ตอนที่ 1 (2)บนเตียงคนไข้
"สิบแปดปี"
"ห๊า!" ธาดาเด้งตัวกลับมาอยู่ในท่ายืน แบบนี้เขาจะเจอข้อหาพรากผู้เยาว์ไหมเนี่ย คิดว่าหน้าเด็ก ไม่คิดว่าอายุจะยังเด็ก เธอมองเขากะพริบตาปริบ ๆ
"แล้วเรียนที่ไหน"
"เรียน? ท่านหมายถึงเรียนอ่านเขียนหรือเรียนฟันดาบดอกรึ แม่หญิงไม่ได้เรียนดอก แต่ข้าจะเรียนปักผ้า ร้อยมาลัย ทำกับข้าวเสียมากกว่า" ปรางตอบเขาแบบขำ ๆ เธออยากเรียนขี่ม้า แต่ท่านพ่อไม่ให้เรียน น้ำเสียงของหญิงสาวแปรเปี่ยนเป็นสดใสน่าฟังยิ่งขึ้น เมื่อครู่เธอคงจะกลัวเพราะเธอดูเกร็ง ๆ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาที่อยู่ใกล้จนจะสิงร่างของเธอกันแน่
"ดูหนังโบราณมากไปหรือเปล่าหนู ป่วยใช่ไหม" หมอธาดาชักหมดความอดทน ถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเสียที
"หนังรึ หนังสัตว์รึ หนังหนูรึ ข้าไม่ได้ป่วยหนาท่าน"
"ไม่ป่วย แล้วทำไมพูดจาไม่รู้เรื่องเลย ผมเป็นหมอ ผมอยากช่วยหนูนะ นี่หนูหนีออกจากบ้านมาใช่ไหม งั้นมีเพื่อนบ้างไหม ถ้าไม่อยากให้บอกที่บ้าน งั้นเอาเบอร์เพื่อนมา" อายุสิบแปด เด็กวัยรุ่นคงจะทะเลาะกับที่บ้านเลยคิดหนีออกจากบ้านสินะ ปัญหาเด็กสมัยนี้ เขายื่นสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดให้เธอเพื่อกดเบอร์โทรโทรหาเพื่อน
"อะไรหรือท่าน ว้าย! มีแสงด้วย"
"เฮ้ย!!" เธอโยนโทรศัพท์เขาทิ้งต่อหน้าต่อตาเขา เล่นแรงไปแล้วนะ หมอจะไม่ทน หึ่ม!
"ทำบ้าอะไร! รู้ไหมว่ามันสำคัญมากแค่ไหน เล่นอะไรของเธอเนี่ย" เขาตวาดใส่เธอที่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง
"ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้ากลัวมันดูดข้าเข้าไป ฮือ ๆ"
หึ ดูด เขาสิจะดูดปากเธอ พูดจาไม่รู้เรื่อง ยัยเพี้ยน เพราะเธอร้องไห้เขาเลยต้องสงบอารมณ์ลง
"มันไม่ดูด มันดูดไม่ได้ ไม่ต้องร้องนะ งั้นก็อยู่ที่โรงพยาบาลให้หายดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน"
เขากอดปลอบเธอ เพิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้ใส่เสื้อในก้อนเนื้อนุ่มนิ่มของเธอเบียดเสียดอกแกร่งของเขาผ่านเนื้อผ้าบาง ๆ ธาดาแทบหายใจติดขัด จะหอม จะนุ่มนิ่มไปทั้งตัวไม่ได้นะ เขาทนกอดปลอบเธอจนหลับไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นความอดทนที่ทำลายพลังงานในร่างกายไปจำนวนมาก
