บทที่ 1 หักหลัง

ภายในรถยนต์หรูที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครอง ฟรานเชส การาซาอิด อายุ 30 ปี หนุ่มนักธุรกิจมาเฟียอภิมหาเศรษฐีพ่อค้าอาวุธสงครามลูกครึ่งอิตาลี-ตะวันออกกลาง มีทั้งโรงงานผลิตและจำหน่ายเองให้กับกองทัพและลักลอบขายให้กับผู้มีอิทธิพลที่ต้องการอาวุธของเขา ฟรานเชสมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลร่างกายบึกบึนแบบคนที่ออกกำลังกายประจำ ฟรานเชลเป็นผู้ชายเพลย์บอยไม่เคยขาดเรื่องผู้หญิงบนเตียง เหล่าหญิงสาวล้วนติดใจในลีลาอันร้อนแรงของเขา รถคันนี้สร้างขึ้นด้วยการออกแบบของฟรานเชสเอง ตลอดทั้งคันรถมีอาวุธซุกซ่อนสร้างด้วยเหล็กอย่างดีกำลังวิ่งอยู่บนท้องถนนด้วยความเร็วในยามค่ำคืนหลังจากเค้ากลับมาจากพบลุงของเค้าเพื่อพูดคุยถึงเรื่องธุรกิจ

“ทารีฟ... นายขับรถไปที่โรงพยาบาลด่วนเลย บ้าจริงญาติคนเดียวที่ฉันเหลืออยู่กล้าวางยาฉันหรือเนี่ย”

ชายหนุ่มกล่าวออกมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนกำลังเต็มทีหนังตาเริ่มปิดสะลืมสะลือ พร้อมกับเริ่มแน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก

“เจ้านายเป็นอะไรไปครับ เจ้านาย” ทารีฟผู้เป็นบอดี้การ์ดมือขวาชาวตะวันออกกลาง วันนี้เขาทำหน้าที่คนขับรถให้เจ้านาย เมื่อเหลือบสายตามองที่กระจกหลังเห็นอาการของเจ้านายหนุ่มไม่สู้ดีนัก จึงกล่าวถามและรีบทำตามคำสั่งเจ้านายทันที

ด้านหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ร่างของ

ฟรานเชสถูกเหล่านายและนางพยาบาลเข็นเตียงเข้าไปในห้องฉุกเฉิน พร้อมกับนายแพทย์ฝีมือดีที่สุดของโรงพยาบาลรีบตามเข้าไป ก่อนที่ประตูห้องฉุกเฉินนั้นจะถูกดึงปิดลง ทารีฟที่เป็นลูกน้องมือขวาของฟรานเชสได้แต่เดินไปเดินมาหน้าห้องด้วยความกังวล เพราะไม่คิดว่าญาติผู้ใหญ่ที่เหลือเพียงคนเดียวและมีฐานะลุงแท้ ๆ ของเจ้านายจะคิดวางยาให้กับหลานชายของตนเอง ทารีฟล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออกไปสั่งงานเหล่าบอดี้การ์ดของฟรานเชส ให้มาคุ้มครองที่โรงพยาบาลหน้าห้องฉุกเฉินหากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้มีกำลังที่มากพอพร้อมต่อสู้ ภายในห้องฉุกเฉินนางพยาบาลและนายแพทย์ทุกคนต่างช่วยชีวิตกันอย่างเต็มที่ ร่างกายของเขามีสายห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด แม้แต่เครื่องช่วยหายใจก็ยังต้องใช้การรักษาใช้เวลานานเกือบชั่วโมง สัญญาณหัวใจเต้นของฟรานเชสก็หยุดนิ่ง

“ติ้ด.......”

เหล่านางพยาบาลและนายแพทย์ถึงกับตกใจ รีบเข้าช่วยปั๊มหัวใจให้กับฟรานเชสเป็นการเร่งด่วน เพราะร่างกายของเขาไม่ขยับลมหายใจหยุดนิ่งไปนั้น ทำให้พวกเขาที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ถึงกับนึกกังวล เพราะฟรานเชสคือผู้บริจาครายใหญ่ให้กับโรงพยาบาลแห่งนี้ เจ้าของโรงพยาบาลเองยังนึกเกรงกลัวในอิทธิพลและอำนาจของฟรานเชสด้วยซ้ำ หากวันนี้ชายหนุ่มได้มาตายลงที่โรงพยาบาลและทุกคนไม่สามารถช่วยได้ ก็เกรงว่าโรงพยาบาลแห่งนี้จะถูกถล่มด้วยอาวุธสงครามหรือเปล่า การปั๊มหัวใจเกิดขึ้นนับหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตลมหายใจของชายหนุ่มกลับมาได้ นายแพทย์ได้แต่หน้าซีดแล้วเดินไปเปิดประตูห้องฉุกเฉินก่อนที่เขาจะรีบแจ้งผลให้กับทารีฟ ที่รีบวิ่งเข้ามาถามถึงอาการของเจ้านายหนุ่มกับหมอผู้รักษาด้วยความรีบร้อนด้วยเช่นกัน

