ตอนที่1 พี่ฟิส น้องเอยเอย
“ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเลยนะคะ ใครจะเดี่ยวหรือจะคู่ก็ได้อาจารย์ไม่มีปัญหา เลิกคลาสได้จ้ะ” สิ้นเสียงของอาจารย์ประจำวิชา นักศึกษาทุกคนที่อยู่ภายในห้องนี้ก็ทยอยลุกขึ้นและกรูออกจากห้องเรียนกันอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ สุดท้ายก็ต้องทำงานเดี่ยวอีกแล้วสินะเจ้าเอย” หญิงสาวใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างเบาบางบ่นกับตัวเองพึมพัมๆ พร้อมกับเก็บอุปกรณ์การเรียนที่วางอยู่ลงกระเป๋าอย่างเป็นระเบียบ
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ้าเอย ตอนนี้เรียนบัญชี อยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่ดังระดับประเทศ ฉันอยู่ปี4 ซึ่งเป็นปีการศึกษาสุดท้ายแล้ว ซึ่งตลอด4ปีที่มาฉันไม่เคยมีเพื่อนในรั้วมหาลัยนี้เลยแม้แต่คนเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ฉันเคยลองเข้าไปทักคนอื่นแล้ว แต่ผลที่ได้กลับมาจากทุกคนนั้นเหมือนกันก็คือเลือกที่จะเดินเลี่ยงฉันออกไปเลยราวกับธาตุอากาศ
แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้สนใจเรื่องนี้แล้วค่ะ เพราะอย่างน้อยๆ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ไม่บังคับทำงานกลุ่มหรืองานคู่ทำให้ฉันไม่ได้มีปัญหากับการที่จะต้องมีเพื่อนเรียนเลย
ติ๊ง
“คิกๆ น่ารักตลอดเลยแฟนใครเนี่ย” ฉันเลิกเรียนได้ไม่ทันไรก็จะมีเสียงข้อความแบบนี้ส่งมาตลอด คนที่ส่งข้อความมาเมื่อกี้คือแฟนฉันเองค่ะ เราอายุห่างกันเพียง1ปีเท่านั้น ตอนที่คบกันเราก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้แหละค่ะ
เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันขอตัวลงไปหาแฟนฉันก่อนนะคะ เพราะเขาน่าจะมารอฉันอยู่ที่หน้าตึกแล้ว ตั้งแต่เราคบกันมาไม่เคยมีเลยที่เขาจะไม่มารับฉันหลังเลิกคลาสแล้ว ความเสมอต้นเสมอปลายนี้ฉันต้องยอมยกให้คุณแฟนของฉันเลยค่ะ
ปึก
“เอยเอยเหนื่อยไหม หื้ม?”
“เอยไม่เหนื่อยค่ะพี่ฟิส” พี่ฟิส หรือชื่อเต็มๆ คือ ฟิสซิส นั่นคือชื่อแฟนของฉันเองค่ะ ฉันจะเรียกที่เขาว่าพี่ฟิสเฉยๆ ส่วนพี่ฟิสเองก็จะแทนตัวฉันว่าเอยเอย
ความรักของเราก็หวานชื่นมาราว4ปีเข้าให้แล้ว ตอนแรกฉันจะไม่ตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่เขาหรอก คนอะไรหล่อแบบไม่มีที่ติ แถมพี่เขายังมาจีบฉันแบบป่าวประกาศไปทั่วมหาลัยเลยด้วยซ้ำ นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันไม่มีเพื่อนกับเขาก็เป็นได้ เพราะพี่ฟิสคนนี้เมื่อก่อนคือเดือนของมหาลัยน่ะสิ แถมยังเป็นคนแก๊งค์สมบัติของมหาลัยกับเพื่อนๆ ของเขาอีก
“หรอ งั้นวันนี้เราไปดินเนอร์กันดีไหมครับเอยเอย พี่จองร้านอาหารบนชั้นดานฟ้าของโรงแรมไอ้ไคเอาไว้ พี่ว่าหนูต้องชอบมากแน่ๆ ฟอด ฟอด ฟอด ฟอด”
“งื้อพี่ฟิส แก้มเอยช้ำไปหมดแล้ว เอยบอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องพาเอยไปกินที่แพงๆ แบบนั้นก็ได้” ฉันบอกเขาอยู่ตลอดว่าอยากกินอะไรให้บอกฉันก็ได้ เพราะยังไงฉันก็ทำอาหารเป็น และสามารถทำให้เขากินได้ทุกครั้งที่เขาต้องการอยู่แล้ว
“อะไรแค่นี้ทำเป็นหวงแก้มกับพี่แล้วหรอ”
“เอยไม่ได้หวงพี่ฟิสสักหน่อย แต่นี่มันในหมาลัยนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าแล้วจะแย่เอาได้”
“หึหึ ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่องเลยเมียพี่เนี่ย”
เพี๊ยะ!