ได้เวลาเลิกงาน ธาดาต้องอยู่เวรต่อ เพราะจะอยู่ดูอาการของหญิงสาว คนไข้ที่แปลกประหลาดของเขา น้ำฝนรอกลับด้วย เพราะเธอดันไปโม้กับเพื่อนพยาบาลสาวคนอื่นว่าวันนี้เธอกลับกับหมอธาดา เมื่อรออยู่นานแล้วไม่มีวี่แววว่าหมอธาดาจะลงมาจากตึกเสียที จึงขึ้นมาตามที่ห้องคุณหมอ เคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะเปิดเข้าไป
"ลืมนัดของเราเหรอคะหมอ น้ำฝนรอตั้งนาน" น้ำฝนเดินเข้ามาใกล้เบียดสะโพกเข้าไปนั่งบนตักแกร่งของเขา น้ำฝนทั้งบดทั้งบี้สะโพกเข้าหาตรงกลางหว่างขานายแพทย์หนุ่มใหญ่ และเหมือนว่ามันจะรู้สึกตัว เเพราะว่ามันกระตุกตอดจนปวดตุสู้กับก้นงอนของนางพยาบาลช่างยั่ว
"ไม่ลืมหรอก แต่วันนี้ผมต้องค้างที่นี่เพื่อดูอาการคนไข้ที่ชื่อปราง" น้ำฝนเบะปากไม่ชอบใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อค้างที่นี่ เธอก็ขอสานต่อที่นี่แล้วกัน น้ำฝนยกนิ้วเรียวกรีดกรายลงมาตามแนวกระดุม เธอปลดกระดุมเสื้อออกจากรังดุมช้า ๆ อ้อยอิ่ง เพื่อยั่วตบะอีกฝ่าย
"แน่ใจนะ" คุณหมอธาดาถาม พยาบาลผงกศีรษะรับอย่างไว ริมฝีปากเรียวรู้งานรีบฉกลงมาบนปากหนานุ่มของนายแพทย์หนุ่มใหญ่ ใช้ลิ้นแทะเล็มโลมเลียขอบปากของเขาอย่างเชี่ยวชาญ ธาดาครางในลำคออย่างพึงพอใจผู้หญิงคนนี้ร้อนแรงได้ใจ เผยออ้าปากเพื่อให้อีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามา
"หมอคะ น้ำฝนอยากมากแล้วค่ะ" น้ำฝนบอกเจตนารมณ์ชัดเจน เสียงกระเส่าแหบแห้งคล้ายคนหิวน้ำ จับมือหมอขึ้นมาบีบหน้าอกที่มีขนาดเกินตัวของตัวเอง
"ใจเย็นคนสวย ห้องคนไข้ข้าง ๆ ว่างนะ" หมอก้มลงใช้ปลายลิ้นเลียวนเขี่ยหัวนมสีเปลือกมังคุดหยอดเย้าเล่น เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ลุกยืน ดึงเสื้อชั้นในลงและจัดระเบียบเสื้อผ้าหน้าผมลวก ๆ แล้วส่งสายตาเชื้อเชิญ ดึงเนกไทหมอเข้ามาใกล้
"ตามมานะคะ น้ำฝนจะรอ" เขายิ้มให้ แบบนี้เขาชอบ ถึงใจเขาเลยแม่พยาบาลสาว นายแพทย์เจ้าของไข้ลืมคนไข้ไปเสียสนิท ทั้งที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปดูอาการหญิงสาวหลังจากที่เธอทานข้าวเรียบร้อยแล้ว ป่านนี้คงหลับไปแล้วไว้กินพยาบาลคนนี้เสร็จแล้วค่อยเข้าไปดูอาการแล้วกัน
