บท
ตั้งค่า

25. ชายเคราครึ้มเป็นใครกันแน่

“คุณเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ..ฉันไม่ได้...”

“ไม่เข้าใจผิดหรอก..ถ้าคุณคือผู้หญิงในภาพนี้”

เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินมายื่นมือถือที่มีภาพของฐานิกาส่งให้เธอดู

“เอ๊ะ..นี่มันรูปฉันนี่คะ..คุณแอบถ่ายฉันตอนไหน”

ฐานิกา ตกใจด้วยความกลัว จากเสื้อผ้าและบรรยากาศโดยรอบของภาพ เป็นช่วงที่ฐานิกากำลังนั่งอยู่แถวล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อรอไกด์ที่จะพาไปท่องเที่ยวชมเมือง

“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องรู้หรอก...รู้แต่ว่าตอนนี้คุณถูกจับมาเป็นตัวประกันอยู่กับผมที่นี่”

“แล้วทำไมจะต้องเป็นฉันที่ต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยคะ ทำไมไม่ให้ฉันอยู่ร่วมกับตัวประกันคนอื่น ๆ หรือไม่ก็ให้ตัวประกันคนอื่น ๆ มากับฉันด้วย”

คำถามนั้น ไม่ได้รับคำตอบในทันที เขายื่นมือมารับมือถือคืนไปและกลับไปนั่งที่เดิม

“คุณจับตัวประกันมาทำไมคะ”

เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากคำถามแรก ฐานิกาจึงถามคำถามใหม่

“ผมไม่ได้จับ..แต่กลุ่มบารากัส ต่างหากที่เป็นคนไปจับตัวประกันทั้งหมด”

“กลุ่มบารากัส! งั้นคุณคงจะเป็นหัวหน้ากลุ่มบารากัส ใช่ไหมคะ”

ฐานิกา สันนิษฐาน และคิดว่าต้องใช่ โดยดูจากสถานที่อยู่อาศัยที่เริดหรูแห่งนี้ และการที่เขาได้รับความนอบน้อมจากชายชุดดำที่นำเธอมาส่งให้เขาที่นี่

“ถ้าคุณคิดว่าใช่...ก็ตามนั้น”

คำตอบของเขาไม่ได้ช่วยไขข้อข้องใจเสียทีเดียว แต่ฐานิกาก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ใช่

“พวกคุณขัดแย้งกับรัฐบาล แล้วทำไมจะต้องมาจับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างฉันด้วย ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย”

“ตัวประกันที่เราพุ่งเป้าคือบรรดาภรรยานักการทูตและสื่อมวลชน แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่คุณไปอยู่ท่ามกลางงานเลี้ยงนั่น”

“ถ้าอย่างนั้นได้โปรดปล่อยตัวฉันไปเถอะนะคะ เพราะฉันไม่ใช่ภรรยานักการทูต ฉันเป็นเพียงนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความขัดแย้งของคุณเลย”

ฐานิกา ขอร้องเขาทั้งน้ำเสียงและแววตา หวังว่าเขาจะใจอ่อน แต่ชายหนุ่มกลับจ้องมองฐานิกานิ่งด้วยใบหน้าเคร่งขรึม แต่แววตาที่หวานคมเข้มของเขานั้นก็ทำให้ฐานิกาต้องหลบสายตา

“ต้องขอโทษด้วย ที่ผมไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้ เพราะตอนนี้คุณได้กลายมาเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผมโดยตรงเสียแล้วล่ะ คุณฐานิกา”

“หมายความว่ายังไงคะ”

“ก็หมายความว่า ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะต้องแยกตัวคุณออกมาจากตัวประกันคนอื่น ๆ แต่เผอิญเป็นความโชคร้ายของคุณ ที่มีจดหมายฉบับนี้มาให้ผมต้องทำอะไรบางอย่าง”

“จดหมาย..อะไรคะ” ฐานิกา หน้าซีด

เขาไม่ยอมตอบ แต่ยื่นกระดาษที่พับไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาส่งให้ฐานิกาได้อ่านเอง ข้อความในจดหมายเป็นของเจ้าชายอาบิเชค ที่ขอร้องให้หัวหน้ากลุ่มบารากัส ปล่อยตัวหญิงไทยชื่อฐานิกา โดยจะขอไถ่ตัวฐานิกา เป็นจำนวนเงินยี่สิบล้าน

“ผมว่าเจ้าชายอาบิเชค ท่าทางจะต้องการตัวคุณมาก เขายอมที่จะจ่ายเพื่อแลกกับตัวคุณ”

“แล้วคุณจะปล่อยตัวฉันหรือเปล่าล่ะคะ”

แม้ฐานิกา จะคาดไม่ถึงว่าเจ้าชายอาบิเชค กล้าที่จะส่งจดหมายถึงผู้ก่อการร้ายเพื่อไถ่ตัวเธอ แต่การที่ต้องมาตกอยู่ในสถานะตัวประกันในครั้งนี้ ก็ทำให้ฐานิกา พอที่จะเห็นทางรอด เพราะอย่างน้อยที่สุดเจ้าชายอาบิเชค ก็คงจะไม่น่ากลัวเท่ากับการที่ต้องมาอยู่กับหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายบารากัส ตามลำพังเช่นนี้

