บทที่ 1 จันทร์ฉาย (1)
จันทร์ฉายถึงกับตัวสั่น ควันออกหู ร้อนวาบขึ้นกลางอกเมื่อเพื่อนร่วมงานได้ส่งรูปถ่าย ธวัช แฟนหนุ่มที่เพิ่งตกลงปลงใจคบหากันได้เพียงเดือนเศษมาให้!
เป็นภาพที่ธวัชกำลังจูบหญิงสาวคนหนึ่งในผับอย่างดูดดื่ม แต่นั่นไม่ทำให้เธอโกรธเท่ากับ ธวัชพาผู้หญิงคนนั้นมานอนยังโรงแรมที่เธอทำงานอยู่!!!
“ทำแบบนี้ มันหยามหน้ากันชัด ๆ!” สาวห้าวขาลุย ที่มีใบหน้าหวาน แฝงความเซ็กซี่ ดูขัดกับบุคลิกทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธ
เธอโกรธ... จนควันออกหูเลยทีเดียว!!!
จันทร์ฉายรีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับเสื้อกล้ามรัดรูป คอกว้าง ก่อนมุ่งหน้าไปยังโรงแรมห้าดาวที่เธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และควบตำแหน่งด้วยตำแหน่งเจ้าหน้าที่ต้อนรับเฉพาะกิจทันที
พอผ่านประตูกระจกหมุนได้รอบทิศทางเข้ามา หญิงสาวจึงเจอหน้าเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนส่งรูปถ่ายมาให้ ดูว่าวิสุทธิ์และเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนที่ทำงานช่วงกลางคืนจะแปลกใจเมื่อพบหน้าเธอ
“เฮ้ย มาถึงที่นี่เลยเหรอฉาย?” วิสุทธิ์ทำหน้าตาตื่น เมื่อได้เห็นสีหน้าบอกบุญไม่รับของจันทร์ฉายซึ่งบุกเดี่ยวมาที่โรงแรมตอนตีสอง
“เออ เห็นภาพแล้วของขึ้น! ธวัชอยู่ห้องไหน?”
“ใจเย็นก่อนเถอะฉาย มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน”
“นายยังจะให้ฉันพูดดี ๆ กับธวัชอีกเหรอ เล่นจูบปากกันแบบนั้น ไม่ยงไม่เย็นแล้ว ถ้าไม่รู้ ไม่เห็นก็ว่าไปอย่าง นี่เพิ่งคบกันไมทันไร ก็ออกลายหางงอกแล้ว บอกฉันมา ไอ้ชั่วนั่นผสมพันธุ์อยู่ที่ห้องไหน?!”
วิสุทธิ์กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเต็มทนเมื่อเจออารมณ์พายุของจันทร์ฉาย หญิงสาวที่มีสองบุคลิก
“เราว่าเธอห่วงหน้าที่การงานของตัวเองบ้างดีกว่านะ อย่ามีเรื่องเลย เดี๋ยวผู้จัดการรู้เข้า จะซวยเอา” วิสุทธิ์ไม่วายเตือนสติด้วยความห่วงใย
“ถ้าไม่อยากให้ฉันตามมาเฉ่งเจ้าหมอนั่น แล้วนายส่งรูปมาให้ดูทำซากอะไรวะ?” จันทร์ฉายไม่วายเท้าสะเอวถามอย่างเอาเรื่อง
“ก็แค่... อยากเตือนให้เธอคอยระวังตัว” วิสุทธิ์อ้อมแอ้มตอบ
“นั่นสิ จะจับโจรก็ต้องมีหลักฐาน เพราะฉะนั้น บอกฉันมาว่า ธวัชอยู่ห้องไหน?”
เห็นดวงตาวาวโรจน์อย่างเอาเรื่องของจันทร์ฉายซึ่งได้รางวัลพนักงานดีเด่นของโรงแรม วิสุทธิ์จึงต้องบอกหมายเลขห้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่า การขัดใจจันทร์ฉาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะในยามที่แม่คุณ ‘ของขึ้น’ อยู่เช่นนี้!
