5 ว่าที่ลูกสะใภ้
ผ้าเช็ดตัวที่เกาะอกแบบหมิ่นเหม่จนกลัวว่ามันจะหลุดเสียให้ได้ ความน่ารักเซ็กซี่และความลนลานของเธอทำให้เขาอดขำไม่ได้ ก่อนจะรีบแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเร่งด่วน
“อ๋อ!!!… เสียงของพลอยครับแม่ เธอเป็นแฟนผมเอง” เขาตัดสินใจตอบผู้เป็นมารดาก่อนอย่างไม่ลังเล
“พะ…พี่กร!” เสียงเด็กสาวเสียงสั่นเครือ ไม่รู้ว่าจะกังวลเรื่องอะไรก่อนดี ดวงตาเบิกกว้าง ในขณะที่มารดาของมังกรยิ้มหน้าบานจนแทบจะเต็มจอมือถือ
“แฟนเหรอ!! โอ๊ย แม่ดีใจ! ในที่สุดลูกของแม่ก็มีแฟนสักที! เสียงหวานเชียว ไหน ๆ ...ขอแม่ดูหน้าแฟนแกหน่อยสิ”
มังกรยังคงรักษามาด นิ่ง ๆ แบบไม่รู้ไม่ชี้ ซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ใต้แววตาคมกริบ รอยยิ้มมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยบอกชัดว่าเขาแอบสนุกกับสถานการณ์นี้ ก่อนจะหมุนกล้องมือถือให้คุณแม่ของเขาได้เห็นใบหน้าสวยหวาน ของพลอยนภัสอย่างเต็มตา
เด็กสาวตกใจจนต้องยืนตัวเกร็งและพยายามทำสีหน้าให้เรียบร้อย เมื่อเห็นใบหน้าใจดีของมารดาเขาผ่านหน้าจอ และด้วยสัญชาตญาณและความเข้าใจสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอรีบยกมือไหว้มารดาของเขาด้วยความนอบน้อมและยอมรับสถานะที่เป็นกลายเป็นคนรักของเขาไปก่อนแบบงง ๆ
“สวัสดีค่ะคุณแม่” น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา แต่ก็พยายามทำให้มั่นคงและตื่นตระหนกน้อยที่สุด
“ไหว้พระเถอะลูก” เสียงของคุณแม่สายหยุดเต็มไปด้วยความเมตตา และความปลาบปลื้มใจที่เกินคาด ก่อนจะเอ่ยขึ้นกับทั้งสอง
“มีแฟนสวยน่ารักขนาดนี้... ไม่เห็นต้องปิดบังแม่เลยนี่น่า... มังกร!” ลูกชายหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะเอ่ยต่อไปอย่างแนบเนียน
“ผมก็กะเซอร์ไพรส์แม่นั่นแหละครับ” เขาตอบอย่างอารมณ์ดี และหันไปสบตาพลอยนภัสแวบหนึ่ง ราวกับให้สัญญาณว่าเขาจะรับหน้าที่ในการอธิบายเรื่องราวนี้ทั้งหมดด้วยตนเอง
“พลอยมาเรียนแลกเปลี่ยนที่ลอนดอนครับแม่ เรากำลังจะกลับพร้อมกัน... แต่บังเอิญว่าพลอยทำกระเป๋าสตางค์แล้วก็พวกพาสปอร์ตหาย ผมเลยต้องอยู่ช่วยน้องและพาไปติดต่อสถานทูตพรุ่งนี้ครับ” เขาอธิบายเรื่องราวอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือให้กับความสัมพันธ์ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา
“โธ่เอ้ย!!!...แม่น่าสงสารหนูจริง ๆ...เลยลูก มังกร!!!!...ลูกต้องดูแลน้องดี ๆ ล่ะ ถ้ากลับถึงแล้วพามาหาแม่ด้วยนะ!” คุณสายหยุดจ้องมองใบหน้าของเด็กสาวอย่างพิจารณา ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
“ครับแม่” มังกรตอบรับอย่างนุ่มนวล แต่ในใจเขารับรู้ถึงแรงกดดันนี้อย่างเต็มเปี่ยมเมื่อเห็นใบหน้าของพลอยนภัสที่มองมา
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่นะครับแม่”
“โอเคจ้า ยินดีด้วยนะลูก! ยินดีที่ได้รู้จักหนูพลอยนะจ๊ะ” เสียงของคุณแม่ยังเต็มไปด้วยความปลื้มปริ่ม ก่อนสายจะวางลง
“สวัสดีค่ะ คุณแม่” พลอยนภัสยกมือไว้คุณสายหยุดอีกครั้ง ก่อนที่หญิงสูงวัยจะโบกมือลา
ทันทีที่แสงจากหน้าจอมือถือดับสนิท ความเงียบก็เข้าปกคลุมห้องสวีทราวกับมีมนต์สะกด เหลือเพียงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผสานเข้าหากันอย่างลงตัว...
“พี่กร!!!...ทำไมไปบอกคุณแม่ของพี่แบบนั้นล่ะคะ!” พลอยนภัสทำลายความเงียบนั้นด้วยการเอ่ยคำถาม มังกรลดมือถือลง ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจของเขาปะทะกับกลิ่นครีมอาบน้ำและแชมพูจากผิวของเธอ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวพลอยนภัสกระตุ้นให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
“พลอยไปอาบน้ำต่อเถอะ ผมเปียกนาน ๆ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” น้ำเสียงของเขาฟังดูเป็นห่วง แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความต้องการที่ยากจะปิดบัง
“มันคืออะไรเหรอคะ...พี่กร พลอยไม่เข้าใจ ทำไม่พี่บอกคุณแม่ไปแบบนั้น” เสียงของเธอเบาหวิว ราวกับกำลังรอคำตอบที่ชัดเจน แต่แล้วเด็กสาวก็ต้องผิดหวัง พร้อม ๆ กับเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ลุ่มลึกกว่านั้นภายใต้ดวงตาคมกริบของชายหนุ่ม
“พลอยไปอาบน้ำให้เสร็จก่อนเถอะ ออกมาเดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง” เขาตอบอย่างเด็ดขาดราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ยืดยาวไม่สามารถเล่าให้จบได้ในคราวเดียว แต่คำพูดนั้นก็แฝงไปด้วยความจริงใจที่อ่อนโยน ดวงตาคู่สวยยังคงสั่นไหวเมื่อมองใบหน้าของเขา
“แล้วเสียงเตือนภัยที่ดังเมื่อกี้ล่ะคะ มันเกิดอะไรขึ้นด้านนอกหรือเปล่า” เด็กสาวเอ่ยถามแม้ว่าเสียงเตือนภัยจะเงียบไปแล้วก็ตาม
“อ๋อ... ไม่มีอะไรหรอก น่าจะเป็นสัญญาณเตือนภัยที่มันขัดข้อง เดี๋ยวเค้าก็คงประกาศขอโทษเองแหละ...พลอยไม่ต้องตกใจไปหรอก เมื่อคืนมันก็ดังแบบนี้แหละ” มังกรตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขบขันที่มีเสน่ห์ เมื่อเห็นเรือนร่างที่บอบบางของเด็กสาวตรงหน้า
“พี่ช่วยเตรียมคำตอบเอาไว้ด้วยนะคะ พลอยอยากรู้” เด็กสาวรีบบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปยังห้องนอนของเขาอีกครั้ง
ระหว่างที่พลอยนภัสเข้าไปทำธุระส่วนตัวต่อ เสียงประกาศของโรงแรมก็ดังขึ้นเพื่อขออภัยในความไม่สะดวกถึงสาเหตุที่ระบบสัญญาณเตือนภัยที่ขัดข้องเมื่อสักครู่
ไม่นานนักพลอยนภัสก็เดินออกมาในชุดนอนผ้าซาตินสีชมพูอ่อน เสื้อเป็นเชิ้ตแขนสั้นคอปกที่ดูสุภาพ พร้อมกางเกงขาสั้นเหนือเข่า แต่เมื่อมันมาอยู่บนเรือนร่างของเธอ มันกลับไม่ได้ดูเรียบร้อยอย่างที่ควรจะเป็นเลย
“หนูพร้อมแล้วค่ะ” มังกรจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แววตาคมกริบของเขาทำให้พลอยรู้สึกวาบหวามไปทั่วร่าง กระดุมเม็ดเล็ก ๆ ที่เรียงลงมา เนื้อผ้าซาตินที่นุ่มลื่นแนบไปกับเนินอกที่อวบอิ่มอย่างพอดิบพอดี ขณะที่กางเกงขาสั้นทรงสบาย ๆ ก็เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนที่งดงาม
“ผมพลอยยังไม่แห้งเลย ให้พี่ไดร์ให้ก่อนมั้ย” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและนุ่มนวลแต่ฟังดูแปลก ๆ เธอจะไว้ใจเขาได้หรือเปล่านะ คืนนี้!!!...สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พลอยนภัสคิดมาก เธอทำท่าลังเล และจะไม่ยอมให้เขาใกล้ชิดไปมากกว่านี้
“นั่งลงสิ... ถ้ายอมให้พี่ไดร์ผม พี่จะเล่าให้ฟัง” พลอยนภัสสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะยอมนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอย่างเงียบ ๆ
มังกรหยิบผ้าขนหนูที่แขวนไว้ใกล้ ๆ แล้วเดินอ้อมไปอยู่ข้างหลังเธออย่างช้า ๆ มือหนาแตะลงบนไหล่บอบบาง ก่อนจะบรรจงใช้ผ้าขนหนูเช็ดซับผมให้เธออย่างอ่อนโยน ความใกล้ชิดที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดจากตัวเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว
“ที่พี่ต้องบอกแม่ไปแบบนั้น...” เสียงของเขากระซิบอยู่ข้างใบหู พลอยรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดผิวจนขนลุกซู่
“พี่ไม่อยากให้พลอยเสียหาย เราอยู่ในห้องกันสองต่อสอง ไม่ให้บอกเป็นแฟนใครเขาจะเชื่อล่ะ จริงมั้ย” เขาพูดช้า ๆ ดวงตาของเขานิ่งลึกจนเธอไม่กล้าสบ แต่สัมผัสจากมือที่กำลังเช็ดผมกลับอ่อนโยนเหลือเกิน
“แล้ว... ถ้าท่านรู้ทีหลัง ท่านจะโกรธมั้ยพี่มั้ยคะ” น้ำเสียงของเธอเบาหวิวเหมือนกลัวว่าจะได้ยินคำตอบที่ทำร้ายจิตใจ
มังกรหยุดมือที่กำลังทำงาน แล้วเอาผ้าขนหนูไปแขวนเอาไว้ พลางหยิบไดร์หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมาเป่าผมให้เธอ ร่างหนายืนชิดแผ่นหลังของเธอ ก่อนจะยิ้มบาง ๆ อย่างมีเลศนัย
“ไม่โกรธหรอก ถ้าพลอยยอมคบกับพี่จริง ๆ” หัวใจของพลอยสะดุดวูบอย่างรุนแรง เธอรู้ดีว่าสายตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่แก้มแดงระเรื่อของเธอผ่านกระจก
“พี่กร!!! พูดแบบนี้จะล้อพลอยเล่นใช่มั้ยคะ” เธอพยายามหลบสายตา แต่ก็ทำไม่ได้
เขาหยิบเก้าอี้อีกตัวมานั่งด้านหลังเธอ ก่อนจะเพ่งมองใบหน้าของเธอที่แดงจัด ราวกับกำลังชื่นชมดอกกุหลาบแรกแย้ม ส่วนมือก็ยังคงถือไดร์เป่าผมของเธอ
“พลอยรู้อะไรมั้ย พี่เห็นพลอยตั้งแต่ที่ร้านน้ำหอมแล้ว ตอนนั้นพลอยยืนเลือกซื้อน้ำหอมอยู่นานมาก... จนพี่อยากเข้าไปทัก แต่ติดที่พี่กำลังคุยโทรศัพท์กับแม่อยู่ พอหันกลับมาอีกที พลอยก็หายไปแล้ว”
“อ๋อ ตอนนั้นพลอยน่าจะออกมาต่อแถวซื้อมาการองค่ะ” เธอเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างไม่ทันระวัง
“แล้วพี่ก็มาเห็นพลอยอีกครั้งในร้านอาหาร...” มังกรหัวเราะเบา ๆ เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นไหวในลำคอ
“พี่เลยเข้าสั่งอาหารในร้านนั้น เพื่อจะหาจังหวะเข้าไปทำความรู้จักกับพลอย”
“จนกระทั่งเกิดเรื่องนั้นใช่มั้ยคะ” เธอพูดด้วยเสียงเบาหวิวเหมือนกระซิบ ดวงตาของเธอช้อนมองเขาอย่างมีความหมาย
“ครับ จังหวะนั้นพี่ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไป”
“ถือว่าพลอยโชคดีที่เจอพี่....ไม่งั้นคงแย่แน่ ๆ เลย” เขาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าผากออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะวางไดร์เป่าผมลง
“พี่ก็ถือว่าตัวเองโชคดีเหมือนกัน ที่ได้เจอพลอยอีกครั้ง ที่ร้านอาหาร” เขาตอบทันทีโดยไม่คิด น้ำเสียงทุ้มต่ำและหนักแน่น จนพลอยหน้าแดงจัดจนแทบหลบไม่ทัน มังกรสบตาเธออยู่พักหนึ่ง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น