บท
ตั้งค่า

12 กลับตัวไม่ได้

เขาใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าของเธอไว้ ก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มของเธออย่างอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความต้องการอันเร่าร้อน มนลดาพยายามที่จะขัดขืน แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมจำนนต่อจุมพิตที่แสนหวานและเย้ายวนของเขา

"อื้มมมม!!!" เสียงครางในลำคอของเธอแผ่วเบา เมื่อเดวิดบดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง ก่อนที่เขาจะยอมผละออกอย่างเห็นใจ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ลมหายใจถี่กระชั้นด้วยความตื่นเต้น

"เห็นใจฉันเถอะค่ะ" น้ำเสียงของมนลดาแหบพร่า น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตาคู่สวย

"ฉันไม่อยากทำให้คุณย่าเสียใจ ฉันไม่อยากให้คุณย่ารู้ว่าฉันขายตัวให้คุณ"

คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความผิดหวังในตัวเอง เดวิดก้มลงมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เขาค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะกระซิบเสียงต่ำ

"คุณย่าจะไม่รู้เรื่องนี้...ถ้าคุณยอมทำตามที่ผมบอก"

น้ำตาของมนลดาร่วงเผาะลงมาเมื่อได้ยินคำพูดของเขา หัวใจของเธอเจ็บปวดราวกับถูกบีบขยี้จนแหลกละเอียด ถ้าคุณย่ารู้เรื่องนี้...ท่านคงจะเสียใจมาก ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัว ทำให้เธอรู้สึกผิดจนแทบอยากจะหยุดหายใจ

ริมฝีปากอิ่มของมนลดาเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยหยาดน้ำตาที่พร้อมจะไหลรินออกมาทุกเมื่อ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาอ้อนวอนราวกับลูกกวางน้อยที่กำลังหวาดกลัวต่อพรานป่าที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“คุณเดฟ...ปล่อยมนเถอะค่ะ” เดวิดก้มลงมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เขาค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาอ่อนโยนจนน่าประหลาดใจแต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับแฝงไปด้วยความเด็ดขาด

“เรียกผมว่าพี่เดฟสิ แล้วแทนตัวเองว่ามน” มนลดาทำหน้าลังเลและไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาอย่างง่ายดายนัก

“หรืออยากให้คุณย่ารู้เรื่องของเรา...หืมม์!!!” คำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขาทำให้มนลดาตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาป ภาพใบหน้าอันเปี่ยมไปด้วยความรักของคุณย่าผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจเธอจนแทบจะแตกสลาย สุดท้ายเธอก็ต้องจำนนต่อเขาแต่โดยดี

“พี่เดฟ พอใจหรือยัง” เดวิดยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ เขาโน้มตัวลงไปจุมพิตที่หน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา

“ดีมาก...ที่รัก แล้วพรุ่งนี้เช้าพี่จะไปส่งมนเอง”

“แต่คืนนี้มนต้องไปเฝ้าคุณย่านะคะ...พี่เดฟ” เธอพยายามต่อรองเมื่อเห็นว่าเขาอารมณ์ดีขึ้น

“โทรไปถามที่โรงพยาบาลสิ ตอนนี้มีพยาบาลเฝ้าดูแลคุณย่าเรียบร้อยแล้ว”

มนลดารีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา เธอต่อสายหาพยาบาลประจำวอร์ดผู้ป่วยทันที และคำตอบที่ได้รับทำเอาเธอต้องตกตะลึงจนพูดไม่ออก พยาบาลแจ้งว่าคุณย่าของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่ห้องพิเศษแล้ว และมีทีมแพทย์เตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้

“ฝีมือพี่เดฟเหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ราวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝันที่เธอสร้างขึ้นมาเอง

เดวิดยิ้มอย่างอบอุ่น ก่อนจะสวมกอดเธอไว้แน่น

“พี่เดฟทำแบบนี้ทำไมคะ...” เสียงของมนลดาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน น้ำตาที่คลอหน่วยเอ่อล้นออกมา เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความรู้สึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เดวิดสวมกอดเธอไว้แน่นราวกับต้องการปลอบประโลมหัวใจที่บอบช้ำของเธอ

“ก็พี่รักมนไง พี่อยากช่วยมน พี่ไม่อยากเห็นมนลำบาก มนเป็นแฟนกับพี่ได้มั้ย” คำพูดของเขาทำให้มนลดาตัวแข็งทื่อ เธอไม่อาจหาคำตอบมาปฏิเสธเขาได้ในทันที

“แต่เราเพิ่งจะรู้จักกันเองนะคะ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาสักหน่อย บทจะรักมันก็รักนี่ครับ” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาดที่ยากเกินจะปฏิเสธได้