พอบอกหมายเลขห้องพักไปแล้ว ชายหนุ่มไม่วายกำชับ “จะทำอะไรก็ใจเย็นนะเว้ย ค่อยพูดค่อยคุยกัน เราไม่อยากให้เธอเสี่ยงตกงานน่ะ”
จันทร์ฉายปรายตามองชายหนุ่ม แต่ไม่พูดอะไร
ซึ่งสายตาคมวาว ดูเอาเรื่อง และน่ากลัวกว่ายามปกติทำให้วิสุทธิ์ยิ้มแหยให้เท่านั้น พอจันทร์ฉายไปขึ้นลิฟต์แก้วแล้ว ชายหนุ่มจึงพ่นลมหายใจออกมาทางปาก ไม่วายบ่นพึมพำ
“ไม่น่าบอกเล๊ย”
ทางด้านจันทร์ฉายซึ่งกำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า รอลิฟต์แก้วอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ทุกอย่างดูช้าไม่ทันใจเธอไปเสียหมด
“มาซะทีสิ!” หญิงสาวเท้าสะเอว พลางกระดิกเท้าไปมา
จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เธอจึงรีบแทรกตัวเข้าไปทันที ทว่าในลิฟต์แก้วในตอนนี้ไม่ได้มีเธอคนเดียว แต่ยังมีหนุ่มชาวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าของทางโรงแรมอีกห้านาย...
ทุกคนแต่งกายดูเนียบ ราวกับนักธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่จันทร์ฉายรู้ได้ก็คือ ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ดูน่ากลัว!
พอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกคน ซึ่งแตกต่างจากคนอื่น ๆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ปลดประดุมที่คอ และสวมสูทสีกรมท่าไม่สวมเนกไท จันทร์ฉายถึงกับหัวใจกระตุกวูบขึ้นมา
จะบอกว่าตกตะลึงกับรูปโฉมของเขาก็ได้...
ดวงตาคมคายสีน้ำทะเลลึกแฝงฝังอำนาจได้สะกดให้เธอถึงกับตะลึงงัน และดูว่าหนุ่มต่างชาติรายนี้จะมีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยที่เขาเห็นหน้าเธอ
สิ่งหนึ่งที่จันทร์ฉายรู้ก็คือ เขามองเธออย่างเสียมารยาท สายตาคมคายหยุดที่คอเสื้อที่คว้านลึกของเธอ!
จันทร์ฉายกระชับเสื้อคลุมเข้าหากันแล้วก้มหน้าลงเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย เธออยากจะเข้าข้างตัวเองเหลือเกิน ว่าบุรุษผู้มีดวงตาสีน้ำทะเลลึกรายนี้ กำลังให้ความสนใจในตัวเธอ แต่ดูเหมือนเขาจะให้ความสนใจหน้าอกของเธอเท่านั้น พอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เขากลับเบือนหน้าหนีดื้อ ๆ
‘เจ้าคนเสียมารยาท’ หญิงสาวแอบบริภาษเขาในใจ
ความอึดอัดแทรกตัวเข้ามาประหนึ่งว่าเธอคือสิ่งแปลกปลอม ไม่เข้าพวก จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง คนทั้งห้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่และดูหน้ากลัวจึงก้าวออกไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม ซึ่งมีไว้สำหรับต้อนรับลูกค้าระดับวีไอพี และเป็นพวกเศรษฐีกระเป๋าหนักเท่านั้น
นั่นล่ะ จันทร์ฉายจึงรู้ตัวว่าเธอลืมกดหมายเลขลิฟต์!
“ให้ได้อย่างนี้เถอะ ยัยจันทร์ฉาย!” หญิงสาวงึมงำกับตัวเอง
รู้สึกว่าระดับความโกรธจะลดลงไปกว่าครึ่ง เมื่อได้พบหนุ่มหล่อชนิดไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว แต่พอนึกขึ้นได้ ว่าเธอต้องไปจัดการเรื่องธวัช
ต่อมความโกรธจึงทำงานขึ้นมาอีกครั้ง!!!
หญิงสาวกดปิดลิฟต์แก้ว แล้วมุ่งหน้าไปยังชั้นที่แฟนหนุ่มเปิดใช้บริการทันที...
