11 รู้สึกผิด
ท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืนในเพนต์เฮาส์ที่หรูหรา มนลดาได้แต่เอนกายพิงหัวเตียง พยายามสงบสติอารมณ์ที่สับสนวุ่นวายในใจ เธอทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ราวกับว่าทุกอย่างมันความฝันที่จับต้องได้ยาก แต่เมื่อเธอมองไปยังเรือนร่างของเดวิดที่นอนหลับอยู่ข้างๆ เธอก็รู้สึกได้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง
ความกังวลเกิดขึ้นในใจของเธอจนนอนไม่หลับ ถ้าคุณย่าถามว่าเธอไปเอาเงินจำนวนมากนี้มาจากไหน... เธอจะตอบว่าอย่างไร เสียงในใจของเธอพร่ำถามอย่างขมขื่น จะบอกความจริงว่าขายตัวอย่างนั้นเหรอ... เธอนึกภาพสีหน้าของคุณย่าแล้วใจก็เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก การได้เงินจำนวนมากเพื่อแลกกับศักดิ์ศรีของตัวเองมันคุ้มค่าแล้วเหรอ!!... มลดาก็ยังคิดไม่ตก และหาคำตอบไม่ได้
เธอค่อยๆ เลื่อนสายตาไปยังใบหน้าคมที่หลับใหลอย่างสงบ แสงไฟสลัวที่ตกแต่งห้องนอนทำให้เธอมองเห็นโครงหน้าอันหล่อเหลาอย่างชัดเจน เธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูน่าเสียดายที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา เขาดูดีและสมบูรณ์แบบ แต่การได้รู้จักกันระหว่างเธอกับเขานั้น มันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาตั้งแต่แรก
นิ้วมือเรียวสัมผัสไปที่แก้มสากของเขาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะโน้มตัวลงไปหอมที่แก้มสากของเขาอย่างรักใคร่ มันเป็นจูบสุดท้ายที่เธอให้กับเขา และหลังจากนี้เรื่องราวทุกอย่างจะต้องจบลง...
เด็กสาวรีบลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว เธอแต่งตัวและเก็บข้าวของอย่างเร่งรีบ ก่อนจะหันกลับมามองเขาเป็นครั้งสุดท้าย เธออยากจะบอกเขาว่าเธอเสียใจที่ต้องทำแบบนี้ แต่ก็ทำได้แค่เพียงเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจเท่านั้น
ภายในความมืดสลัวของเพนต์เฮาส์หรูหรา มนลดาเคลื่อนกายไปอย่างเงียบๆ หัวใจของเธอเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมานอกอก ทุกย่างก้าวที่เดินไป เธอภาวนาขอให้ตัวเองหลุดพ้นจากที่นี่ และลบเลือนทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ไปจากความทรงจำให้เร็วที่สุด
เมื่อเธอใกล้จะถึงลิฟต์ ความหวังอันริบหรี่ก็ส่องประกายขึ้นในดวงตาคู่สวย ทันทีที่นิ้วเรียวกำลังจะกดปุ่ม เธอก็ต้องชะงักเมื่อร่างใหญ่โตสองร่างปรากฏขึ้นขนาบข้างทั้งซ้ายและขวา มนลดาเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ ใบหน้าของบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองคนเรียบเฉย ไร้อารมณ์ใดๆ
“คุณจะไปไหนครับ” เสียงทุ้มต่ำของหนึ่งในบอดี้การ์ดดังขึ้น มนลดาพยายามสลัดแขนออกให้พ้นจากการกอบกุมของชายทั้งสอง แต่เขาก็แรงมหาศาล
“ปล่อยนะ! ฉันจะกลับบ้าน!” มนลดาพยายามสะบัดแขนที่ถูกยึดไว้
“ปล่อยสิ! บอกให้ปล่อย! พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาจับตัวฉันนะ!” มนลดาพยายามดิ้นรน
ในระหว่างที่เธอต่อสู้ขัดขืนอย่างสุดกำลัง เสียงอันคุ้นเคยที่เธอคิดว่ากำลังหลับใหลอยู่บนเตียงก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ ทุกคำพูดที่ออกมานั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่ชวนให้ขนลุก
“ชาโด้ ไททัน ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง สิ้นเสียงบอดี้การ์ดทั้งสองปล่อยตัวมนลดาตามคำสั่ง
“ครับนาย” มนลดากำลังจะหันหลังกลับอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหนี แต่ทว่าปลายทางของเธอกลับถูกปิดกั้นไว้ด้วยร่างสูงใหญ่ของเดวิด ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“พวกแกสองคน ไปได้แล้ว” บอดี้การ์ดทั้งสองโค้งคำนับก้มหน้าลง แล้วเดินจากไปตามคำสั่งของเจ้านาย
“มนลดา...คุณจะไปไหน” เสียงเข้มของเขาเอ่ยถาม ดวงตาคมกริบจ้องมองมาราวกับจะมองทะลุเข้าไปในจิตใจของเธอเสียให้ได้
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความสับสนและหวาดกลัว ใบหน้าของเขานิ่งเรียบจนเธอไม่สามารถอ่านอารมณ์ใดๆ ได้เลย แต่ความรู้สึกของมนลดาที่ถูกเขาจับได้นั้นก็ทำให้เธอรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย
“ฉัน!!!..ฉัน!!! จะกลับบ้านค่ะ” มนลดาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอก้มหน้าลงต่ำ
“จะกลับบ้านทำไมตอนนี้!!!” เดวิดถามด้วยความเป็นห่วง
“แต่งานของคุณยังไม่เสร็จ และคุณก็ยังไม่ได้ค่าตัวเลยเลยนี่” เขาถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉัน!!!...ฉัน!!! ไม่ต้องการมันแล้วค่ะ” เสียงของเธอติดขัด จนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมา เมื่อเธอคิดถึงเหตุผลที่จะต้องหนีไปจากเขา...
