บทที่ 1 จันทร์ฉาย (3)
“รถแท็กซี่ไง ไม่ต้องห่วง ถึงบ้านเดี๋ยวฉันโทรบอก” บอกเสียงห้วนเท่านั้น จันทร์ฉายจึงเอามือซุกเข้าในกระเป๋าเสื้อแล้วจากไปทันที
ส่วนวิสุทธิ์ที่มองตามหลังเพื่อนร่วมงานไป ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหนักใจกับอารมณ์พายุของจันทร์ฉาย ซึ่งมีสองบุคลิก
จากมุมมองที่วิสุทธิ์เห็นมาตลอดสองปีก็คือ เวลาปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับเฉพาะกิจ และควบด้วยงานหลักคือ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของทางโรงแรม จันทร์ฉายจะดูอ่อนหวาน เรียบร้อย น่ารัก ให้ความเป็นกันเองกับลูกค้า และเพื่อนร่วมงานทุกคน ทว่าเมื่อถอดชุดฟอร์มของพนักงานออกเท่านั้น
จันทร์ฉายจะกลายเป็นอีกคนที่ดูห้าว ลุย และสู้ชีวิต!
แต่นี่คือเสน่ห์อันร้ายกาจของเธอ...
ที่วิสุทธิ์แปลกใจก็คือ มีหนุ่ม ๆ มาคิดพันเพื่อนสาวของเขาตลอด อย่างรายล่าสุดก็คือ นายธวัช ซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารและเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาว ๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ดูเหมือนจันทร์ฉายจะไม่มีดวงเรื่องความรักสักเท่าไหร่ คบหากันกี่ราย ๆ ไม่เกินสามเดือนด้วยซ้ำ ต้องมีเหตุเป็นอันต้องเลิกรา เหมือนอย่างรายนี้
วิสุทธิ์ส่ายหน้าให้กับเพื่อนสาว ก่อนกลับมาทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง ทว่าเขาต้องชะงักไปเมื่อเห็นธวัชที่เพิ่งเช็คอินเข้าพักในโรงแรมเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เดินขาถ่างลงมาโวยวายใหญ่โตกับพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ในเรื่องที่ถูกพนักงานของทางโรงแรมทำร้ายร่างกาย!
“ผมไม่ยอมเด็ดขาด พนักงานของโรงแรมทำร้ายร่างกายผม!!”
“งานเข้าแล้วไง ยัยฉาย!!!” วิสุทธิ์ส่ายหน้า พลางเอามือกุมขมับทันที
จันทร์ฉายขยี้มวนบุหรี่กับที่เขี่ยซึ่งทางโรงแรมจัดไว้สำหรับลูกค้า พลางพ่นควันสีขาวออกจากปาก และตามมาด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความเครียดทำให้เธอหันหน้ามาพึ่งบุหรี่ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่แตะต้องของสิ่งนี้มานานมาก ยกเว้นจะอยู่ในสภาวะเครียดเท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อคืนนั่นเอง
ผู้จัดการเรียกตัวเธอเข้าพบ พร้อมทั้งสั่งพักงานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่าเธอทำร้ายร่างกายลูกค้า!
แต่ที่ทำให้เธอเครียดเป็นเพราะผู้จัดการไม่ฟังคำอธิบายของเธอ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มเท่านั้น!
“บ้าเอ๊ย!”
หญิงสาวสบถหัวเสียด้วยความเจ็บใจ ก่อนเตะกระป๋องน้ำอัดลมเปล่าที่ตกอยู่ในลานจอดรดเป็นการระบายอารมณ์ซะ กระป๋องเปล่ากลับลอยโด่งจากพื้นไปในทิศทางที่เธอไม่ต้องการ ส่วนรองเท้าคัทชูสีดำส้นสูงที่ใส่เพื่อเสริมบุคลิกนั้น ได้หลุดออกจากเท้าไปถูกใครบางคนเข้า!!!
“งานเข้า!!!”
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หน้าจืดจ๋อยขึ้นมาทันที เพราะรองเท้าเจ้ากรรมดันลอยลิ่วไปถูกหนุ่มต่างชาติที่เธอเจอเมื่อคืน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ก็เป็นลูกค้าระดับวีไอพีของทางโรงแรมที่เธอทำงานอยู่นั่นเอง!
คู่กรณีซึ่งเป็นชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีน้ำทะเลลึกทำหน้าไม่พอใจ ก่อนก้มเก็บรองเท้าส้นสูงเจ้าปัญหา แล้วพุ่งสายตามาที่เธอ
เพียงเท่านั้นจันทร์ฉายถึงกับชะงัก ก้าวเท้าไม่ออก...
แต่นั่นไม่ทำให้เธอลืมหายใจได้เท่ากับว่าลูกน้องผู้ติดตามทั้งสี่นาย ที่แต่งกายเหมือนนักธุรกิจ แต่ดูเหมือนมือปืนรับจ้างกรูเข้ามาหาเธอทันที
“ขอ... ขอโทษค่ะ ฉันไม่ตั้งใจ”
จันทร์ฉายรีบขอโทษขอโพยทันที อีกทั้งยกมือไหว้ชายหนุ่มซึ่งเป็นคู่กรณี แต่คนพวกนั้นกลับไม่ฟังเสียง ซ้ำยังเข้ามาหิ้วแขนทั้งสองข้าง ราวกับเธอเป็นนักโทษอีก!
“เฮ้ย ปล่อยฉันนะ!” จันทร์ฉายดิ้นขัดขืนทันที
แต่มันก็ไม่เป็นผลสักนิด!!!
หรือคนพวกนี้ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง?!
“ปล่อยเธอซะ”
เสียงทุ้มต่ำออกคำสั่งเป็นภาษาอิตาเลี่ยน ซึ่งหญิงสาวเข้าใจในคำพูดของเขา แต่เธอทำเป็นไม่สนใจ
“เธออาจเป็นคนของริคาโด้ก็ได้นะครับ” หนึ่งในบอดี้การ์ดค้านขึ้น อีกทั้งทำหน้าจริงจัง
“พวกนายคิดว่าเจ้าหมอนั่นจะสั่งผู้หญิงคนนี้เล่นงานฉันด้วยรองเท้าส้นสูงงั้นเหรอ?”
พอฟิลิปโป้ตั้งคำถามนี้ขึ้น บรรดาบอดี้การ์ดซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้เจ้านายจึงก้มหน้าลง