ห้องผู้ป่วยที่อุณหภูมิในห้องสิบเก้าองศาเซลเซียสแต่เม็ดเหงื่อกลับผุดขึ้นมาเหมือนเม็ดฝนก็ไม่ปาน ธาดาปล่อยให้น้ำฝนขย่มเขาอยู่ด้านบน เธอร้อนแรงและจุดติดง่าย เขาที่ยังมีเสื้อเชิ้ตติดกายแต่น้ำฝนสลัดทุกอย่างออกจากตัว เนื้อตัวเธอเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ มือเรียวคว้ามือหนานุ่มทั้งสองข้างมาจับที่เต้านมคัพดีของตัวเอง นำทางให้บีบขย้ำเต้าทั้งสองข้าง คุณหมอหนุ่มเป็นผู้ตามที่ดี
"อ่าซ์....เสียว แน่นที่สุด น้ำฝนชอบมาก" เสียงร้องของน้ำฝนไม่เบานัก ธาดากลัวว่าคนเดินผ่านไปมาจะได้ยินจึงส่งนิ้วชี้ให้เธอดูด
"ผมใกล้แล้วคนสวย อูย คุณไวไฟมาก" เขาเป็นฝ่ายยกสะโพกกระแทกอัดใส่ร่องรักเธอเอง รัวเร็ว เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดจึงไม่มีใครมั่วมาสนใจเสียงเตียงคนไข้กระแทกผนัง
"ที่รัก เอาอีกค่ะ เอาห. น้ำฝนแรง ๆ เลย อ่าซ์....." ต่างฝ่ายต่างกระตุกขึ้นพร้อมกัน น้ำฝนล้มตัวลงมานอนทับร่างสูงใหญ่ของนายแพทย์หนุ่มใหญ่ทั้งที่ท่อนเนื้อยังเสียบคาร่องรักของเธออยู่
"ลุกได้แล้วคนสวย" น้ำฝนอิดออดอยากต่ออีกรอบ หมอธาดาจับพลิกกายให้ลงมานอนข้าง ๆ ส่วนเขาลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ
"น้ำฝนมีถุงยางนะคะ คืนนี้น้ำฝนขอค้างด้วยได้ไหมคะ" เธอเสนอออกมายังไร้ยางอาย ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำ เรื่องบนเตียงของหมอธาดาสมคำร่ำลือจริง ๆ แซ่บ
"ผมต้องดูคนไข้ พอแค่นี้ก่อนนะ" หมอหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงคนไข้เดินเข้าห้องน้ำแต่งตัว
เสียงสั่นสะเทือนคล้ายถูกปืนใหญ่จากฝั่งศัตรูยิงถล่มข้ามกำแพงเมืองเข้ามา ปลุกให้หญิงสาวที่อยู่ห้องข้าง ๆ นอนไม่หลับ เกิดอะไรขึ้นกันนะ หญิงสาวข่มตาหลับ แต่พยายามเป็นรอบที่สิบก็ไม่เกิดผลไม่สำเร็จ จึงลุกเดินออกไปดูว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น
หญิงสาวร่างบางใช้เพ่งดวงตากลมโตมองลอดช่องผ่านประตูเข้าไปดู เห็นผู้หญิงนั่งเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ไม่ใช่นั่ง แต่แม่หญิงคนนั้นกำลังขย่มคนที่นอนอยู่บนเตียงต่างหากเล่า เธอจ้องมองอยู่นานจนแน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายกันแต่….พวกเขากำลังร่วมรักกัน มีเสียงซี้ดอ่าซ์ เล็ดลอดออกมา แม่หญิงคนนั้นเรียกคนที่เธอขย่มว่า...หมอ...