“ทำไมล่ะ คุณไม่อยากได้เงินไปเป็นค่ารักษาคุณย่าแล้วเหรอ!” คำพูดของเดวิดราวกับมีดคมกริบที่กรีดลงบนหัวใจของเธอ สิ้นเสียงเขาก็รีบก้าวเข้ามาประชิดตัวเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้ามือเรียวบางของเธอไว้แน่นแล้วออกแรงจูงเธอกลับไปที่ห้องนอน
“คุณจะพาฉันไปไหนคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัว
“คุณยังทำหน้าที่ของตัวเองไม่เสร็จเลย” เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหู ก่อนจะตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นแนบอกแกร่งอย่างนุ่มนวล มนลดาตกใจจนต้องรีบยกมือขึ้นคล้องคอของเขาไว้ตามสัญชาตญาณ
“คุณคิดว่าผมอยากได้ตัวคุณแค่ครั้งเดียวหรือไง...หืมม์!!!” เดวิดพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ เขาอุ้มเธอก้าวเดินไปตามทาง ในที่สุดก็มาถึงห้องนอนที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอเมื่อครู่
“คุณเดวิด ได้โปรดเห็นใจเถอะค่ะ ฉันบอกคุณไปตั้งแต่แรกแล้ว ว่าฉันรับแค่งานนี้งานเดียว” เธออ้อนวอนเมื่อเขากอดเธอเอาไว้แน่น มือเรียวบางพยายามแกะมือหนาที่รัดเอวคอดกิ่วออก แต่มันก็ช่างแน่นเหลือเกิน นิ้วของเธอไม่มีแรงจะทำเช่นนั้นได้
“ใช่!! แต่ยังไม่ทันจบงานเลย คุณก็จะหนีผมไปซะแล้ว” เขาตอบกลับอย่างไม่ลดละ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ ราวกับจะสะกดให้เธอไม่มีทางหนีไปจากเขาได้อีก
“ปล่อยฉันเถอะค่ะ ฉันไม่ทำงานนี้แล้ว”
“คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับผม...มนลดา” เขาประคองร่างของเธอนอนลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มของเธออย่างอ่อนโยน แต่ยังคงแฝงไปด้วยความเร่าร้อนเหมือนทุกครั้ง
“เห็นใจฉันเถอะค่ะ ฉันไม่อยากทำให้คุณย่าเสียใจ ฉันไม่อยากให้คุณย่ารู้ว่าฉันขายตัวให้คุณ” มนลดาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“คุณเดวิด...ช่วยกรุณาปล่อยฉันไปเถอะค่ะ” เธอขอร้องอ้อนวอน เดวิดยิ้มเยาะ
“ถามจริง!!!...คุณไม่คิดจะรักษาคุณย่าแล้วเหรอ!”
“นั่นมันเรื่องของฉันค่ะ และฉันก็บอกคุณแต่แรกแล้วนี่คะ ว่าฉันรับแค่งานนี้งานเดียว”
“ใช่งานเดียว!!! แต่มันจะต้องไม่ใช่ แค่ครั้งเดียวแบบนี้!!!”
“นี่คุณหมายความว่ายังไงคะ” คิ้วของเธอขมวดมุ่น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย ในหัวคิดย้อนไปถึงเรื่องที่ได้ตกลงกับเอมมี่ก่อนหน้านี้ ว่าเธอจะขอรับแค่งานนี้งานเดียว!
“คุณก็รู้ผมโอนเงินให้โมเดลลิ่งของคุณหลักล้าน เพื่อจ้างคุณมาเป็น เมียเช่า!” เสียงทุ้มต่ำของเดวิดเอ่ยขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด
“เมียเช่า!!!” มนลดาทวนคำอย่างตกตะลึง ใบหน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ก็ใช่ไง” เขากล่าวยืนยัน
“แต่เราไม่ได้ตกลงกันแบบนี้นะคะ!” มนลดากล่าวเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว
“คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับผม...มนลดา” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจที่ยากจะขัดขืน
“ขอร้องเถอะค่ะ คุณเดวิด ปล่อยฉันเถอะ” เธอกล่าวอ้อนวอนราวกับจะร้องไห้
“ผมบอกให้คุณเรียกผมว่าไง...หืมม์!!” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น
“คุณเดฟ...ปล่อยฉันเถอะค่ะ” เธอพยายามเอ่ยชื่อที่เขาต้องการให้เธอเรียก และทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเขา แต่เดวิดก็ไม่ยอม