“งั้นมนขอคิดดูก่อนได้มั้ยคะ”

“ก็ได้พี่ให้โอกาสมนตัดสินใจ” เขาคลายอ้อมกอดออกแล้วใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มของเธออย่างแผ่วเบา “เรื่องผ่าตัดคุณย่าไม่ต้องห่วงนะ พี่ให้ลูกน้องไปจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พี่อยากให้มนมีเวลาอยู่กับพี่”

มนลดามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบายได้ เธอรู้ดีว่าคำพูดของเขาราวกับเป็นคำสั่งที่เธอต้องปฏิบัติตาม และต่อจากนี้จะไม่มีทางหนีจากเขาไปได้อีกแล้ว

เสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานเบาๆ มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอของคนสองคนเท่านั้น มนลดาขยับตัวเข้าหาอ้อมกอดของเดวิดราวกับกำลังค้นหาความอบอุ่น เธอกอดเขาไว้แน่นในขณะที่เดวิดเองก็ใช้แขนโอบรอบตัวเธออย่างทะนุถนอม ราวกับต้องการปกป้องเธอจากโลกภายนอกที่แสนโหดร้าย

เขาจูบที่เรือนผมหอมกรุ่นของเธออย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นหอมจากผิวกายของเธออย่างช้าๆ ความรู้สึกอิ่มเอมใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าของเธอออกอย่างเบามือ แล้วจ้องมองใบหน้าที่อ่อนหวานที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ

นี่ครั้งแรกในชีวิตที่เดวิดนอนกอดผู้หญิงและไม่มีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เขาไม่เพียงแค่อยากได้ร่างกายของเธอ แต่เขารู้สึกต้องการที่จะปกป้องหัวใจที่บอบบางของเธอด้วยเช่นกัน

เขามีความสุขที่ได้เห็นคนที่เขาหลงรักหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอด มือหนาลูบแผ่นหลังของเธออย่างอ่อนโยนจนกระทั่งเธอซบใบหน้าลงกับอกของเขาด้วยความไว้ใจ

“ฝันดีนะครับ คนเก่ง” เขาเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาในยามที่เธอหลับใหล ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากของเธออีกครั้งด้วยความรักทั้งหมดที่มี

ไม่นานนักหลังจากมนลดาเข้าสู่ห้วงนิทรา เดวิดก็ได้ยินเสียงสะอื้นของเธอที่ดังแผ่วเบาอยู่ข้างๆ เขาได้ยินเสียงละเมอของเธอที่เต็มไปด้วยความเศร้า

“คุณย่า...อย่าทิ้งหนูไปนะคะ...คุณย่า...คุณย่าอยู่กับหนูก่อน ฮื้อๆๆ” หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มของเธอพร้อมกับเสียงสะอื้นที่น่าเวทนา เขาตัดสินใจที่จะปลอบเด็กสาวด้วยการโอบกอดร่างเล็กๆ ของเธอให้ซุกกับอกกว้าง พร้อมกับลูบแผ่นหลังบางอย่างอ่อนโยน

กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยมาแตะจมูก ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย จนอยากจะกอดเธอเอาไว้แบบนี้ตลอดไป เขาสูดดมกลิ่นกายของเธอเข้าเต็มปอดอย่างช้าๆ ราวกับจะเก็บความหอมนั้นเอาไว้ในความทรงจำ

เดวิด ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้จะแตกต่างจากคนอื่นที่เอมมี่เคยส่งมาให้ เขาเคยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ ได้สัมผัสกับผู้หญิงมาแล้วมากมาย แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกได้เหมือนอย่างมนลดา และการที่เขายอมจ่ายเงินเป็นค่าจองตัวเธอถึงหนึ่งล้านบาทให้กับเอมมี่ ก็เป็นเพราะเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกที่เห็นในรูปแล้ว

มนลดาได้มอบความบริสุทธิ์ของเธอให้กับเขา และเธอก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมใจยิ่งกว่าถึงจุดสุดยอดเป็นไหน ๆ เขาไม่เพียงแค่อยากได้ร่างกายของเธอเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่เขาอยากครอบครองเธอตลอดไปตราบชั่วชีวิต

เสียงสะอื้นของเธอเบาลงไปแล้ว ดูเหมือนเธอจะเลิกฝันร้ายแล้ว มาเฟียหนุ่มจึงขยับตัวนอนในท่าปกติ แต่พอเห็นใบหน้างามที่หลับตาพริ้มใกล้ๆ หัวใจของเขาก็บอกว่า...เขาต้องคอยปกป้องเธอ ปกป้องจากอะไรก็ตามที่จะทำให้สาวน้อยคนนี้ต้องเสียน้ำตา
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel