิชาพยายามเค้นเสียงให้เป็นปกติ ทั้งๆที่เธออยากจะร้องให้ลั่น แต่เธอไม่อาจลืมได้ว่า เขาและเธอคือสามีภรรยาตามกฎหมายแล้ว
“วัดตัวตัดชุด”
“ก็ไหนว่าจะมาวัดที่นี่ไม่ใช่เหรอ...”
“ฉันเปลี่ยนใจ” ภีมะหันหลังพูดคุยกับณิชา เพราะเขารู้สึกได้ว่าณิชายังไม่ขยับ สาบานเลยตอนนั้นเขาไม่กล้าปฎิเสธตัวเองว่าเขาเห็นมากกว่าที่เห็นในตอนนี้ ตอนเธอเดินออกมาจากประตูห้องน้ำ ภาพทุกอย่างที่เขาเห็นเมื่อ สักครู่ มันส่งผลต่อร่างกายเขาอย่างมาก
“อ่อ ค่ะ ถ้างั้นคุณออกไปก่อนได้มั้ย” พรึ่บ! ภีมะลุกขึ้นทันทีและเดินไปยังประตูทางออกโดยไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ
ฮู่วววว ณิชาปล่อยลมปากออกมาอย่างโล่งอก เมื่อภีมะเดินออกไปแล้ว
กึกึกึ ทางด้านภีมะเขายังก้าวต่อไปไม่หยุด เขาจำไม่ได้ว่าเคยใจเต้นแรงแบบนี้หรือเปล่า ใบหน้าหวานบึ้งตึงตลอดเส้นทางที่เดินลงมาข้างล่าง เหล่าแม่บ้านในบ้านต่างก็ก้มหน้าลงทันทีที่เห็นนายเหนือหัวเดินผ่านด้วยใบหน้าแบบนั้น ภีมะไม่ใช่เจ้านายที่ีรังแกลูกน้อง เพียงแค่เขาเป็นพวกไม่เสวนากับคนที่ไม่สนิท บนโลกใบนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาคนที่เขาคุยด้วยมากที่สุดก็คือพี่รัสเท่านั้น
ภายในรถเบาะด้านหลังเงียบสงบ รัสที่อยู่หลังพวงมาลัยแอบลอบมองทางกระจกส่องหลัง ภีมะและณิชานั่งกันเงียบๆ และต่างก็หันไปมองทิวทัศน์ด้านนอกฝั่งกระจกของตน ลมหายใจของสองคนนี้ดูอึดอัดแปลกๆ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปแบบนี้จนรถมาจอดที่ประตูทางเข้าร้านหรู ณิชามองเห็นร้าน การตกแต่งช่าง...โอ้ววว เธอเคยผ่านร้านนี้ ตอนนั้นเธอคิดว่าชีวิตนี้เธอคงได้เชยชมจากด้านนอก เพราะแค่ราคาเส้นด้ายเพียงไม่กี่เส้นเท่ากับค่าดำรงชีพของครอบครัวเธอทั้งปีเลยก็ว่าได้
“เชิญ” ภีมะเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ณิชา แต่เมื่อเปิดนานแล้วเธอก็ยังไม่ก้าวลงมาสักที น้ำเสียงประชดประชันหนึ่งคำจำต้องเอ่ยขึ้นมา เพื่อกลบ-เกลื่อนความรู้สึกบางอย่างของตนไว้
ณิชาก้าวลงมาและเดินเคียงข้างกับเขาเข้าไปในร้าน ข้างนอกร้านยังเลิศหรูอลังการเพียงนั้น ข้างในไม่ต้องพูดเลยดั่งกับแดนสวรรค์
“ภีมะ” เสียงหญิงสาวที่ไม่ใช่ณิชา อ่อ ลัดลดานั่นเอง ภีมะแค่หันไป และมองเลยไปยังอีกคนที่นั่งอยู่นิ่งๆ ณิชามองตามเสียงเรียกและเธอก็เห็นเขาเช่นกัน ภายใต้กรอบแว่นตาดำ เธอไม่อาจมองเห็นได้ว่าเขามองมาทางเธอตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาในร้านพร้อมภีมะ
นี่เป็นการเห็นใบหน้าของณิชาครั้งแรก เมื่อวานที่โต๊ะอาหารเขาได้ยินแค่เสียงไม่กี่คำ และแผ่นหลังของเธอตอนที่เธอเดินลงบันได แต่วันนี้เขาได้เห็นใบหน้าของณิชา งดงามบริสุทธิ์ที่สุด แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงอะไรกับใบหน้าแบบนี้ เสียงของเธอต่างหาก “พี่เหนือ” ณิชาเปรยเรียกเขาเบามาก แต่เขาก็ได้ยิน
เหนือสมุทรโน้มหน้าลงเล็กน้อยเป็นการแสดงออกว่าเขาได้ยินเสียงเรียกของเธอ
“พวกเขาจะแต่งงานเช่นกัน หลังจากงานของพวกเราสองคน” !!! คำบอกกล่าวของภีมะ สร้างความสะเทือนใจให้กับณิชาอย่างมาก ตัวเธอสั่น ปากเธอสั่นเมื่อพยายามระงับความโศกเศร้า ภีมะกลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขอีกครั้งเมื่อเห็นอาการของณิชา
พึ่บ ภีมะโน้มตัวลงมาหาณิชา เขายื่นใบหน้าไปที่ใบหูเล็กๆของเธอและกระซิบว่า “ตอนนี้รู้สึกแล้วใช่มั้ยว่า เกาะสวาทหาดสวรรค์เหมาะกับพวกเธอสองคนมากกว่า...อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่รู้ทันแผนการณ์ของพวกเธอ”คราวนี้ณิชาดวงตาเบิกกว้างขึ้น เธอหันกลับไปเผชิญหน้ากับภีมะทันที !!! ลมหายใจเขาเป่ารดใบหน้าเธอ หน้าเธอและเขาห่างกันไม่ถึงนิ้ว
พรึ่บ! และทั้งสองก็ผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว ใบหน้าทั้งสองแดงก่ำ ลัดลดาและเหนือสมุทรได้แต่เงียบอย่างไม่เข้าใจท่าทางของภีมะและณิชา
ช่วงเวลาการวัดตัวและลือกแบบของณิชาช่างไร้ซึ่งความสุข ต่างกับลัดลดาที่ค่อยๆอธิบายรูปแบบชุดแต่งงานของเธอให้เหนือสมุทรฟังด้วย น้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่เผื่อแผ่มาถึงเธอ
ภีมะทำเพียงเงียบ รูปแบบของเขาแบบไหนก็ได้ แค่ให้เข้ากับแบบชุดแต่งงานที่ณิชาเลือกเท่านั้น
พึ่บ พึ่บ ณิชาแค่เปิดแคตตาล็อคหน้าแล้วหน้าเล่าอย่างเบื่อหน่าย เธออยากไปนั่งแทนที่ลัดลดาเหลือเกินข้างกายพี่เหนือของเธอ ที่ที่เธอเคยอยู่มาก่อน
“นี่!” ภีมะดึงสติของณิชา เพราะเธอออกนอกหน้าเกินไปแล้ว
