มหาภัยไสยศาสตร์

90.0K · จบแล้ว
คมพยัคฆ์
31
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มันคือดินแดนที่เต็มไปด้วยคนที่มีวิชาอาคมด้านไสยศาสตร์ ไม่มีใครรอดตายไปได้นอกจากคนที่มีวิชาอาคมแก่กล้าเท่านั้น "ทิว"ชายหนุ่มผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าเดินทางมากับพระธุดงค์ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นภัย

นิยายแฟนตาซีนิยายแอคชั่นนิยายสยองขวัญนิยายผจญภัยจอมมาร

ตอนที่1[หมู่บ้านตะเคียนทม]

มหาภัยไสยศาสตร์

ตอนที่ 1 

[หมู่บ้านตะเคียนทม]

ณ หมู่บ้านตะเคียนทม

หมู่บ้านตะเคียนทมเป็นหมู่บ้านที่อยู่แถบชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นพื้นที่เขตต่อแดนกันอยู่ระหว่างอำเภอขุขันธ์จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ทั้งสองอำเภอและสองจังหวัดนี้ คนต่างจังหวัดรู้จักกันดีว่าสองจังหวัดนี้เป็นที่เลื่องลือเกี่ยวกับเรื่องผู้คนที่มีวิชาอาคมคุณไสยและเวทย์มนต์ต่าง ๆ เพราะชาวบ้านที่นี่ได้รับการถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมและเวทย์มนต์ทั้งไสยศาสตร์ดำและไสยศาสตร์ขาวมาจากคนเขมรที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสองจังหวัดนี้ จนทำให้มีการใช้คุณไสยมนต์ดำทำคุณทำของใส่กัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านต้องเจ็บป่วยล้มตายกันอยู่เป็นประจำ และที่หมู่บ้านตะเคียนทมก็เช่นกัน มีชาวบ้านหลายคนที่ต้องเจ็บป่วยล้มตายด้วยอาการที่ผิดแปลกไปจากการเจ็บป่วยทั่วไป เพราะไม่ว่าจะรักษาหรือกินยาอย่างไรก็ไม่หาย คงเป็นเพราะพวกเขาโดนยาสั่ง หรือไม่ก็ถูกกระทำจากคุณไสยนั่นเอง บางคนก็ถูกของจนเป็นบ้าเป็นบอ บางคนก็ถูกเสน่ห์ยาแฝด และวิญญาณร้ายมาครอบงำจนตายบ้างก็มี เรื่องราวและความน่ากลัวที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านละแวกนี้ ต่างเกิดอาการหวาดกลัวจนไม่เป็นอันทำมาหากิน เพราะต้องคอยระวังตัวตลอดว่าจะเผลอไปทำอะไรผิดกับพวกคนที่มีวิชาอาคมและเวทย์มนต์หรือเปล่า ผู้ใหญ่อินทร์ที่เป็นผู้ใหญ่บ้านตะเคียนทมนั้นรู้เรื่องราวทั้งหมดมาโดยตลอดว่าตอนนี้ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ไม่รู้จะช่วยเหลือและแก้ไขอย่างไรดี วันนี้ผู้ใหญ่อินทร์กินข้าวเสร็จก็ออกมานั่งสูบยาที่ระเบียงบ้านเหมือนเคย ขณะที่นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ ก็มีเสียงคนเรียกขึ้นมา

"ผู้ใหญ่! ผู้ใหญ่อยู่หรือเปล่า?" เสียงเรียกที่ดังมาจากข้างล่างทำให้ผู้ใหญ่อินทร์ที่กำลังนั่งอยู่บนบ้านไม้ยกพื้น มุงด้วยสังกะสีเก่าคร่ำคร่าสนิมแดงฉานไปทั้งหลัง ต้องชะโงกหน้าออกไปดู

