บทที่5
“คุณสินธุ์…” สินธุ์ไม่ได้สนใจต่อน้ำเสียงเกรี้ยวกราดนั่นเลยสักนิด ใครเข้าออกที่นี่เขาย่อมรู้หมด ยิ่งชิดชบามารดาของเธอเขายิ่งจำเป็นต้องรู้ เพราะอีกฝ่ายดูเหมือนจะหลงระเริงกับการที่ลูกสาวของตัวเองได้แต่งงานกับเขาเสียเต็มประดา ถลุงเงินสินสอดเป็นว่าเล่นจนตอนนี้แทบไม่มีสมบัติอะไรที่ย่าของเขามอบให้เหลือติดตัวเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว จะมีก็แต่ลูกสาวอย่างบราลี ที่ยังคอยทำหน้าที่สูบเลือดสูบเนื้อเขาอยู่เป็นประจำ
“ครั้งนี้เท่าไหร่ล่ะ สองหมื่น สามหมื่น หรือว่า…”
“หนึ่งแสนค่ะ” หญิงสาวกลั้นใจตอบไป เพราะรู้ว่าโกหกยังไงเขาก็คงคาดคั้นเอาความจริงจากเธอไปได้อยู่ดี สู้บอกความจริงคงจะดีที่สุด
และก็ไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ ที่จะได้เห็นสายตาเหยียดหยามจากอีกคนกลับมา
“มากกว่าทุกครั้งแบบนี้คืนนี้เธอคงต้องเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าบริการฉันถึงใจ อาจได้ครบแค่รอบเดียว” คนใจร้ายทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินหนีกันไป ทิ้งไว้แต่ภรรยาที่ยืนชอกช้ำให้กับโชคชะตาของตัวเองอยู่เพียงลำพัง
บราลีทำใจอยู่นานแต่สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของสามี เธอเคาะประตูเบาๆ สามครั้งก่อนจะเปิดมันเข้าไปเพราะคิดว่าเจ้าของห้องน่าจะรอการมาของเธออยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิดเพราะภาพแรกที่ได้เห็นคือภาพของสินธุ์ ที่กำลังนอนกระดิกขารอกันอยู่บนเตียง
“ถอดเสื้อผ้าแล้วมานี่! มาทำหน้าที่ของเธอเสียทีบารลี” หญิงสาวได้ยืนนิ่ง ทุกๆ สิ่งรอบกายดูเหมือนจะหนาวเย็นไปหมด ยิ่งคิดว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไรก็ยิ่งรู้สึกร้าวราน ไม่มีครั้งไหนที่จะไม่รู้สึกเกลียดตัวเองที่หมดสิ้นหนทางเลือก ต้องขายศักดิ์ศรีให้เขาเพื่อแลกกับเงินที่มารดาต้องการ
“ว่ายังไงบราลี…ไม่อยากได้แล้วเหรอเงิน ของชอบของครอบครัวเธอไม่ใช่รึไง ไม่มีอะไรในโลกได้มาฟรีๆ หรอก จริงไหม” คนได้ฟังทำได้เพียงกัดริมฝีปากจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวของเลือด หากแต่ความเจ็บภายในใจกลับมีมากกว่าหลายเท่านัก เธอรู้ว่าในสายตาของสินธุ์เธอมันก็แค่ตัวสูบเลือดสูบเนื้อของเขา รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองและมารดาทำมันลงไปนั้นมันเป็นเรื่องที่ผิด และเขาคงไม่มีวันอภัยให้กัน แต่เธอจำเป็นต้องทำ เพราะหากไม่ทำสุดท้ายแล้วกรรมทั้งหมดก็จะต้องตกไปอยู่ที่น้องสาวของเธอทันที ซึ่งเธอยอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ดาริกายังมีอนาคตอีกยาวไกล
“ฉันจะให้โอกาสเธอแค่นับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง…สอง...”
“ลียอมแล้วค่ะ! ลียอมแล้ว…” สุดท้ายความพ่ายแพ้ก็มาถึง บารลีค่อยๆ พาตัวเองไปหยุดใกล้ๆ ก่อนจะปลดกระดุดชุดนอนออกจากร่างกายอย่างช้าๆ แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกอายอยู่ดี ที่ต้องละทิ้งศักศรีดิ์ของตัวเอง ทำในสิ่งที่ยิ่งทำก็ยิ่งเจ็บปวด
มันคงจะดีกว่านี้หากการร่วมรักระหว่างเธอกับสามีไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง เพราะทุกครั้งที่ต้องบากหน้ารับเงินของเขาหลังเสร็จกิจ เธอก็แทบไม่ได้ต่างอะไรกับผู้หญิงขายตัวเลยสักนิด จะดีกว่าหญิงสาวที่ทำอาชีพนั้นหน่อยก็ตรงที่มีลูกค้าประจำแค่คนเดียว ซึ่งก็คือคนที่กำลังนอนกระดิกเท้ารอกันอยู่ คนที่พร้อมจ่ายไม่อั้นขอแค่ได้เห็นความทรมานของเธอ
“ลีอยากขอยืมเงินสักสองหมื่น” นั่นคือครั้งแรกหลังจากแต่งงานกันที่เธอต้องกัดฟันขอยืมเงินจากเขาเพื่อนำไปให้มารดาที่ติดการพนัน
“หึ! น้ำหน้าอย่างเธอจะเอาปัญญาที่ไหนมาคืนฉัน หรือว่าลืมไปแล้วว่าที่มีกินมีใช้อยู่ทุกวันมันมาจากเศษเงินของฉัน!” คำตอบที่ได้รับกลับมา เป็นยิ่งกว่าน้ำกรดที่ถูกสาดเข้าที่กลางใจนั้นทำให้เธอพูดไม่ออก
“เอาอย่างนี่สิบราลี…ลองมาขายตัวให้ฉันไหม ฉันให้รอบล่ะหมื่น” กระทั่งเมื่อคนใจร้ายยื่นข้อเสนอมาให้เพื่อแลกกับเงินที่เธอต้องการจากเขา
ซึ่งเธอจะตอบอะไรได้นอกจากตกลง!