“คุณหมอครับคุณฟรานเชสเป็นยังไงบ้างปลอดภัยหรือเปล่า”

“ขอโทษด้วยนะครับ ทางเราทำการล้างท้องและเช็คอาการของคุณฟรานเชสอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายาที่คุณฟรานเชสได้รับนั้นเป็นยาพิษที่รุนแรงไร้กลิ่นไร้สี ผมบอกตรง ๆ นะครับว่ายาชนิดนี้ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย น่าจะเป็นยาพิษที่มีแต่ในตลาดมืดเท่านั้น คุณฟรานเชสถือว่าดวงแข็งมากเช่นกันถึงได้อดทนนานนับชั่วโมงได้นานขนาดนี้ แต่สุดท้ายแล้วพวกผมก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของคุณฟรานเชสได้ ผมเสียใจจริง ๆ ครับคุณทารีฟ”

ชายหนุ่มบอดี้การ์ดมือขวาเมื่อได้ยินคำตอบของหมอผู้รักษาแล้วถึงกับยืนอึ้งน้ำตาลูกผู้ชายเต็มเป้า เพราะไม่คิดว่าเจ้านายหนุ่มผู้เก่งกาจและเคยเป็นผู้มีพระคุณช่วยเหลือเขาจนได้ดิบได้ดีถึงทุกวันนี้ ไม่คิดว่าเขาจะอายุสั้นเพราะลุงของตนเองแถมยังเป็นคนที่ทารีฟไม่สามารถต่อกรด้วยได้

“ขอบคุณครับหมอแล้วเรื่องศพของเจ้านายผม ผมจะเอาออกไปได้เลยใช่ไหมครับ คุณหมอครับผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณหมอสักหน่อยหนึ่ง เรื่องการเสียชีวิตของคุณฟรานเชสผมขอร้องคุณหมอช่วยเก็บไว้เป็นความลับด้วยนะครับ ห้ามเพ่งพายเรื่องนี้ออกไปเป็นอันขาดหวังว่าคุณหมอคงจะเข้าใจ หรือไม่ก็นึกถึงแก่เงินทองที่คุณฟรานเชสเคยบริจาคช่วยเหลือโรงพยาบาลแห่งนี้”

“ได้ครับคุณทารีฟ คุณทารีฟไม่ต้องห่วงบุญคุณของคุณ

ฟรานเชส พวกเราทุกคนไม่ลืมหรอกนะครับคุณสบายใจได้ประวัติที่คุณฟรานเชส เข้ามารักษานี้จะถูกลบออกจากในระบบของโรงพยาบาลอย่างแน่นอนจะไม่มีใครเห็นหรือรับรู้ได้อีก”

“ขอบคุณคุณหมอมากจริง ๆ งั้นพวกผมขอเคลื่อนย้ายร่างของคุณฟรานเชสตอนนี้เลยนะครับ”

“เชิญครับเชิญ ถ้ามีอะไรอยากให้ทางโรงพยาบาลช่วยเหลือก็สามารถบอกผมมาได้เลยนะครับ”

นายแพทย์ผู้มีตำแหน่งเป็นรองประธานโรงพยาบาลและมีศักดิ์เป็นน้องชายของท่านประธานโรงพยาบาลแห่งนี้ กล่าวออกมาอย่างซาบซึ้งน้ำใจและพร้อมช่วยเหลือฟรานเชสก่อนที่เหล่าบอดี้การ์ดจะเข้าไปทำการเคลื่อนย้ายร่างของเจ้านายหนุ่มเพื่อนำไปฝังและทำพิธีอย่างเงียบ ๆ ลับ ๆ เป็นการตอบแทนเจ้านายผู้มีพระคุณของเขาเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากนี้กิจการทั้งหมดก็คงจะตกไปอยู่ที่ญาติคนเดียวก็คือลุงของฟรานเชสนั่นเอง ทารีฟได้แต่นึกในใจสงสารเจ้านายหนุ่มสุด ๆ ที่มาจากไปเพราะไว้เนื้อเชื่อใจญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่