บทที่ 9
มณีได้แต่ส่ายหน้าให้ ลูกชายเธอก็เป็นซะแบบนี้ ไม่มีความอ่อนหวานเอาซะเลย ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่นี้คงตกใจไม่น้อยที่มาเที่ยวพักผ่อนกลับถูกแม่โควิ่งเข้าใส่แบบนั้น มณีดูแลศรินภัสร์เป็นอย่างดี จนเธอค่อยๆ รู้สึกตัว หญิงสาวลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะสะดุ้งเพราะเห็นเพดานที่ไม่คุ้น
“ฟื้นแล้วเหรอหนู” น้ำเสียงอบอุ่นที่ได้ยินข้างๆ ทำให้ศรินภัสร์หันไปมองก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกนั่งก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆ ให้ รู้สึกคอแห้งผากไปหมด ก่อนหมดสติเธอออกมาจากลานหญ้าได้จึงโล่งอก แต่ต่อจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย
“ค่ะ หนูอยู่ที่ไหนคะ” ศรินภัสร์เอ่ยถาม เพราะนี่ไม่เหมือนห้องที่เธอพักสักนิด
“บ้านป้าเองจ้ะ คงตกใจมากสินะที่ถูกโคไล่ขวิดเอา” มณีลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบน้ำเย็นๆ รินใส่แก้ว แล้วนำออกมายื่นให้หญิงสาวหน้าตาน่าเอ็นดูตรงหน้า ก่อนจะลงไปนั่งข้างๆ
“ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อน จะได้สดชื่น”
“ขอบคุณค่ะ” คนที่เพิ่งฟื้นจากอาการเป็นลมยิ้มให้ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณและรับแก้วน้ำมาถือไว้ แล้วก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
“ดีขึ้นไหม ยังวิงเวียนอยู่อีกหรือเปล่า”
“ไม่แล้วค่ะ คงตกใจมากไปหน่อยก็เลยเป็นลม ขอบคุณนะคะคุณป้า หนูขอกลับรีสอร์ตก่อน” ศรินภัสร์ไม่อยากรบกวน เพราะเหลือเวลาอีกนานกว่าเพื่อนๆ จะกลับไปรวมตัวกัน วันนี้เธอคงไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นอะไรแล้ว แค่เจอโคไล่ขวิดก็ตื่นเต้น ตกใจจนขาสั่นพั่บๆ เหงื่อออกเต็มตัวไปหมด ขอกลับไปนอนที่ห้องพักก่อนดีกว่า
“เดี๋ยวจ้ะหนู รอลูกชายป้าก่อนนะ ยังไงเย็นนี้ถ้าไม่รังเกียจช่วยรอทานอาหารค่ำกับพวกเราสักมื้อ จะได้ไถ่โทษที่โคในฟาร์มลูกชายป้าไล่ขวิดหนูไป” มณีเอ่ยชวน เพราะเธออยากทำอย่างที่พูดจริงๆ ให้แขกที่รีสอร์ตกลับไปแบบนี้ดูน่าเกลียด จะหาว่าทางฟาร์มหรือรีสอร์ตไม่ดูแล
“ตะ แต่ว่า” หญิงสาวกำลังจะเอ่ยค้าน เธอเกรงใจจริงๆ แค่นี้ก็ทำเรื่องให้วุ่นวายมากพอแล้ว แต่เสียงคุ้นๆ ของใครบางคนก็เอ่ยดักขึ้นตรงหน้าประตู
“ฟื้นแล้วหรือไงยายตัวแสบ” อโณทัยเดาเวลาที่หญิงสาวจะรู้สึกตัว เขากลับมาจากฟาร์มทันเวลาพอดิบพอดี
“โอ๊ค ไปถามหนูเขาแบบนั้นได้ยังไงกันลูก” มณีเอ่ยปรามลูกชายตัวดีของเธอ ศรินภัสร์กัดฟันกรอดๆ คิดว่าช่วยเธอออกมาจากลานหญ้าแล้ว จะพูดแบบนี้กับเธอได้อย่างนั้นน่ะเหรอ ติดหนี้บุญคุณแค่ครั้งเดียวกล้าดียังไงมาเรียกเธอว่ายายตัวแสบ
“ใครยายตัวแสบ นายว่าใคร” ศรินภัสร์เลือดขึ้นหน้า ไม่ถามหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้วตอนนี้ แม้จะพอเดาได้ว่าชายหนุ่มกับแม่คือเจ้าของฟาร์มกับรีสอร์ต แต่ตอนนี้เธอคือลูกค้านะ
