บท
ตั้งค่า

Chapter 3 ทาสในเรือนเบี้ย

“เออดิ!” กรินพยักหน้าแกนๆ เดินสวนขึ้นบ้านไป ไม่สนใจสภาพแวดล้อมของบ้าน คนเป็นน้องตัดสินใจเดินตามขึ้นไปด้วย น้อยครั้งที่เขาจะมีโอกาสได้คุยกับพี่ชาย

“ตอนแรกผมคิดว่าต้องลงใต้ไปตามพี่เองเสียอีก”

“ทำไมต้องลงไปตาม” กรินหันมาถามน้องชายเสียงเข้ม

“ก็...” คนเป็นน้องเริ่มติดอ่าง

นายหัวหนุ่มยกมือชี้หน้าน้องชายคาดโทษ “นายรู้เรื่องนี้แต่ไม่ยอมบอกฉันสักคำ มันน่าตัดพี่ตัดน้องไหมละ”

กริชยิ้มแหย “ขอโทษครับพี่ แม่คาดโทษผมเอาไว้เหมือนกัน”

“ให้มันได้อย่างนี้สิน่า” นายหัวหนุ่มสบถ

“ลืมๆ บ้าง แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว” ชายหนุ่มบีบบ่าพี่ชาย

“ฉันจะไม่ยอมเด็ดขาด”

“แม่ก็คงไม่ยอมเหมือนกัน”

“ถ้ารู้อย่างนี้...ฉันก็ไม่มีวันขึ้นมาหรอก”

“ผมขอนะครับพี่ อยู่รอน้องเขาก่อน บางทีทางโน้นอาจจะเป็นฝ่ายปฏิเสธพี่เองก็ได้”

“นี่แม่สั่งให้แกมากล่อมฉันอีกทีใช่ไหม เข้ากันเป็นคณะกลองยาวเลย” เขาตำหนิติดตลก

“เปล่า ผมแค่เห็นด้วยกับแม่ พี่จะอยู่แบบซังกะตายอย่างนี้ไปถึงเมื่อไร”

“เรื่องนั้นแกไม่ต้องยุ่งหรอก ฉันจัดการตัวเองได้ เชิญแกเป็นลูกในโอวาทของแม่คนเดียวเถอะ” กรินบอกน้องชายพร้อมกับปิดประตูห้อง

หลังจากที่น้องชายก้าวพ้นออกจากห้องชายหนุ่มก็เดินไปหยิบโทรศัพท์บ้านเพื่อต่อเข้าเบอร์มือถือของตัวเอง ถึงราคาของเครื่องจะไม่มากมายเท่าไร เครื่องจะล้าหลังไปหลายปี แต่เบอร์ติดต่อที่อยู่ในเครื่องก็สร้างเม็ดเงินให้เขาได้อีกมหาศาลหลายร้อยล้าน

“ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” เป็นคำตอบเดิมๆ นับสิบครั้งภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เขาพยายามติดต่อหาเบอร์ของตัวเอง ยิ่งนึกถึงผู้หญิงเมืองกรุงหน้าตาดีแต่เหยียดคนอื่นเขาก็ยิ่งโมโห

“อย่าให้ฉันเจออีกนะ...จะจับหักคอจิ้มเกลือให้หายโมโห”

กรี๊ดดด

เกือบเที่ยงคืนของวัน เสียงกรีดร้องของคุณหนูลูกเจ้าของบ้านปลุกทุกคนที่อยู่ในห้วงนิทราตื่น คนที่มีหน้าที่ดูแลเธอสองคนวิ่งเข้าห้องมาพร้อมกัน รวมทั้งหม่อมหลวงสราลีผู้เป็นแม่ด้วย ที่ผ่านมาไม่มีใครรองรับอารมณ์ของศยามลได้นานเท่าพลอยขวัญสักคน เหตุนี้หม่อมหลวงสราลีจึงยอมควักเงินจ่ายค่าเทอมให้พลอยขวัญเรียนจนจบ

ทันทีที่เปิดประตูห้องทั้งสามก็ได้เห็นภาพชินตา มือของศยามลกำลังจิกอยู่ที่ผมของพลอยขวัญระบายความโกรธ หากแต่คนมาใหม่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร

“คุณศยา พลอยเจ็บ” หญิงสาวร้องขอศยามลเสียงเบา มือเล็กของเธอกุมมือศยามลไว้อีกที

“แกไม่ต้องมาอ้อนวอนฉัน แกรู้มั้ยกระเป๋าใบนั้นมันราคาเท่าไร ถ้าแกไม่มัวไปอ่อยไอ้กุ๊ยนั่น ของฉันจะหายไปไหม...หา!” ศยามลตวาดลั่น มือก็ออกแรงจิกมากขึ้น

ต้นเหตุของการถูกลงโทษ พลอยขวัญเกิดไปทำกระเป๋าสตางค์หลุยส์ใบเล็กคอเลคชั่นใหม่ของศยามลหายตอนชนกับชายหนุ่มนิรนามในสนามบิน

“อย่าค่ะ...พลอยเจ็บ” หญิงสาวร้องโอดขอความเห็นใจ แม้รู้ว่าลมปากของตัวเองจะไม่ได้ผล แต่เธอก็มีทางเลือกเดียวคืออ้อนวอน

หม่อมหลวงสราลีส่ายหน้าอย่างระอา รู้ว่เป็นเรื่องปกติ และนางเป็นคนเดียวที่พอจะสั่งลูกสาวได้