"หมองั้นรึ" หญิงสาววัยแรกแย้มไร้เดียงสาผู้ยังเป็นสาวพรหมจรรย์และอีกไม่กี่เพลาเธอจะเข้าพิธีแต่งงานตามขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณกับพี่หมื่นทิศ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอแอบดูอยู่นาน จนทั้งสองคนในห้องนั้นสำเร็จความใคร่ หญิงสาวจึงรีบซอยเท้าเดินหนีเข้าห้องผู้ป่วยของตนเองก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะรู้ตัวว่าถูกแอบดู การที่ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น ทำให้หญิงสาวเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นกับตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอร้อนรุ่มในร่างกาย สัมผัสได้ถึงความเปียกแฉะบริเวณจุดซ่อนเร้น ยกมือบางลูบไล้ตามเนื้อตัวผ่านผ้าบาง ๆ ของชุดคนไข้ แกะปมเชือกออกสอดมือบางเข้าไปในร่มผ้า ปัดผ่านยอดอกที่แข็งชูชันสู้นิ้วมือ ให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด
ในหัวสมองจินตนาการภาพร่วมรักที่เพิ่งเห็นผ่านตามาสด ๆ ร้อน ๆ และมโนภาพขึ้นมาว่าแม่หญิงที่นั่งขย่มอยู่ด้านบนคือตนเอง
"ข้าปั่นป่วนท้องเหลือเกิน ข้าเสียวเจ้าค่ะท่านหมอ อ่าซ์...." มือเรียวข้างหนึ่งบีบนวดคลึงทรวงอกรวมถึงยอกอกเล่นระบายอาการร้อนรุ่มในกาย ส่วนอีกข้างล่วงผ่านกางเกงผ้า ใช้นิ้วกลางสอดเข้าช่องแคบแน่น หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อดันนิ้วเข้าไปมากขึ้นมันทำให้เจ็บแปลบ ทั้งแน่น ทั้งเสียว โดยเฉพาะตอนบี้ขยี้ติ่งเสียว
อ่าซ์....
หญิงสาวเร่งจังหวะนิ้วตัวเองเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน แม้จะทุลักทุเลเพราะไม่เคยมาก่อนในชีวิต
"ปราง" เสียงเข้มดังขึ้นมาจากประตู ทำให้ร่างบางสะดุ้งตกใจสุดตัว เขามาได้อย่างไรทั้งที่เขาอยู่ในห้องกับแม่หญิงคนนั้น เจ้าของชื่อทำตัวไม่ถูก ความเสียวความวาบหวิวในร่างกายยังไม่จางหาย เธอใกล้จะสุขสมแต่มีคนมาขัดจังหวะเสียก่อนจึงต้องสำรวมกิริยาของแม่หญิงชาวกรุงศรีเอาไว้ หญิงสาวสอดตัวเองเข้าไปในผ้าห่ม พลิกกายหันหลังให้เขา
"เอ่อ ข้า...." อับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ทำเรื่องน่าอับอายประจานตนเอง และเธอยังมโนภาพเป็นเขากับเธอที่กำลังร่วมรักกัน แถมยังร้องเรียกหาเขาเสียด้วยล
เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ ลมหายใจรินรดข้างแก้มนิ่ม หญิงสาวหลับตาปี๋ด้วยความกลัวและอายฝ
"ให้ผมช่วยไหม" หญิงสาวหันกลับมามองหน้าเขาช้า ๆ จากที่กลัวเขาตำหนิติเตียน แต่เขากลับมีน้ำใจอยากช่วยเหลืองั้นรึ
"ช่วยข้ารึเจ้าคะ ท่านช่วยข้าได้รึท่านหมอ"
"ผมเป็นหมอ ผมช่วยคุณได้อยู่แล้ว ให้ผมช่วยไหม" เขาหลอกเด็ก เอาความไร้เดียงสาของเธอมาเป็นเครื่องมือ หญิงสาวพยักหน้ารับ เธออยากหายจากอาการร้อนรุ่มแบบนี้
เมื่อได้รับการอนุญาตหมอธาดาไม่รีรอ รั้งร่างบางขึ้นมาแล้วจับยึดใบหน้านวลไว้มั่นก่อนแนบเรียวปากหนานุ่มลงบนเรียวปากบาง เธอมีอาการประหม่าเงอะงะ กระตุกเกร็งบางจังหวะ มีอาการกลัวในคราแรกแล้วค่อย ๆ ผ่อนลง เขาสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากแสนหวาน ดูดลิ้นเธอเอามาในปากเขา กลืนกินน้ำลายของเธอยังไม่นึกรังเกียจ ทั้งหอมทั้งหวานไปทั้งตัว
"รู้สึกดีไหม" เขากระซิบถามข้างใบหูขาว ปลดปล่อยให้หญิงสาวได้เติมอากาศเข้าปอด
"เจ้าค่ะ" เธอตอบรับอย่างเก้อเขิน ใบหน้านวลแดงเรื่อ
เขาไล้มือลงมาปลดเชือกที่ผูกเป็นปมออกจนหมดแล้วค่อย ๆ แยกสาบเสื้อออกจากกัน แสงสว่างจากไฟหัวเตียง ทำให้เขามองเห็นความสวยงามได้เต็มตา
"สวย กลม ตึงอะไรแบบนี้" มัวเมาลุ่มหลงในรูปกายตรงหน้า ก้มลก้มลงใช้ปากครอบยอดถันที่มีสีน้ำตาลจาง ๆ แทบกลืนไปกับผิวเนื้อ เขาไล่ดูดขบเม้ม จนเกิดรอยแดง แอบนึกโทษตนเองที่ทำให้ของสวยงามเกิดรอยตำหนิ
"ข้าเสียวเหลือเกินท่านหมอ" เธอบอกเขาเสียงหวานปนแหบ ฟังแล้วเซ็กซี่ยั่วกันดีเหลือเกิน นมเด็กอายุสิบแปด มันน่าฟัดเสียจริง ไม่ใหญ่ไม่เล็กกำลังพอดีมือ
มือที่ยังว่างดึงสายเชือกที่ผูกตรงขอบกางเกงออกช้า ๆ เขาลูบลงมาตรงเนินเนื้อสาวผ่านกางเกงผ้าสอดนิ้วมือเรียวยาวเข้าไปที่โคนขาอ่อน มันเปียกแฉะจนเขาสัมผัสได้นิ้วหัวแม่มือจัดการทักทายกลีบเนื้อเนียนบดบี้ติ่งเสียว จนร่างบางครางออกมาเสียงดัง
"เบา ๆ คนดี" หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน หวานฉ่ำจนเขาอดใจไม่อยู่เลื่อนเรียวปากขึ้นไปแลกลิ้นกับเธอ ครั้งนี้มันรุนแรงและเร่าร้อนขึ้นกว่าเดิม
นายแพทย์หนุ่มจับคนตัวเล็กถอดกางเกงสำเร็จ ร่างบางให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แล้วแยกขาเรียวออกกว้างเพื่อมองสิ่งสวยงามของเธอได้อย่างเต็มตา กลีบเนื้อสีแดงสดช่องทางรักของหญิงสาวยังปิดสนิทเหมือนไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน ชายหนุ่มใช้นิ้วเรียวปาดน้ำหวานขึ้นมาดูดเลียกินต่อหน้าเธอ สาวน้อยมองตาใสแป๋ว มองการกระทำของคุณหมอหนุ่ม เธอขัดเขินจนแสดงสีหน้าไม่ถูกได้แต่ก้มหน้าเก็บซ่อนความรู้สึก หากจะบอกให้เขาหยุด เธอเองก็รู้สึกเสียดาย
เขาแหย่นิ้วเข้าไปในร่องรักคับแน่นและเข้ายากเหลือเกิน พอเข้าไปลึกจนสุดทางและเตรียมจะชักนิ้วกลับ เธอกระตุกจับมือหนาไว้มั่น มองหน้าหมอหนุ่มอย่างสงสัย ร่องของเธอตอดนิ้วเขาตุบ ๆ
"เป็นอะไรครับ เสียวเหรอ"
เธอพยักหน้ารับ
"ผมจะทำให้เสียวกว่านี้อีก รับรองคุณจะนอนหลับฝันดีทั้งคืนเลย"
หมอหนุ่มรัวนิ้วเร็วขึ้น ไม่ปล่อยให้ปากว่างนานก้มลงดูดยอดอกอิ่มน้อย ๆ ร่างบางเสียวสะท้านโดนทั้งบนทั้งล่าง หญิงสาวแอ่นอกสู้ปากเขา
"หมอ!!! ข้าปวดเยี่ยว พอก่อนเจ้าค่ะ" เธอร้องขอเสียงหลง จะบอกปวดเยี่ยวก็ไม่ใช่แน่ มันไม่ไหวแล้วรีบดึงมือเขาออก
"หึ ๆ ปล่อยออกมาเลยคนดีไม่ต้องกลั้น มันจะทรมานมาก" เขาบอก แต่เธอกลัวเปื้อนจึงขอเข้าห้องน้ำ แต่เขาไม่ยอม ธาดานั่งคุกเข่าลงพื้นข้างเตียงคนไข้ด้วยความสูงเกือบ 190 เซนติเมตรของเขาจึงไม่ลำบากที่จะนั่งท่านี้
จับเรียวขาขาวแยกออกกว้างเกือบ 180 องศา มองกลีบเนื้ออวบอูมของคนบนเตียงคนไข้ด้วยสายตาอ่อนโยนระคนกระหายอยาก กระซิบบอกเธอปลดปล่อยออกมาเลย เขาจะเป็นคนดื่มกินเอง
ธาดาจุมพิตที่หัวเข่าเล็กของอีกฝ่ายไล้เรียวปากลงมาที่ต้นขาอ่อน อ่าซ์.... หอมไปทั้งตัวเลยแม่คุณทูนหัว ยิ่งเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ร่องรักที่มีแอ่งน้ำหวานเอ่อล้นออกมายิ่งได้กลิ่นหอมหวานรัญจวนใจยิ่งนัก กดจุมพิตบริเวณท้องน้อยต่ำกว่าสะดือบุ๋มแล้วใช้ลิ้นเลียวนรอบ ๆ แล้วลากลิ้นลงมายังเนินเนื้อสาว ช่องรักปิดสนิทเหมือนไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน
"ซี้ด...อ่า....ข้าเสียว" เธอส่งเสียงแหบกระเส่าบอกคนข้างล่าง เขาลงลิ้นเลียเน้นบนจุดที่ไวต่อความรู้สึก ดูดขบเม้มแรง ๆ จนเธอกระตุกตอบ แล้วระรัวเร็วจนร่างบางบิดเกลียวเพราะความเสียว
ความรู้สึกที่เขามอบให้ร้อนแรงไม่เคยสัมผัสจากใคร ของต้องห้ามที่ต้องสงวนไว้ให้ชายที่จะมาเป็นสามีเท่านั้น แต่วันนี้ข้าทำผิดมหันต์ หลงลืมคำแม่สอนปล่อยตัวปล่อยใจให้ชายแปลกหน้าได้เชยชม ปรางพร่ำขอโทษพี่หมื่นคู่หมั้นหนุ่มในใจ หากจะหยุดตอนนี้คงไม่ได้แล้วเธอมาไกลเกินกว่าจะหยุด
อ่าซ์...
สาวน้อยไร้เดียงสาบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นสาวร้อนแรง ด้วยความรู้สึกเสียวสยิว วาบหวิว หรืออารมณ์พาไป ลามปามยกมือบางกดหัวนายแพทย์หนุ่มให้ใบหน้าหล่อเหลาแนบไปกับกลางกายสาว ลิ้นหนาตั้งลำแข็งแหย่เข้าออกในร่องรัก น้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมา ธาดาดูดเลียกินจนหมดตามที่เขาได้พูดไว้
เขาเร่งจังหวะทั้งลิ้นทั้งปากต่างทำหน้าที่ของมัน เธอใกล้จะสุขสมแล้ว
"ข้าอั้นไม่อยู่แล้ว อ้าย!! เฮ้อ...." ร่างบางกระตุกสุดแรงเมื่อถึงฝั่งฝัน เอนตัวนอนราบไปกับเตียงคนไข้ ขาทั้งสองยังอ้าซ่าไร้เรี่ยวแรงจะขยับ บัดนี้ยางอายหลุดหายไปจากจิตสำนึกเธอเสียแล้ว
หมอหนุ่มยืนยิ้มกรุ้มกริ่มชื่นชมผลงานตัวเอง หญิงสาวยังสด ยังใหม่ เขาต้องถนอมเธอมากกว่านี้ ไว้รู้จักเธอให้มากกว่านี้ก่อนแล้วเขาจะเป็นคนแรกของเธอ ธาดาหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะหัวเตียงมาเช็ดปากลวก ๆ ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ
กลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูกับกะละมังใบเล็ก เธอหลับไปแล้ว หลับในท่าอ้าซ่า เปลือยเปล่า หมอหนุ่มจึงทำความสะอาดเนื้อตัวของสาวน้อยผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่และจัดท่านอนให้ก่อนออกจากห้องไป
พรุ่งนี้เราคงได้คุยกันยาว
เช้าวันถัดมา เขาขับรถกลับบ้านเพื่ออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้วขับรถเข้ามาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะคิดถึงคนไข้สาวของเขา เมื่อคืนเขานอนค้างที่โรงพยาบาลแต่ก็หลับไม่สนิท มัวแต่คิดถึงดวงหน้านวลและกลิ่นกายหอมของหญิงสาวแสนประหลาดคนนี้ ในความเป็นจริงธาดาไม่มีเวรตอนเช้า แต่ก็มา
ถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้องคนไข้ที่เมื่อคืน เพิ่งผ่านสมรภูมิรักอันเร่าร้อนมา เธอกำลังนั่งทานข้าวอยู่บนเตียงคนไข้ เงยหน้ามองที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงรบกวน พอรู้ว่าเป็นใครใบหน้านวลเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อขวยเขินเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา
"ช้อนมี ทำไมไม่ใช้" เขาถามอย่างสงสัย
"ข้าใช้ไม่เป็นเจ้าค่ะ" เธอตอบเขาอย่างอ้อมแอ้ม ไม่กล้าเงยหน้าสบตา เพราะยังเอียงอายเรื่องเมื่อคืนอยู่
"ปราง" เจ้าของชื่อเงยหน้ามองแต่ต้องหลบสายตาหวานฉ่ำ รู้สึกวูบวาบในอก หัวใจเต้นโครมคราม
"ไว้ใจผมไหม ผมจะช่วยคุณ ขอแค่บอกความจริงกับผม" ธาดาหย่อนก้นนั่งบนเตียงคนไข้เดียวกันกับเธอ
เขาไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์ความเป็นหมอแล้ว เมื่ออยู่สองคนกับเธอ เหตุการณ์เมื่อคืนก็น่าจะบอกอะไรได้หลายอย่าง
"ข้าบอกท่านไปหมดแล้ว คำพูดของข้าสัตย์จริงไม่โป้ปด ข้าอยากกลับบ้าน ท่านหมอช่วยพาข้ากลับได้หรือไม่เจ้าคะ"
"ได้ บ้านอยู่ไหน กรุงศรีอยุธยาใช่ไหม พรุ่งนี้จะพากลับ" ก่อนเขาจะลุกไป โน้มหน้าหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างด้วยความคิดถึงก่อนจะเดินออกจห้องไป
ผู้ป่วยจิตเวชหนีออกจากโรงพยาบาล เขาหาดูจนทั่วทั้งในกรุงเทพฯ อยุธยา ก็ไม่มีเลย ปรางคุณเป็นใครมาจากไหนกันนะ ชื่อจริง นามสกุล บัตรประชาชน ไม่มีอะไรสักอย่าง! แล้วจะพากลับบ้านยังไง
***************@@@@@@@@@@@@*****************