มนต์รักกลลวง

85.0K · จบแล้ว
NBSTER
79
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“เคยบอกแล้วไม่ใช่ไงว่าอย่าเสนอน้ำตามาให้เห็น?” ยิ่งเมื่อฉันไม่ตอบความแรงจากฝ่ามือของเขาก็ส่งมาเรื่อยๆ จนใบหน้าสวยเกรงบิดเบี้ยวเจ็บปวด “ฉะ ฉันเปล่าร้องไห้” “ชั้นตาบอดเหรอ?” น้ำเสียงทุ้มเค้นออกมาพร้อมแววตาที่ยากหยั่งถึงสี่พยางค์ตรงๆ ง่ายๆ ถูกส่งไป “หรือว่าเห็นว่าโง่?” “...” “ตอบมิชา” “โอ้ย!” นิ้วมือใหญ่บีบเค้นจิกลงบนเนื้อแขนของฉันสุดแรงและเป็นอย่างที่เขาอยากให้เป็นในเมื่อตัวฉันมันทนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่ไหวจนถึงต้องเปล่งเสียงร้องที่มีความเจ็บปวดออกมา “ฉันร้องไห้พอใจหรือยัง”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนางเอกเก่งรักหวานๆแก้แค้นมาเฟียโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกหนุ่มเจ้าสำราญวัยรุ่น

บทที่ 1 ไม่ให้ลืม

หญิงสาวที่มีรอยยิ้มดุจเทพธิดาผู้แสนน่ารักแฝงด้วยเสน่ห์น่าดึงดูด รอยยิ้มหวานเคลือบด้วยสีชมพูสดใสเหมือนเป็นแสงสว่างให้กับโลกกำลังใช้มือเล็กประคองเค้กก้อนพอประมาณที่มีเทียนรูปร่างสูงเพียงหนึ่งอันปักลงจุดศูนย์กลางของเค้กหน้าหัวใจสีแดงสดที่ด้านล่างมีตัวอักษรเล็กๆ ว่า I love you มันเป็นเสมือนดวงใจบวกกับความรู้สึกของทั้งสองคนรวมกัน

เธอจึงค่อยๆ เดินประคับประครองร่างกายให้เกิดเสียงน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มที่นั่งหันแผ่นหลังให้รับรู้ว่าเธอกำลังเดินมาจนกระทั่งไฟดับจนมองเห็นเพียงแค่สีดำสนิททว่าไม่นานนักไฟก็สว่างขึ้นพร้อมกับดวงตากลมโตสวยราวกับพระจันทร์เต็มดวงที่ใบหน้าโผล่พ้นเค้กครึ่งเดียว

“สุขสันต์วันเกิดนะคะ”

สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเรียกรอยยิ้มหวานของชายหนุ่มสีน้ำตาลอ่อน สายตาสีนิลดำจ้องมองเธออย่างไม่วางตาจนกระทั่งมือใหญ่เอื้อมออกไปยีศีรษะเล็กของหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดู

“…”

“เซอร์ไพร์สใช่ไหม?” เธอพูดพร้อมจ้องตากับเขา “แต่เราดีใจมากกว่าที่เซอร์ไพร์สได้สำเร็จ”

“ครับเซอร์ไพร์สมาก”

“รีบเป่าเค้กสิคะอย่ามัวแต่จ้องหน้าสิ” ถึงแม้จะมีประโยครั้งท้ายเป็นเชิงดุมันก็ไม่สามารถห้ามรอยยิ้มจากชายหนุ่มได้ รอยยิ้มที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากเพียงไหนในขณะนี้ “เอ้า รีบเป่าเลยนะแอล”

“…”

“อย่าลืมอธิฐานก่อนด้วยนะ”

“เร่งแบบนี้หิวเค้กใช่ไหมเนี่ย?”