“เป็นอะไรอีกศยา ปล่อยยัยพลอยก่อน” หม่อมหลวงสราลีร้องห้าม

พลอยขวัญจะต้องนอนหน้าเตียงของศยามลทุกคืนจึงอยู่ในห้องกับเธอ

“ก็นังพลอยน่ะสิคะ ทำกระเป๋าหลุยส์คอลเลคชั่นใหม่ของหนูหาย ถ้าหนูไม่ได้คืนมันโดนถลกหนังแน่” ศยามลตอบมารดา หากแต่มือก็ยังไม่ปล่อยจากผมของพลอยขวัญ

“แม่ว่าปล่อยก่อนดีกว่า จะฆ่านังพลอยให้ตายตอนนี้ก็ไม่ได้ของคืน แม่จะซื้อคืนให้ก่อนแล้วหักเงินเดือนมันทีหลัง โอเคมั้ย” หม่อมหลวงสราลีตัดสิน ดึงพลอยขวัญมาหลบด้านหลังของนาง

คนเป็นเจ้าของก็หน้าเง้าไม่ได้ต่างจากเดิมสักนิด แต่คนโดนหักเงินแทบลืมหายใจอ้าปากหวอ กระเป๋าใบเล็กๆ ที่คุณหนูศยามลซื้อโดยไม่ลังเลสักครั้ง หากแต่เป็นเธอ ค่าของมันเท่ากับเงินเดือนของเธอเกือบปีก็ว่าได้ ไหนจะค่ารักษายายที่ต้องจ่ายเกือบทุกเดือนอีก

คำตัดสินที่เธอถูกเอาเปรียบอยู่ร่ำไป แต่ที่ต้องทนก็เพราะคำว่าบุญคุณที่ยายเฝ้าย้ำอยู่ทุกวัน

‘แกได้ดิบได้ดีก็เพราะข้าวแดงแกงร้อนของบ้านนี้ และแกมีหน้าที่ทดแทนบุญคุณและชดใช้คนบ้านนี้แทนแม่ของแก’ คำสั่งย้ำๆ ของยาย คำสั่งที่เธอพยายามถามต่อ แต่ยายก็ไม่เคยปริปากเล่าอะไรต่อ พอเธอถามถึงแม่ก็ต้องโดนดุทุกครั้งไป

“แกไสหัวออกไปจากห้องฉันเลยนังพลอย! ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก” ศยามลชี้มือไล่พลอยขวัญที่ยืนผมยุ่งเหยิงหลบหลังหม่อมหลวงสราลีอยู่

พลอยขวัญพยักหน้าน้อยๆ แสดงความเคารพก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบๆ พอก้าวพ้นขอบประตูนึกถึงใบหน้าของคนเดินชนเธอเมื่อเย็นอย่างเข่นเขี้ยว เจอไม่ถึงวันทำเอาเงินเดือนเธอหายไปเกือบปี ไม่ว่าอย่างไรเธอจะต้องตามล่าหาตัวเขาให้พบจนได้

“ต้องเป็นนายแน่นอน นายมันมิจฉาชีพชัดๆ”

เสียงนกการ้องเรียกปลุกคนหลับให้ขยับตื่น แสงแดดตอนสายส่องลอดช่องใบไม้ทักทาย ร่างหนากำยำไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม นอนแผ่หราบนฟูกอ่อนนุ่ม แอร์เย็นฉ่ำทำให้เขาหลับสบาย เขาเป็นคนถอดเสื้อผ้านอนจนชิน วันนี้ก็ทำเหมือนอยู่สวนปาล์มที่ตรัง หากแต่ผ้าห่มผืนอุ่นเลื่อนหลุดมาอยู่ที่เอวสอบ เผยมัดกล้ามกำยำแผงอกหนายั่วตาคนมอง

มือของใครบางคนดึงผ้าห่มผืนหนาออกจากตัวของชายหนุ่ม แรงกระตุกฉุดดึงทำให้คนหลับหงุดหงิดเพราะกำลังสบาย แต่ความรู้สึกก็สั่งให้เขาบอกเสียงนุ่ม

“ปะการัง ขอป๊านอนต่อนะคะ หนูไปหายายนอมก่อนนะลูก” ชายหนุ่มคิดว่าเป็นลูกสาว สาวน้อยปะการังเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าห้องของเขาได้

หลังจากบอกจบชายหนุ่มก็ซุกหน้าลงบนหมอน ดึงผ้าห่มที่ปิดตัวอยู่คลุมศีรษะ

“แม่เอง” น้ำเสียงเย็นเยียบของคนเป็นแม่ทักขึ้น เสียงนั้นเรียกสติของชายหนุ่มกลับมาอีกครั้ง เขาดึงผ้าออกจากใบหน้า ลืมตาขึ้นมอง พอเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นใครเขาก็ยกมือขึ้นเหนือศีรษะเหยียดตัวบิดขี้เกียจซักพักแล้วลุกขึ้นจากเตียง ถามมารดาเสียงงัวเงีย

“แม่มีอะไรกับผมแต่เช้า” มือหนาของเขาถูกเจ้าตัวยกขึ้นสางผมให้เข้าที่เข้าทางลวกๆ

คนเป็นแม่คนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนกับสภาพของคนบนเตียง การที่ลูกชายคนโตไปอยู่เมืองใต้ห่างไกลความเจริญและไม่มีคนดูแล เพียงแค่เวลา 5 ปีก็ทำให้ตัวเขาดูแย่ได้ถึงขนาดนี้

“ฉันเอาชุดมาให้ แล้วก็ลุกไปอาบน้ำตัดผมโกนหนวดเสียด้วย วันนี้แกต้องเข้าโรงแรม” คนเป็นแม่บอกความต้องการของตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel