บทที่ 1 ตอนที่ 4
มื้อค่ำเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขชื่นมื่น...ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตายกเว้นก็แต่ภาวนาที่ขอตัวเข้านอนก่อนโดยอ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อเอาตัวรอด หล่อนนั่งเจ่าอยู่บนเตียงกว้างของตัวเอง หยิบของขวัญของใช้ต่างๆ ที่เคยได้รับในวันสำคัญจากมือของอาไทม์ในวันวานมันยังถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีเสมอแม้ในวันนี้มันจะไม่ได้ถูกจดจำจากคนให้แล้วก็ตาม
ในอดีต...ทุกย่างก้าวในชีวิตของทัพไทจะต้องมีหล่อนเป็นส่วนหนึ่งด้วยเสมอ ทั้งเที่ยว กิน เล่น นอน แม้กระทั่งอาบน้ำก็อาบด้วยกันบ่อยๆ สมัยที่หล่อนยังเป็นเด็ก และค่อยๆ มาห่างกันในช่วงหลังตามความเหมาะสม กระนั้นก็ไม่ได้ห่างเหินจนเหมือนกลายเป็นคนอื่นอย่างเช่นในตอนนี้
ปาหนัน...ผู้หญิงคนนั้นมาพรากทุกความรู้สึกของเขาไปจากหล่อน
"แม้แต่จะมองหน้าเอย อาไทม์ยังไม่อยากมอง อาไทม์เกลียดเอยแล้วจริงๆ ใช่ไหม" น้ำตาไหลพรากในยามที่ตัดพ้ออยู่กับตัวเอง มีบ้างในช่วงบางเวลาที่หล่อนลืมหายความรู้สึกกดดันเช่นนี้ แต่พอได้ยิน ได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขาความเจ็บปวดมันก็ตอกย้ำเสียดแทงอยู่ร่ำไป
อาจฟังดูตลกสำหรับคนอื่นที่เด็กหญิงคนหนึ่งมีความผูกพันกับน้องชายบุญธรรมของพ่อถึงขั้นปักใจเลยเถิดไปในทางชู้สาว แต่สำหรับหล่อน...หล่อนรู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่ความรู้สึกฉาบฉวย
"เอยจะขอเก็บอาไทม์เอาไว้ในใจอย่างนี้ ตลอดไป...เอยสัญญาว่าจะไม่ทำให้ชีวิตครอบครัวของอาไทม์มีปัญหา ขอเพียงอาไทม์กลับมารักเอย ดีกับเอยเหมือนเดิมก็พอ แม้จะเป็นแค่ในฐานะ...หลาน ก็ได้..." ร่างเล็กยังพรรณนากับตัวเองในขณะที่ทิ้งตัวลงนอนโดยไม่คิดเช็ดซับน้ำตาที่มันรินไหลให้เหือดแห้ง
หล่อนอยากระบาย อยากให้น้ำตาช่วยชะล้างความปวดหนึบหม่นหมองในใจให้เจือจางลงไปบ้าง เผื่อจะได้มีลมหายใจอยู่ต่อไปเพื่อมองดูเขา แม้ทุกครั้งที่เฝ้ามองจะเป็นเหมือนเดินเข้าไปหาคมหอกคมดาบให้เข้ามาทิ่มแทงตัวเองหล่อนก็ยอม
เมื่อรักไปแล้ว ปักใจไปแล้ว...มันไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายใดหรอกว่า
ทำไมถึงงมงายขนาดนี้ เพราะอะไร...ถึงไม่ยอมรามือถอยห่างทั้งที่มันผิดทั้งศีลธรรมและจริยธรรมอันดีงาม...