“ใช่ค่ะ ยืนมองตั้งนานแล้วนะเนี่ย..” การไม่ปฏิเสธของเธอเรียกรอยยิ้มหวานอันแสนอบอุ่นของเขาอีกครั้ง “แต่ต้องรอให้เจ้าของเป่าก่อนถึงทานได้”

“งั้นเป่าเลย” เขาเป่าเทียนบนเค้กจากนั้นก็คว้าเธอเข้ามาในอ้อมกอดทันที นาทีนี้ไม่สนแล้วว่าเค้กจะเป็นอย่างไรในเมื่อหญิงที่อยู่ตรงหน้าสำคัญกว่าเป็นไหนๆ “ขอบคุณนะครับโบว์....”

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าสะท้อนเข้ากับม่านตาสีนิลดำที่กำลังจดจ้องอย่างไม่กระพริบสายตา มันดูเย็นชาตัดขั้วหัวใจอย่าบอกไม่ถูก เขาเหมือนอยากจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจแต่มันก็ทำไม่ได้จนกระทั่งน้ำใสๆ ค่อยๆ เคลื่อนไหวไหลออกจากหางตาช้าๆ

น้ำตาของลูกผู้ชาย...ที่กำลังนั่งมองภาพฉายแบบเคลื่อนไหวตรงหน้า ซึ่งไม่ว่าเขาจะดูกี่รอบกี่ทีจุดจบมันก็เหมือนเดิม

มันก็แค่ความทรงจำ....

ความทรงจำที่ผมอยากลืม....

และแน่นอนว่ามันต้องเกิดขึ้นในชีวิตของทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยและก็เกิดทุกช่วงเวลา มีไม่มากหรอกที่ผู้คนส่วนใหญ่จะเก็บความทรงจำที่ทำให้ตัวเองมีความสุข

แม้กระทั่งชีวิตจะผ่านไปช่วงเวลาไหนแล้วก็ตาม ความทรงจำเหล่านั้นก็ยังเป็นเหมือนแสงสะท้อนที่ทำให้คนเรามองเห็นตัวเองในจุดๆ นั้นที่เคยผ่านมา แต่บางคนก็อยากที่จะลืม ลืมความทรงจำอันแสนชั่วร้ายเหล่านั้นที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตให้มันผ่านพ้นไปนอกจากที่มันจะเป็นช่วงเวลาอันแสนทรมานเจ็บปวดไปทั้งร่างกายและจิตใจมันยังเกาะกัดกินจิตใจให้มันด่างดำจนแทบไม่มีเหลือเหมือนอย่างผม

“ลืมไม่ได้กูก็จะจำให้ขึ้นใจเอง”

รอยยิ้มที่ผุดขึ้นตรงมุมริมฝีปากหยักสวยได้รูปราวกับพระเจ้าช่างแต่งปั้นรับเข้ากับรูปร่างหน้าตาขาวผ่องถึงแม้จะมีผมสีดำสนิทเคลื่อนปกใบหน้าจนเกือบถึงดวงตาคู่สวยชั้นเดียวก็ไม่สามารถลดออร่าได้ยิ่งเมื่อมือใหญ่หยิบแว่นตาสีดำมาใส่ยิ่งขับจมูกโด่งเป็นสันเด่นขึ้นทันตา

สันกรามที่ไม่ว่ามองทั้งทางซ้ายทางขวาก็สามารถเรียกเสน่ห์ให้กับผู้คนที่พบเจอ มันช่างสมบูรณ์แบบไปหมดแต่น้อยคนนักที่จะรับรู้ว่าเขาเป็นชายคนเดียวกันกับในเครื่องฉายตรงหน้า

“จำไม่ให้ลืม”

ก็แน่นอนเรื่องมันตั้งสามปีผ่านมาอะไรในตัวผมมันก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน มากเหมือนต่างกันราวฟ้ากับก้นเหวลึกเลยล่ะเพราะผมเลือกที่จะอยู่ก้นเหวมากกว่าอยู่บนฟ้าเหมือนเมื่อก่อนไง หึก็แค่เนี่ยชีวิตจะเอาอะไรมาก ดีเกินไปก็ใช่ว่าจะได้ดีเสียหมดคนดีใช่ว่าจะชนะทุกอย่างได้ในเมื่อโลกนี้มันยังมีอีกด้านให้ได้เรียนรู้และใช้ชีวิตแล้วจะกลัวอะไรกันนักหนาล่ะจริงไหม?