3
“... เสกหนังควายเข้าท้องรึ... ฟังดูน่ากลัว กระผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่ให้ใครเขาพูดตะพัด ไปในทางเสีย ๆ หาย ๆ หาความชั่วร้ายมาป้ายได้”
“ขอบคุณขอรับคุณหลวง กระผมซาบซึ้งใจนัก”
“แต่ถ้าลูกทำได้จริงเล่าคะเตี่ย คุณหลวงจะว่ากระไร จะยังรับลูกเปนเมียหรือไม่?”
ในที่สุดพิกุลก็ร่วงจากปากคู่งามให้คุณหลวงลอบยิ้มกริ่ม ด้วยความพึงพอใจ คุณหลวงจันหลงใหลแม้กระทั่งเสียงหวาน ๆ ของหล่อนราวจะโดนมนตร์อาคมเข้าให้ ถึงปากว่าเสียงดัง “เอ้า...! ขนเงินขนทองมากองเท่าภูเขา ก็ต้องรับน่ะซีแม่ แต่หลังจากเป็นผัวเป็นเมียกันแล้วหน้ะ จะพาไปพบหมอฝรั่ง ชะรอยจะมีกระไรในสมองสักอย่างหนึ่งให้เขาตรวจเสียหน่อยว่ามีปัญหาหรือไม่อย่างไร ถึงยังฝักใฝ่งมงายเรื่องพรรค์นี้อยู่”
-------------------------------
คำเก่าเขียนแบบเก่า = คำปัจจุบัน
- สื่อสิ่งพิมพ์ นวนิยายเก่า ฯลฯ ก่อนปีพ.ศ. ๒๕๐๐
โทโษ = โทโส , ธุร = ธุระ , ขะโมย = ขโมย , หน้ะ = น่ะ (เสียงสูง) , เปน = เป็น (ตามบริบทการออกเสียง)
-------------------------------
งามดั่งนางฟ้านางสวรรค์ แขกเหรื่อผู้มาร่วมแสดงความยินดีมีความเห็นตรงกัน ต่างคนเอ่ยอวยพรมอบคำชมเชยว่า ‘สมคู่สมคีมกัน’ บ้างว่า ‘กิ่งทองใบหยก’ คุณหลวงนายช่างทหารเรือช่างเหมาะสมกับลูกสาวพ่อค้าโรงฝิ่น ‘เจ๊กอี้’ ถึงหล่อนจะเป็นแค่ลูกสาวเศรษฐีแต่ความงามนั้นหาหญิงใดเทียบเทียม แลก็เป็นบุญของหล่อนที่จะได้เป็นเมียคนแรกของคุณหลวงจัน
เรือนร่างอรชรในเสื้อแขนยาวสีขาวต้นแขนพองลายลูกไม้ โจงกระเบนสีแดงตามแบบนิยม เข้ากับผิวละเอียดลออของหล่อน โดยทั่วไปแล้วผู้คนในพระนครมักดำคล้ำบ้างตามสภาพอากาศเมืองร้อน ไม่เหมือนฝรั่งที่เข้ามาทำการค้าในช่วงแรก ๆ นั้นต่างมีผิวขาวเผือก ขนาดว่าคุณหลวงจันเอง ด้วยความที่ต้องตรากตรำทำงานกลางแจ้งอยู่กรมช่างโยธาทหารเรือก็ยังมีฝ้ากระถึงไม่มากนัก แต่แก้วตาอยู่เพียงในโรงฝิ่นคุมงานเจ๊ก ไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหน ไม่แปลกที่หล่อนจะมีผิวขาวนวลเนียนทั่วทั้งตัว ทั้งบริเวณหลังมือ ต่ำกว่าชายโจงกระเบนไปนั้น ยามยืนหลังตรงอย่างงามสง่า ยกมือไหว้ประนมต้อนรับแขกด้วยกิริยาอ่อนช้อย สามารถทำให้ว่าที่สามีตาขวางได้
“ชอบกลจริงนะขอรับ จีนอี้ว่าลูกสาววัน ๆ อยู่แต่ในโรงฝิ่น เหตุใดจึงรู้จักคุณหญิงคุณนาย นายทหารชั้นผู้ใหญ่มากมาย...”
คุณพระสวมสูทฝรั่งเป็นทางการ ยืนเอามือไพล่หลังข้างคุณหลวงในชุดเจ้าบ่าวหล่อเหลาด้วยโจงกระเบนผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม ช่วงบนเป็นเสื้อแพรไหมสีขาวราคาแพงสมฐานะ หลังเลี่ยงมาคุยธุระกันสักเล็กน้อยตรงมุมบ้านหลังใหญ่ สถานที่จัดงานก็เป็นบ้านคุณหลวงที่อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบัน ทั้งคุณพระคุณหลวงปรึกษาหารือ เฝ้าฟังผู้คนพูดคุยกันในงาน พบความแปลกประหลาดของคุณหญิงคุณนาย ยังมีนายทหารระดับนายพลก้มหน้าลงกระซิบบางอย่างกับเจ้าสาวให้ได้ยินกันแค่สองคนก่อนเดินเลี่ยงไป
ไม่มีใครรู้ว่าสองหูของกุมภิลในร่างมนุษย์ได้ยินแว่ว ๆ ว่า
‘ยาสั่ง...’
‘ยาเสน่ห์...’
ชะรอยว่าหล่อนจะเป็นพวกฝักใฝ่คุณไสยอาคมอย่างที่เขาลือกัน...
“ท่านแน่ใจหน้ะ?”
“แน่ซีวะ แกจะทำไมกันนักหนา อ้ายคล้าว”
คุณพระกลอกตาวนไปมารอบหนึ่ง ก่อนจะว่า “เอ้อ... รึคุณหลวงจะโดนเสน่ห์ยาแฝด น้ำมันพรายผีจากสาวผู้ใดดีดใส่น้ะ?”
“หล่อนจำเป็นต้องใช้ด้วยฤา งามปานฉะนี้ หรือแกมีความเห็นไม่เท่ากัน ว่าหล่อนไม่งาม”
“กระผมไม่เห็นเป็นเช่นนั้นเลย คุณหลวงขอรับ แม่แก้วตาหล่อนงามนัก... งามราวกับว่าไม่ใช่ ‘มนุษ’ เดินดิน” คุณพระประสิทธิ์ไม่พูดเปล่า ผายมือไปทางเจ้าสาวคนสวย ก็ว่า “ดูซี... ไม่ว่าหล่อนยิ้มกระไร หล่อนจะทำหน้าถมึงทึงหรือนิ่งเฉยเป็นตุ๊กตา หนุ่ม ๆ ก็แลมองกันเป็นตาเดียว ขอรับประทานโทษเถิด ที่ตรงนู้น... ดูเศร้าโศกอาลัยเพราะมีผู้มาสู่ขอแม่คนงาม อยู่บนพื้นดินมาสักหกสิบปีแล้ว เพิ่งจะได้แลเห็นน้ำตาลูกผู้ชายนี่แหละ...”
‘แม่แก้ว... โปรดอย่าลืมมิตรสหายอย่างตัวพี่เทียวหล่อน แม่แก้วจ๋า...’
“ดูอย่างไร ๆ ก็ไม่ใช่เพื่อนพ้อง ในเมืองบางกอกมีผู้มาตอมหล่อนเท่านี้ กระผมขอให้ท่านโชคดี...”
“โชคดีกระไร มันเป็นหน้าที่ของแก คุณพระประสิทธิ์”
คุณพระเบิกตากว้างตะลึงงัน “นะ... หน้าที่... กระผม?”
“คุณพระนั่นแล เป็นเลขานุการของฉัน รับเงินเดือนจากฉัน ก็ต้องดูแลความสะดวกสบายให้เมียฉัน ยังจะต้องเป็นธุรจัดการเรื่องเสี้ยนหนามรังควานจิตใจให้ฉันด้วย”
ก็เพราะอย่างนี้! คุณพระถึงไม่อยากจะให้คุณหลวงตบแต่งกับแม่แก้วตา ต่อให้หล่อนจะงามสักเพียงไหน
“เดือดร้อนแล้วอ้ายคล้าวเอ๋ย... คุณพระก็เพิ่งจะได้เป็นแท้ ๆ”
ในรูปลักษณ์บุรุษอายุสักยี่สิบหกปี ผิดจากอายุขัยที่ยืนนานกว่ามนุษย์เช่นเดียวกันกับคุณหลวงจัน คุณพระบ่นอยู่ข้างกายคุณหลวง ยกมือปาดหยาดเหงื่อ ไม่ต่างจากว่าน้ำตาลูกผู้ชายคงรินไหลอยู่ภายใน แต่คุณหลวงรูปงามกำลังลอบยิ้มกรุ้มกริ่มดูลาดเลาของหญิงสาวว่าหล่อนจะทำกระไรอีก ฝั่งนายพลพวกหลงใหลในอำนาจ คุณหญิงคุณนายเศรษฐีมาร่วมแสดงความยินดีจะให้เกียรติงานมงคลนี้หรือไม่ หรือจะถือโอกาสนี้มาเอาของที่สั่งไว้!
ในชุดไทยหล่อเหลาในมือมีไม้ตะพดฝังเพชรเม็ดงาม คุณหลวงจันเดินกลับไปยืนเคียงข้างเจ้าสาว โดยไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคปัญหา เมื่อเบื้องหน้าสายตาปรากฏสาวงาม ที่เขากำลังจะได้เป็นเจ้าของ
“แม่แก้ว... อีกสักประเดี๋ยว เสร็จงานนี้แล้ว ฉันจะพาไปลาพ่อลาแม่”
“ค่ะ คุณหลวง”
“อีกเรื่องหนึ่ง...” เงียบไปครู่ แล้วจึงเอ่ยน้ำเสียงเข้มเครียดขึ้นกว่าเดิม “เคยทำการใดให้ละทิ้งเสียให้หมด อยู่บ้านฉันมีงานให้หล่อนทำมากมาย ฉันจะให้เงินเดือนหล่อนไม่น้อยไปกว่าคุณพระ แต่อย่าให้ฉันรู้ว่าหล่อนทำเรื่องไม่ดีไม่งาม และอย่าได้ปดฉัน เพราะฉันจะรู้ทุกอย่าง”
“ค่ะ คุณหลวง ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” สองมือประนมแนบอกไหว้อย่างงดงาม หญิงสาวใบหน้าสวยหวานใต้รอยยิ้มไร้พิษภัยทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าหล่อนจะเชื่อฟังเขาหรือไม่ คุณหลวงจันคงทำได้เพียงเข้าข้างตัวเองว่าหล่อนจะเป็นเมียที่ดีในเร็ววัน