"ใครว่ะ มาเรียกแต่เช้าเชียว" ผู้ใหญ่อินทร์เอ่ยขึ้นมาระคนกับเสียงบ่นพึมพำ

"อ้าว! ไอ้ยอดเอง ข้านึกว่าใคร มีอะไรว่ะ มาหาข้าแต่เช้าเชียว มาขึ้นมาบนบ้านก่อน" ผู้ใหญ่อินทร์ เรียกไอ้ยอดขึ้นไปบนบ้าน ไอ้ยอดรีบก้าวขึ้นบันไดไปแล้วนั่งลงบนเสื่อกกเก่า ๆ ที่ปูไว้

"ว่าไงไอ้ยอด มาหาข้าแต่เช้าเชียว มีเรื่องอะไรรึเปล่า?" ผู้ใหญ่อินทร์รีบเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

"ลูกสาวผมนะสิผู้ใหญ่ มันเป็นอะไรไม่รู้ นั่งซึมไม่พูดไม่จากับใครเลย ข้าวปลาก็ไม่กิน บางทีมันก็หัวเราะ บางทีมันก็ร้องไห้ เหมือนคนเสียสติ ถามอะไรมันก็ไม่ไม่ตอบเลยสักคำ" ไอ้ยอดเอ่ยกับผู้ใหญ่อินทร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อผู้ใหญ่อินทร์ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับคิดหนักขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นก่อนจะเอ่ยกับไอ้ยอด

"ข้าว่า…ลูกสาวเอ็งน่าจะถูกคนทำของใส่มันแล้วละ เอ็งลองเล่าให้ข้าฟังสิว่าก่อนที่มันจะเป็นแบบนี้ มีใครมาหามันที่ บ้านบ้างรึเปล่า"

ไอ้ยอดนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดทบทวนว่ามีใครมาที่บ้านบ้าง

"มีครับผู้ใหญ่ วันนั้นมีพวกหนุ่ม ๆ สองคนมาก็ไอ้เดชกับไอ้มิ่งนั่นแหละ มันมาหานางยิ้มลูกสาวข้า ไอ้เดชมันชอบลูกสาวข้าแต่นางยิ้มมันไม่ชอบเพราะไอ้เดชมันไม่ทำงานทำการ วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเตร่กินเหล้าเมายาตีไก่เล่นไพ่ไฮโล มันก็เลยไม่พอใจที่ลูกสาวข้าไม่รักไม่ชอบมัน" ไอ้ยอดเล่าให้ผู้ใหญ่ฟัง ผู้ใหญ่อินทร์จึงรู้ได้ทันทีว่านางยิ้มคงถูกไอ้เดชทำของใส่เข้าแล้ว ถึงมีอาการเหมือนคนเสียสติอย่างนั้น

"อ๋อ เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ข้าว่านางยิ้มลูกสาวเอ็งถูกไอ้เดชทำของใส่เข้าแล้ว ถึงเป็นบ้าเป็นบออย่างนั้น"

"ใช่เหรอครับผู้ใหญ่ นี่มันกล้าทำขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าจริงอย่างที่ผู้ใหญ่ว่า ผมจะไปจัดการมันเอง ผมจะไปฆ่ามัน"

"เฮ้ย ๆ  ใจเย็น ๆ ก่อน เอ็งทำยังงั้นไม่ได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแปมีกฎหมาย ข้าว่าเอ็งไปหาอาจารย์ที่มีวิชาอาคมมาแก้คุณไสยให้มันก่อนจะดีกว่า แถว ๆ บ้านเราก็ยังพอหาอาจารย์ได้ แต่ถ้าไม่มีใครช่วยก็ต้องไปหาอาจารย์บุญที่บ้านจันลึกโน่น เห็นคนเขาบอกว่าแกเก่งเรื่องแก้คุณไสย เอ็งรีบไปเดี๋ยวนี้เลยชักช้าเดี๋ยวจะไม่ทันกาล" ผู้ใหญ่อินทร์เอ่ยกับไอ้ยอดด้วยสีหน้าวิตกกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เรื่องราวในอดีตของอาจารย์บุญ

