Ep.2

ที่นี่มีเพียงแสงสว่างในยามกลางวันเท่านั้นจริงๆ แต่ไม่มีดวงตะวันให้เห็นเลย

อากาศของที่นี่จึงหนาวมากในตอนกลางคืน ส่วนกลางวันจะเย็นฉ่ำ แต่จะเย็นยะเยือกจนเข้ากระดูกดำถ้าลมพัดมาแรงๆหรือมีพายุ

เงาดำมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง แล้วต้องรีบลุกขึ้นยืนก้มหน้าน้อมรับคำสั่ง

เกือบสามปีที่อยู่ที่นี่ เธอพอจะรู้ภาษาของที่นี่บ้างบางคำ เพราะพวกเขาจะพูดซ้ำๆ คำเดิม เพื่อสั่งให้เธอทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ และภาษาใบ้ที่เธอพยายามจะเข้าใจ เมื่อเจ้าของคฤหาสน์สีดำทมึนที่อยู่หลังถัดไปถามเธอ ซึ่งสองสามเดือน เขาจะเข้ามาถามไถ่เธอสักครั้ง

“เพียร่าห์”

เพียร์ร่าคือชื่อที่เขาตั้งให้เธอตั้งแต่วันแรกที่เธอตื่นขึ้นมา

“ตอนนี้ เธออายุเท่าไหร่แล้ว”

เธอไม่เข้าใจที่เขาถาม

ชายหนุ่มจึงชี้มาที่ตัวเขา แล้วเอามือมาทำภาษาใบ้ ประมาณว่าตัวเขาสามสิบปี แล้วเธอล่ะ

จันทร์เจ้าจึงยกมือบอกใบ้ บอกว่าเธอสิบแปดปีแล้ว อีกแค่หนึ่งเดือนก็จะสิบเก้าปีแล้ว

ดูเหมือนเขาจะเข้าใจที่เธอบอกแล้ว

“ตามข้ามา”

เธอเข้าใจ เพราะถูกป้าแก่ๆที่พักอยู่ในกระท่อมเดียวกันกับเธอสั่งให้เธอเดินตามประจำ

หญิงสาวเดินตามร่างสูงในชุดสีเทาไป

เขาพาเธอขึ้นควบม้าตัวเดียวกับเขา โดยมีเขานั่งประกบอยู่ด้านหลัง กอดร่างเธอเอาไว้

จันทร์เจ้าก้มมองมือข้างที่เขากอดเธอเอาไว้ แล้วจึงยกมือของตนเองทั้งสองข้างกอดทับแขนใหญ่อีกทีเพราะกลัวตกม้า

คนสนิทของเขาก็ควบม้าตามมาด้วย เขาชื่อคาทิอุส ได้ยินทุกคนเรียกเขาแบบนั้น

เจ้าสีหมอก คือม้าที่เธอตั้งชื่อให้มัน มันพาเธอกับเขาวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นเวลานานกว่าจะเดินทางถึงจุดหมาย

จนไปถึงหน้าถ้ำแห่งหนึ่ง เมื่อเปิดประตูถ้ำไป จึงพบกับหญิงชราคนหนึ่งท่าทางเหมือนพวกแม่หมด หมอผี หรือไม่ก็ร่างทรงอะไรสักอย่าง ผมขาวแซมเท่ายาวสยายเกือบถึงพื้นดิน

เมื่อนางมองมาที่เธอก็มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนจะมองไปที่ชายหนุ่ม

“เคลติอัส ท่านต้องการอะไร”

“ข้าต้องการรู้ภาษาของนาง”

แม่เฒ่าจ้องไปทางเด็กสาว จันทร์เจ้าไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคนคุยกันเรื่องอะไร แต่ก็รู้สึกหวั่นในใจมากเหมือนกัน

แต่นั่นก็ไม่น่ากลัวเท่ากับการอยู่ต่อหน้าเอร่า ก็ป้าแก่ๆคนนั้นแหละ ที่หาเรื่องทุบตีเธอดุด่าเธอแทบจะทุกวัน

“ตามข้ามา”

เคลติอัสดึงมือหญิงสาวเข้าไปภายในถ้ำอีกห้องหนึ่ง ภายในห้องมีบึงน้ำใสอยู่ภายใน นางชี้นิ้วไปที่นั่น

“ท่านต้องถอดอาภรณ์ออกให้หมด เด็กสาวนั่นก็เช่นกัน แล้วลงไปจุมพิตกันกลางสายน้ำ ให้ดำน้ำลงไปก่อนเพื่อให้ตัวเปียก จากนั้นให้โผล่พ้นน้ำแค่ทรวงอกของท่านขึ้นมาเท่านั้น แล้วข้าจะทำพิธี”

ฟังจบชายหนุ่มก็หันมามองหน้าหญิงสาวแล้วบอกให้เธอหลับตา แต่จันทร์เจ้าฟังไม่เข้าใจ จึงถูกชายหนุ่มเอาผ้ามาผูกปิดตาเธอเอาไว้

ตอนแรกหญิงสาวก็ดิ้น แต่เมื่อถูกเคลติอัสดึงมาจูบก็หยุดดื้อ เพราะกำลังช็อก จึงปล่อยให้เขาถอดชุดเธอออกอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ถูกเขาดึงลงไปในน้ำ

“อย่า ไม่ อื้อ” ร่างเล็กดิ้นรนในน้ำเมื่อถูกกดให้จมน้ำ แต่เพียงไม่ถึงสองวินาทีเขาก็พาเธอขึ้นมายืนเหนือน้ำ จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามากอดและจุมพิตใหม่อีกครั้ง

ปากอุ่นๆของเขาประกบจูบปากเธอเนิ่นนาน จนสาวน้อยที่อายุยังไม่ถึงสิบเก้าแทบจะเป็นลม และรู้สึกหนาวสั่นอย่างไม่เคยเป็นก่อน ทว่าเมื่อถูกเขาจูบอย่างอ่อนโยนราวกับจะปลอบขวัญ ความหนาวก็เริ่มจางไป

จันทร์เจ้ารู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นบางอย่าง กำลังหมุนวนอยู่รอบๆตัวเธอ นานสองนานกว่าที่ชายหนุ่มจะผละริมฝีปากออก และดึงเธอขึ้นจากบึง เขาสวมเสื้อผ้าให้ จากนั้นจึงเอาผ้าปิดตาออกให้ เขามองหน้าเธอนิ่ง ก่อนจะหันไปมองแม่เฒ่า

“เสร็จพิธีแล้ว ข้าขอตัวก่อน”

“ขอบคุณท่านมาก”

‘เอ๊ะ เธอเข้าใจที่พวกเขาสองคนคุยกันด้วย หรือว่าพิธีกรรมเมื่อครู่นี้จะเป็นการทำให้เธอสามารถฟังพาภาษาของพวกเขาเข้าใจ’

พอชายหนุ่มหันมา

“ฉันเข้าใจที่พวกคุณคุยกันด้วยค่ะ”