“ก็เธอไง ป้ายก็ปักไว้อันเท่าบ้าน ว่าอย่าเข้าไปในลานหญ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สงสัยจะอ่านหนังสือไม่ออก” ชายหนุ่มยักคิ้วส่งมาให้ สายตายียวนกวนประสาทจนศรินภัสร์กำหมัดแน่น แต่แววตาของชายหนุ่มก็มองไปยังริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้ขบเม้มเข้าหากัน คงเป็นเพราะคำพูดเขาเมื่อครู่ ว่าแล้วก็อยากสัมผัสแบบจริงจังอีกสักครั้ง
“ก็ฉันไม่เห็นนี่ อีกอย่างก็ไม่คิดว่าโคนมมันจะดุ” เธอเอ่ยเสียงอ่อยๆ สำนึกผิดนิดๆ แต่ก็ยังไม่ยอมอ่อนข้อให้ชายหนุ่มตรงหน้าที่ยังไม่รู้จักกัน มาพูดหาว่าเธอเป็นยายตัวแสบ
“เด็กก็แบบนี้แหละ เอาแต่ใจ” ชายหนุ่มยังยิงประโยคให้ศรินภัสร์พุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีก
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เรียนจบทำงานแล้วด้วย นายน่ะสิหน้ายักษ์ เป็นโจรหรือไงหนวดเครารกรุงรังแบบนั้น ตัวก็โตเสียเปล่า แต่นิสัยกลับจู้จี้ จุกจิกเป็นผู้หญิงไปได้” หญิงสาวเท้าสะเอวเอ่ยว่าชายหนุ่มไป มณีได้แต่อมยิ้ม สงสัยเด็กสาวคนนี้จะเกิดมาเพื่อเป็นคู่ปรับของลูกชายเธอก็เป็นได้ อโณทัยได้ฟังแบบนั้นก็ยกมือขึ้นลูบคางตัวเองทันที ก็แค่เขาไม่ได้โกนหนวดวันสองวันเธอมายุ่งอะไรกับเขาไม่ทราบ
“นี่ นี่ พูดจาให้มันดีๆ หน่อยสาวน้อย ฉันเป็นคนช่วยเธอไม่ให้แม่โคขวิดเอานะ ขอบคุณสักคำยังไม่มี” อโณทัยเริ่มทวงบุญคุณ แต่ขณะที่พูดคุยกันเขาไม่รู้เลยว่าสายตาได้จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าแทบไม่มองสิ่งอื่นด้วยซ้ำ มณีนั้นสังเกตเห็นสายตาของลูกชายแต่ก็ไม่พูดอะไร
“เชอะ ไม่มีซะล่ะ ก็นายเองที่ทำป้ายไม่ได้เรื่อง จนฉันมองไม่เห็น จะโทษก็โทษที่นายไม่รอบคอบเอง ยังดีที่ฉันไม่เป็นอะไร ถ้าเป็นขึ้นมาละก็ฉันเอาเรื่องนายแน่นอน” ศรินภัสร์เฉไฉไปเรื่อย โยนความผิดให้อโณทัยไปซะอย่างนั้น
“ยายเด็กบ้องตื้นเอ๊ย ถ้าฉันไม่เข้าไปช่วยป่านนี้เธอไปนอนไส้แตกกลางลานหญ้านู่น ทำคุณบูชาโทษจริงๆ” ชายหนุ่มเป่าลมออกปากหนัก ประหนึ่งว่ากำลังเหลืออดกับเธอเต็มทีแล้ว ศรินภัสร์เองก็ทำท่าไม่ยอมเหมือนกัน แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องสงบศึกเมื่อมณีเอ่ยขึ้น
“ผิดกันทั้งคู่นั่นแหละจ้ะ”
“ได้ไงแม่ ” อโณทัยทำท่าจะค้านต่อ
“โอ๊ค ” มณีเอ่ยชื่อลูกชายนิ่งๆ อโณทัยรู้ว่าถ้าน้ำเสียงแบบนี้มาเขาต้องหยุด เขาเดินไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัว ฝั่งตรงข้าม ศรินภัสร์นั่นเอง ชายหนุ่มยอมถอยออกมาหนึ่งก้าว แต่มันเหมือนชัยชนะของศรินภัสร์ที่ทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าหือ
“ว่าแต่คุยกันมาตั้งนานหนูชื่ออะไรจ๊ะ” คำถามของแม่ทำให้อโณทัยลอบยิ้ม เพราะเขาก็อยากรู้เหมือนกัน
“ศรินภัสร์หรือเรียกว่าตรีก็ได้ค่ะ” ศรินภัสร์ปรับน้ำเสียงที่ดุดันเมื่อครู่ลงมา ยามผู้ใหญ่ที่สุดในนี้เอ่ยถาม
“ป้าชื่อมณี ส่วนนี่อโณทัยหรือโอ๊คลูกชายป้าจ้ะ” มณีเอ่ยแนะนำทั้งหมดให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ เพราะดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว คงได้ทำความรู้จักกันไปนานแน่นอน “แล้วนี่หนูตรี มาเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ รีสอร์ตใช่ไหม” น้ำเสียงที่เอ่ยถามฟังดูเป็นกันเองมาก