อาจารย์บุญหรือนายบุญในอดีตนั้นพื้นเพเป็นคนอำเภอบัวเชดจังหวัดสุรินทร์ ในวัยหนุ่มนายบุญเป็นคนขยันขันแข็งช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาไม่ชอบการเที่ยวเตร่เฮฮากินเหล้าเมายา  หลังจากผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว ทางพ่อแม่ก็ให้นายบุญบวช นายบุญบวชเรียนอยู่หลายพรรษาในระว่างที่บวชก็ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมต่าง ๆ จากหลายเกจิอาจารย์ทั้งที่เป็นพระสงฆ์และฆราวาส จนมีวิชาอาคมแก่กล้าหลังจากสึกมาทิดบุญก็แต่งงานอยู่กินกับสาวสวยในหมู่บ้านที่ชื่อพร จนมีบุตรด้วยกันสองคน บุตรคนโตเป็นชายชื่อใบ บุตรสาวคนเล็กชื่อเพ็ญ หลังจากที่บุตรชายคนโตแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ย้ายไปอยู่กับภรรยาที่จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนบุตรสาวคนเล็กหลังจากเรียนจบ ม. 6 แล้ว ด้วยความที่ทิดบุญเป็นห่วงลูกสาวเกรงว่าจะถูกพวกหนุ่ม ๆ ทำเสน่ห์ทำของใส่ ทิดบุญจึงส่งลูกสาวไปอยู่กับยายบัวที่เป็นพี่สาว เพราะยายบัวได้ย้ายไปอยู่กับสามีที่จังหวัดนครราชสีมาหลายปีแล้ว เพ็ญจะกลับมาเยี่ยมบ้านก็แค่ตอนช่วงมีงานเทศกาลเท่านั้น

ขอย้อนกลับมาทางด้านผู้ใหญ่อินทร์กับไอ้ยอดต่อ

เมื่อไอ้ยอดได้ยินที่ผู้ใหญ่อินทร์บอกให้ไปหาอาจารย์บุญอย่างนั้น ไอ้ยอดก็รีบขอตัวลาผู้ใหญ่กลับบ้านทันที เพราะจะรีบกลับไปบอกนางศรีผู้เป็นเมีย 

"ขอบคุณมากครับผู้ใหญ่ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ จะรีบไปบ้านอาจารย์บุญก่อน ป่านนี้ลูกสาวผมเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"

"เออ ๆ รีบไปเถอะ"

ไอ้ยอดยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่อินทร์แล้วรีบลงจากบ้านไป ไอ้ยอดไปถึงบ้านนางศรีผู้เป็นเมียก็รีบเอ่ยถามผัวขึ้นมาด้วยอาการร้อนรน

"พี่ยอด! ผู้ใหญ่ว่ายังไงบ้าง?"

"ผู้ใหญ่ว่าลูกสาวเราถูกไอ้เดชมันทำของใส่ว่ะ ข้าก็คิดอยู่เหมือนกัน ผู้ใหญ่บอกให้ข้าไปหาอาจารย์บุญที่อยู่บ้านจันลึกมาแก้คุณไสยที่มันทำใส่ลูกเรา" ไอ้ยอดเอ่ยกับนางศรีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"ใช่! พี่ยอด เห็นคนลือกันว่าอาจารย์บุญแกเก่งเรื่องแก้คุณไสย" นางศรีเอ่ยกับไอ้ยอดผู้เป็นผัว

"เออใช่! ข้ามัวแต่ตกใจเป็นห่วงลูกจนคิดอะไรไม่ออก นี่ดีนะที่ผู้ใหญ่อินทร์แกบอก  งั้นเดี๋ยวข้าไปหาอาจารย์บุญก่อนนะ เอ็งอยู่บ้านก็ดูแลลูกด้วยละ อย่าให้มันออกไปไหน"

"จ้ะ พี่ยอดพี่รีบไปเถอะ" 

ไอ้ยอดลงจากบ้านได้ก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าคันเก่า ๆ แล้วขี่ไปบ้านอาจารย์บุญทันที จากบ้านตะเคียนทมไปบ้านจันลึกก็ไกลพอสมควร ไอ้ยอดขี่มอ

เตอร์ไซค์ไปได้ประมาณเกือบชั่วโมงก็มาถึงบ้านอาจารย์บุญ  เสียงรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นเข้าไปจอดที่หน้าบ้าน ทำให้ยายพรเมียอาจารย์บุญที่กำลังนั่งตำหมากอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้านไม้ยกพื้นได้ยินก็รีบเดินออกไปดู