“คุณอยากจะไปเป็นนางบำเรอของเจ้าชายบ้ากามนั่นน่ะเหรอ”

คำถามที่เค้นด้วยน้ำเสียงออกจะขบขันแกมเยาะเย้ยนั้น ทำเอาคนฟังหน้าแดงด้วยความไม่พอใจ จนอดที่จะตอบโต้ไม่ได้

“ไม่ใช่! ฉันต้องการกลับเมืองไทยประเทศของฉัน”

“ในเมื่อเจ้าชายยอมเสียเงินไถ่ตัวคุณ เขาต้องให้คุณชดใช้ด้วยการเป็นนางในฮาเร็มของเขาให้คุ้มค่าเสียก่อน และผมเชื่อว่าคุณจะได้เงินก้อนใหญ่ก่อนกลับประเทศแน่นอน”

“นั่นมันก็เป็นสิทธิของฉันไม่ใช่หรือคะ”

“ใช่ มันเป็นสิทธิของคุณ การที่เจ้าชายเชคบุกรุกไปหาคุณที่ห้องพักในโรงแรม ก็เป็นการไปเสนอซื้อตัวคุณด้วยตัวเองเสียด้วยสิ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เจ้าชายเชคจะให้การันต์คนสนิทของเขาเป็นคนจัดการหาสาวงามไปให้เลือก แต่นี่เขาไปยื่นข้อเสนอให้คุณถึงที่แบบนี้ต้องเรียกว่าคุณถูกใจเจ้าชายเชคเป็นพิเศษ”

“คุณ!..นี่คุณทราบ...”

ฐานิกา ทั้งตกใจ และรู้สึกประหลาดใจในคราเดียวกัน ดูเขาจะรู้เรื่องระหว่างเธอกับเจ้าชายอาบิเชค ราวกับไปนั่งอยู่ในเหตุการณ์ในวันที่เจ้าชายอาบิเชคเข้าไปหาเธอที่ห้องพักในวันนั้น

“ไม่เพียงแต่ทราบว่าเจ้าชายอาบิเชค เท่านั้นที่สนใจคุณ ยังมีผู้ชายอีกคนที่สนใจคุณ..และเขาคนนั้นก็สนใจคุณตั้งแต่แรกพบเสียด้วย”

“ใครคะ ”

ฐานิกา ถามเสียงสั่น ใจเต้นแรงด้วยความอยากรู้ ผู้ชายคนไหนนะที่สนใจเธอตั้งแต่แรกพบ เขาหรี่ตามองฐานิกาด้วยแววตาที่เป็นประกาย แต่ก็เพียงครู่เดียวที่ฐานิกาได้เห็น เพราะทันทีที่เธอจ้องหน้าเขาด้วยความอยากรู้ เขาก็รีบเฉมองไปทางอื่นประหนึ่งเกรงว่าแววตาของเขาจะเปิดเผยอะไรออกมา

“ฉันอยากทราบว่าคนที่สนใจฉันตั้งแต่แรกพบ ใครคะ”

ฐานิกา ถามย้ำอีกครั้ง คราวนี้เขาหันกลับมามองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่พยายามซ่อนความรู้สึกบางอย่างที่ฐานิกา ไม่มีวันจะเข้าใจ

“ผู้ชายคนนั้นก็คือ...อิสมาอิล ลูกชายของนายก ราม

บาฮะดูร์ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าชายอาบิเชค ผมพูดถูกหรือเปล่า”

ฐานิกา เม้มปากแน่น ความตื่นเต้นตกใจคลี่คลายลง เหลือเพียงความสงสัยใคร่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงได้รู้เรื่องราวชีวิตของเธอได้ถึงเพียงนี้ และฐานิกา เชื่อว่าเขาจะต้องมีสายสืบที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวของเจ้าชายอาบิเชค กับ อิสมาอิล อย่างแน่นอน แต่ใครล่ะคือสายลับของกลุ่มก่อการร้ายบารากัส

“ตอนนี้คุณมีอะไรจะซักถามอีกไหม”

“มีค่ะ แล้วคุณจะปล่อยตัวฉันไหมคะ”

“คำถามนี้ยังไม่มีคำตอบครับ เอาล่ะ..คุณเพิ่งมาถึง ควรจะพักผ่อนได้แล้ว ถึงแม้คุณจะเป็นตัวประกัน แต่ผมรับรองด้วยเกียรติของผมว่า คุณจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ หากคุณยอมทำตาม และผมก็ขอร้องให้คุณได้โปรดทำตามด้วยนะครับ คุณฐานิกา”

ฐานิกา อยากจะขำกับคำพูดของหัวหน้าก่อการร้าย พอ ๆ กับอยากจะร้องไห้ ดูเถิดเขาช่างเป็นผู้ก่อการร้ายที่พูดจาสุภาพจนเธออึ้งไปเลย แต่ถ้าเขาจะยิ้มแย้มไม่ทำหน้าเคร่งขรึมดุดัน เขาก็จะไม่เหลือมาดของหัวหน้าก่อการร้ายที่น่ากลัวเลยจริง ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel