ม่านราคะ

23.0K · จบแล้ว
พฤศตะวัน /พันตะวัน /ศรสวาท
21
บท
3.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มินตรา ดาราสาวที่แสวงหาควาามสำเร็จสูงสุดในชีวิต เธอจะต้องทำทุกอย่างที่จะมีชื่อเสียง โด่งดังและมีชื่อเสียง แต่ทุกอย่างที่เธอทำนั้น ต้องแลกมากับเรือนร่างของเธอเอง

นิยายรักโรแมนติกเศรษฐีพระเอกเก่ง

ep1

งานแถลงข่าวภาพยนตร์ “ทิวาราตรี”

แสงแฟลซวูบวาบสาดส่องอยู่ที่ ‘จิด้า’ ซุปเปอร์สตาร์ตัวแม่ของวงการภาพยนตร์ ที่กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกับการลาวงการเพื่อไปมีครอบครัว หลังการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องล่าสุดปิดกล้องลงในวันนี้ แฟนคลับแห่แหนให้กำลังใจไปพร้อมๆ กับการเรียกร้องให้เธออย่าเพิ่งทิ้งวงการ ทว่า..ซุป’ตาร์ตัวแม่อย่างหล่อน ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

‘มินตรา’ ดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งถูกชักนำเข้าวงการมองดูการสัมภาษณ์อีกมุมหนึ่งด้วยความสนใจ เธอใฝ่ฝันอยากเป็นดาว เหมือนกับจิด้าที่เจิดจรัสอยู่ในวงการมานานนับ ๑๐ ปี แต่น่าเสียดายเมื่อก้าวแรกที่เธอเข้าวงการ ไอดอลของเธอก็อำลาวงการเสียแล้ว

หญิงสาวเฝ้ามองไอดอลของเธอให้สัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มประหลาด หลายครั้งที่หล่อนมองมายังเธอแล้วหยักยิ้มที่มุมปาก ทำให้มินตราอดสะดุ้งอยู่ในใจไม่ได้ ‘ชัชชล’ ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงเดินเข้ามายืนเคียงข้าง เมื่อมองตามสายตาของหญิงสาวไปก็หัวเราะเบาๆ จนเธอหันกลับมามอง

“พี่ชัช หัวเราะอะไรหรือคะ”

“หัวเราะเด็กน้อยเฝ้ามองดารา” เขาแกล้งยั่ว

“หือ...พี่ชัชเนี่ย ก็มินตื่นเต้นนี่คะ ที่จะได้ก้าวขึ้นมาแทนที่คุณจิด้า”

มินตราหันมาทุบที่อกเขาเบาๆ จนชัชชลต้องรวบมือเธอไว้ แล้วจ้องตาเธอด้วยความหมายอันลึกซึ้ง ซึ่งนั่นไม่ได้รอดพ้นไปจากสายตาของจิด้าเลย

มินตราเข้าวงการมายามาด้วยการประกวดดาวจรัสฟ้าหน้าใหม่ รูปร่างของเธอกะทัดรัดสมสัดส่วน ใบหน้าสวยหวาน แววตาเจิดจรัส และเมื่อทดลองบทการแสดง เธอก็สอบผ่านได้อย่างไม่มีที่ติ ทว่ารางวัลชนะเลิศกลับไม่ใช่ของเธอ ไม่ใช่เธอสวยไม่พอ แต่เพราะบางอย่างในวงการนี้เกินกว่าที่เธอจะคาดเดา

ชัชชล เป็นผู้กับกับภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ แล้วจู่ๆ ก็ได้เธอมาเล่นภาพยนตร์ของเขาทันที ทั้งที่ที่เธอตกรอบการประกวด จนทำให้ใครหลายคนต่างกังขา ผู้สร้างหลายคนเหยียดยิ้มและบอกเขา ว่าเขาควรจะปั้นนางเอก ไม่ใช่ดาราตัวประกอบ แต่ใครเล่าจะรู้ความจริง ว่ากว่ามินตราจะได้รับโอกาสนี้เธอต้องแลกกับอะไร

******

หลายเดือนก่อน

มินตราลงจากเวทีการประกวดดาวจรัสฟ้าด้วยความผิดหวัง ผู้เข้าร่วมประกวดต่างเข้าไปแสดงความยินดีกับผู้ชนะ มีเพียงมินตราที่หลบเลี่ยงออกไปหลังเวที ก่อนจะเจอเข้ากับวิศรุต ช่างภาพหนุ่มที่แอบยืนสูบบุหรี่อยู่อย่างเงียบๆ

“ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ตรงนี้” มินตราชะงัก เมื่อเห็นวิศรุตยืนอยู่

“อ้อ..คุณนั่นเอง จะรีบกลับหรือครับ”

“คุณ....รู้จักฉันหรือคะ”

“มินตรา สาวน้อยหน้าหวานจากเมืองพะเยา ทำไมผมจะจำไม่ได้”

“น่าแปลกนะคะที่คุณจำผู้หญิงตกรอบอย่างฉันได้”

“ผมเป็นช่างภาพครับ แล้วคุณก็โดดเด่นในสายตาผม”

มินตรายิ้มเศร้าๆ แล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆ วิศรุตอย่างไม่ถือตัว แม้ว่าเขากำลังจะสูบบุหรี่อยู่ก็ตาม

“สักตัวไม่ครับ” เขายื่นซองบุหรี่ให้

“ฉันไม่รังเกียจคนสูบบุหรี่ค่ะ แต่ว่าตัวเองไม่ได้สูบ”

วิศรุตพยักหน้ายิ้มๆ แล้วแอบมองหญิงสาวอย่างสนใจ

“อย่าเสียใจไปเลย โอกาสของคุณไม่ได้จบลงแค่ตกรอบเวทีนี้หรอกน่า”

“ถ้าอย่างนั้น...ฉันควรทำยังไงคะ”

มินตราหันมองชายหนุ่มอย่างมีความหวัง เขาเป็นช่างภาพ เขาอาจจะมีเส้นมีสายอะไรพอที่จะช่วยเธอได้

“วันนี้ผมมีนัดกับผู้กำกับหนุ่มคนหนึ่ง คุณสนใจจะไปกับผมไหม? ผมจะแนะนำให้คุณรู้จัก เขากำลังหาดาราหน้าใหม่อยู่พอดี”

วิศรุตเอ่ยปากชวนอย่างใจดี เขาเป็นหนุ่มอารมณ์ดี ผมหยักศกและยาวเคลียไหล่ถูกรวบไว้ด้านหลัง มองดูเป็นหนุ่มติสมีแววตาขี้เล่นแจ่มใส่ มินตรามองเขาอย่างชั่งใจ ก่อนจะรับปาก

“ฉันอยากเป็นดาราค่ะ มันเป็นความฝันของฉัน ถ้าคุณช่วยฉัน ฉันจะไม่ลืมคุณเลย”

วิศรุตหัวเราะเบาๆ ก่อนยื่นนามบัตรให้

“ไปหาผมที่คอนโดนี้ ผมจะพาคุณไปคุยกับผู้กำกับเพื่อนผม ตอนนี้ผู้ประกวดทยอยเดินทางกลับกันแล้วล่ะ คุณเองก็ควรจะเข้าไปร่ำลาคนภายในงานหน่อยนะ โดยเฉพาะกรรมการ”

ชายหนุ่มเตือนหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะดีดบุหรี่ลงพื้นแล้วขยี้ด้วยปลายเท้า

“ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”