"อ้าว! ไอ้ยอดเองเหรอข้านึกว่าใคร มีอะไรหรือเปล่ามาแต่เช้าเลย" ยายพรเอ่ยถามไอ้ยอดขึ้นมาด้วยความสงสัย

"สวัสดีครับยาย อาจารย์บุญอยู่หรือเปล่า?" ไอ้ยอดยกมือไหว้ยายพรก่อนจะถามถึงอาจารย์บุญ

"อ๋อ…อยู่ เห็นแกเดินไปที่คอกควายทางสวนหลังบ้านโน่น สงสัยไปเอาฟางให้วัวให้ควายกินมั้ง" ยายพรบอกไอ้ยอด พร้อมกับชี้ไปที่สวนหลังบ้าน

"ว่าแต่เอ็ง มีธุระอะไรกับตาบุญรึเปล่า ดูสีหน้าท่าทางไม่ค่อยดีเลย" ยายพรเอ่ยถามไอ้ยอดด้วยความอยากรู้

"ก็นางยิ้มลูกสาวผมนั่นแหละมันถูกไอ้เดชทำของใส่ เป็นบ้าเป็นบอไปแล้ว"

"อ้าว! อีกแล้วเหรอ ไอ้พวกนี้มันไม่ทำงานทำการวัน ๆ หาแต่เรื่องเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เดี๋ยวทำของใส่ผู้หญิง ลูกสาวใครไม่ชอบมันก็ทำของใส่เขา จนเป็นบ้าเป็นบอ บางคนก็กลัวต้องยอมให้ลูกชอบมันทั้ง ๆ ที่ไม่เต็มใจ แต่พอมันได้เป็นเมียแล้วมันก็ทิ้ง เลวจริง ๆ เมื่อสองวันก่อนก็มีคนพาลูกสาวมาหาตาบุญก็เป็นเหมือนกับลูกสาวเอ็งนี่แหละ" ยายพรเอ่ยกับไอ้ยอด แล้วเหลือบไปเห็นอาจารย์บุญเดินมาพอดี

"นั่นไงตาบุญมาแล้ว" ยายพรหันไปบอกไอ้ยอด

"สวัสดีอาจารย์" ไอ้ยอดยกมือไหว้อาจารย์บุญอย่างนอบน้อม

"อ้าว! ไอ้ยอด ไปยังไงมายังไงว่ะ วันนี้มาหาข้าแต่เช้าเลย" อาจารย์บุญเอ่ยถามไอ้ยอดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า

ไอ้ยอดจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์บุญฟังเมื่ออาจารย์บุญได้ฟังก็นิ่งเงียบขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นเหมือนคนกำลังคิดหนักแล้วถอนหายใจยาวก่อนจะเอ่ยกับไอ้ยอด

"เฮ้อ! ไอ้เดชอีกแล้ว ไอ้นี่สร้างแต่ความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ไอ้เดชมันชักเหิมเกริมใหญ่เพราะไม่มีใครทำอะไรมันได้ทำของใส่ใครถ้าไม่เป็นบ้าเป็นบอ ก็ตายไปเลย พอเรื่องเกิดก็มีแต่คนวิ่งหาอาจารย์ไปแก้ให้ พอแก้ได้แล้วเรื่องก็เงียบ แก้ไม่ได้ก็ตาย จะไปแจ้งความเอาผิดกับมันก็ทำไม่ได้การปล่อยของใส่คนมันไม่มีหลักฐาน เป็นเหมือนลมพัดอยู่กลางอากาศ ปัญหาจึงไม่จบไม่สิ้น มันก็เลยได้ใจทำของใส่คนอื่นต่อไปเรื่อย ๆ  เราไปแก้กันแต่ที่ปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือตัวไอ้เดชนี่แหละที่เราแก้ไม่ได้" อาจารย์บุญเอ่ยขึ้นมาอย่างมีเหตุผล ทำให้ไอ้ยอดรู้ว่าปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ตัวไอ้เดชคนเดียวที่ต้องจัดการไม่อย่างนั้นเรื่องไม่จบแน่นอน

"ใช่อาจารย์ ผมว่าทำยังไงจะกำจัดไอ้เดชได้ ถ้าเราจัดการกับมันไม่ได้ชาวบ้านก็จะเดือดร้อนอยู่อย่างนี้ตลอดไป" ไอ้ยอดเอ่ยกับอาจารย์บุญด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"นี่แหละที่ข้ากำลังคิดอยู่ ไม่งั้นเรื่องก็คงไม่จบ แต่จะทำอย่างไรกับมันเท่านั้นเอง การจะไปฆ่ามันก็ผิดกฏหมาย เห็นเขาว่าอาจารย์ของมันเป็นคนเขมรมาจากกัมพูชา มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก"

"ผมว่า…เรื่องจะจัดการไอ้เดชพักไว้ก่อนดีกว่าอาจารย์ ตอนนี้ไปช่วยลูกสาวผมก่อนจะดีกว่า ก่อนที่มันจะเป็นบ้าเป็นบอแก้ผ้าวิ่งหนีไปทั่ว" ไอ้ยอดเอ่ยกับอาจารย์บุญด้วยความเป็นห่วงลูกสาว

"เออ ๆ งั้นเดี๋ยวข้าไปเอาของกับย่ามก่อน รอเดี๋ยวนะ" อาจารย์บุญรีบลุกขึ้นจากแคร่แล้วเดินขึ้นไปบนบ้าน สักครู่ก็เดินกลับมาพร้อมกับสะพายย่ามสีขาวใบใหญ่มาด้วย

"ไปกันเถอะ เออยายพร…แกเอาน้ำไปให้วัวให้ควายกินด้วยนะ ข้ายังไม่ได้ให้มันเลย ข้าต้องรีบไปกับไอ้ยอดก่อน" อาจารย์บุญหันไปบอกยายพร ก่อนจะเดินไปขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ที่ไอ้ยอดสตาร์ทเครื่องรออยู่ แล้วทั้งสองก็พากันขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปอย่างเร่งรีบ ไม่นานพวกเขาสองคนก็มาถึงบ้าน อาจารย์บุญกับไอ้ยอดรีบก้าวขึ้นบันไดไปบนบ้านทันทีที่ขึ้นไปถึงก็เห็นนางยิ้มลูกสาวไอ้ยอดนั่งทำตาเหม่อลอยไปข้างหน้า หน้าตาดำคล้ำผมเฝ้ายุ่งเหยิง บ่งบอกถึงลักษณะของคนถูกกระทำด้วยคุณไสยมนต์ดำอะไรบางอย่าง

"นี่แหละอาจารย์นางยิ้มมันเป็นแบบนี้มาสองสามวันแล้ว" ไอ้ยอดเอ่ยกับอาจารย์บุญ ที่กำลังนั่งพิจารณาดูอาการลูกสาวไอ้ยอดอยู่

"มันถูกของที่ทำให้เป็นบ้า ถ้าปล่อยไว้นานมันจะเดินไปทั่ว เพราะของจะพามันไป ข้าวปลาก็ไม่ยอมกินพอนาน ๆ เข้าร่างกายก็ขาดน้ำขาดอาหารในที่สุดก็ต้องตาย" อาจารย์บุญเอ่ยกับไอ้ยอดและนางศรีด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

"แล้วจะแก้ยังไงละอาจารย์ รีบช่วยลูกผมด้วยเถอะ ผมไม่อยากให้มันตายยังไงมันก็ลูกผม" ไอ้ยอดเอ่ยกับอาจารย์บุญด้วยสีหน้าวิตกกังวล ขณะที่พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีญาติพี่น้องของไอ้ยอดและพวกชาวบ้านพากันเดินขึ้นมาบนบ้าน 

"สวัสดีอาจารย์" 

"สวัสดีจ้ะอาจารย์"

"สวัสดีครับอาจารย์" พวกชาวบ้านพากันยกมือไหว้อาจารย์บุญ ก่อนจะพากันนั่งลงบนเสื่อกกผืนเก่า ๆ