“โอ๊ยย ตีพี่ทำไมครับเอยเอย”
“แฟนค่ะ พูดให้ดีดีหน่อยสิพี่ฟิส ไม่อายบ้างหรือไงเรียกเอยว่าเมียอยู่ได้ เดี๋ยวพี่เสียหายนะคะ”
“เอากันแล้วก็ต้องเรียกเมียสิ แถมยังเอากันตั้งหลายท่า..อ๊ะ! อุ๊บ!”
“หยุดพูดเลยน่ะพี่ฟิส ขับรถเลยค่ะ ถ้าพี่พูดเรื่องนั้นอีกเอยงอนพี่จริงด้วย หงึ~”
“คร๊าบ พี่ไม่พูดแล้วก็ได้” ฟิสซิสมองใบหน้าสวยของแฟนตัวเองสักพักก่อนจะออกตัวรถตรงไปที่คอนโดของตัวเอง
คอนโด
“ไปครับคนสวย ไปอาบน้ำแต่งตัวกัน”
“แยกกันอาบค่ะ ไม่ต้องมาคิดหื่นกับเอยตอนนี้เลย”
“หว๊า มีคนรู้ทันความคิดพี่ด้วยแหะ เสียใจจังเลย”
“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลยค่ะ เอยไม่หลงกลพี่หรอก” ฉันรู้ทันหรอกว่าตอนนี้เขากำลังคิดถึงเรื่องใต้สะดืออยู่แน่ๆ ยิ่งอยู่ด้วยกันนานอยู่รู้นิสัยกันจนหมดไส้หมดพุงอยู่แล้ว
คนอะไรไม่รู้ พอฉันตกลงคบกับเขาได้วันเดียวเท่านั้นแหละ ฉันได้ลาเรียนไปสามวันเลย เพราะโดนพี่ฟิสจับกินจนเป็นไข้น่ะสิ
“หึหึ ครับๆ เอาไว้ค่อยมากินก่อนนอนก็ได้ ยังไงเอยเอยก็หนีพี่ไม่พ้นหรอก”
“เฮ้อ ค่ะๆ เอาไว้ถึงเวลานั้นก่อนนะคะสุดหล่อ” ฉันเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อแล้วเดินลงจากรถมารอพี่ฟิสอยู่ที่หน้าลิฟต์แทน
“ไปครับ” รอไม่นานพี่ฟิสก็เดินหิ้วของออกมาจากหลังรถ ไม่รู้ว่าไปซื้ออะไรมาเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“ซื้ออะไรมาอีกคะพี่ฟิส”
“ชุดหนูไงครับ วันนี้พี่ไปกินข้าวกับไอ้ซาจิแล้วก็ไอ้ไคมา”
“อ้าวพี่ซาจิกลับมาจากทำงานแล้วหรอคะ เอยไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เอยเอยจะไปรู้เรื่องของมันทำไม ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก รู้ไปก็รกสมอง”
“งื้อ พี่ฟิสไม่เห็นต้องพูดขนาดนั้นเลยน่ะ ยังไงพี่ซาจิก็เป็นเพื่อนพี่นะคะ”
“พอเลย ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายคนอื่นแล้ว อยู่กับพี่หนูต้องคิดถึงแต่เรื่องพี่สิ”
“โว๊ะ! อยู่ด้วยกันยังต้องคิดแต่เรื่องพี่อีก ไม่มีอะไรให้คิดแล้วค่ะ ไปดีกว่าเดี๋ยวได้ทะเลาะกันแทนไปกินข้าวแน่ๆ”
“อย่าพูดถึงมันอีกน่ะ ไม่งั้นพี่จับหนูขึงกับเตียงแล้วก็ปลุกปล้ำจนตะวันขึ้นแน่ๆ หึหึ”
“ไม่พูดแล้วค่าาาาา” ฉันวิ่งหนีพี่ฟิสเข้ามาในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ถ้าฉันไม่หนีฉันก็ไม่น่าจะได้ไปกินหรอกดินเนอร์อะไรนั่นน่ะ น่าจะโดนพี่แกจับกินอยู่ที่ห้องนี่แหละ ที่รู้เรื่องพวกนี้ก็มาจากประสบการณ์ล้วนๆ ฉันโดนมาเยอะแล้วค่ะกว่าจะรู้ทันเขาก็ต้องเสียตัวอยู่หลายรอบเหมือนกัน ปาดน้ำตาเล็กน้อย
