ep2
ลุงสิทธิ์ขับรถปุโรทั่งถึงบ้านก็ลงจากรถพร้อมกับได้ยินเสียงแว่วๆ ของหลานสาวของเมียกับกำลังบ่นด้วยเรื่องเดิมๆ เพราะหลานสาวไม่ยอมเรียนต่อ กว่าจะเข็นให้จบมัธยมปลายก็ยากนักหนา ไม่รู้ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงไม่รักเรียนก็ไม่รู้ได้
“โธ่ ป้าบ่นอยู่ได้ เรียนไปทำไมเยอะแยะมากมาย จบออกมามันก็ต้องหาผัวด้วยกันทั้งนั้น”
“เอ็งมันผู้หญิง เรียนสูงๆ ไว้ จะได้มีงานดีๆ ทำ คนที่เขาใฝ่เรียน เขาก็มีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่เอ็งน่ะหนังสือหนังหาไม่เรียน มัวแต่เหล่พวกคนงานในไร่ แล้วมันได้สักคนไหมเล่า”
ป้าพวงหันมากระแหนะกระแหนหลานสาวด้วยความหมั่นไส้ นึกไปถึงน้องสาวที่เอาหลานมาฝากเลี้ยงแล้วหายไป ใจหนึ่งก็เวทนาหลานสาว ใจหนึ่งก็ขัดใจเพราะหลานสาวก็ทำตัวเสเพล ไม่รักดี
“แหมป้า ฉันไม่เอาล่ะคนงานในไร่น่ะ ฉันก็แค่บริหารเสน่ห์ของฉัน อย่างฉันก็ต้องหล่อๆ รวยๆ เท่านั้น จะไปเอาอะไรกับคนงานจนๆ เล่าป้า”
“เออ เอ็งหาไปเถอะ สักวันคงได้”
“ฉันไม่จมปลักอยู่อย่างนี้หรอกป้า วันหนึ่งฉันจะไปเป็นดารา ฉันจะเข้าวงการ แล้วก็มีคนให้เลือก วันนั้นป้าก็จะสบาย”
ยุวดีประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองอย่างชัดถ้อยชัดคำ ส่งผลให้ป้าพวงค้อนขวับอย่างไม่เชื่อขี้หน้าหลานสาว ยุวดีแค่นยิ้ม วันไหนเธอประสบความสำเร็จ ป้าก็คงจะเห็นดีเห็นงามกับเธอเองนั่นแหละ
“ไม่รู้จะทะเลาะอะไรกันนักหนา นังยุ เอ็งนะมีโอกาสเรียนก็น่าจะเรียน เรียนสูงๆ สังคมมันก็กว้าง คนที่หล่อ ๆ รวยๆ เขาก็เรียน เอ็งจะได้ไปเจอเขาในมหาวิทยาลัยไง”
ลุงสิทธิ์บ่นเบา ๆ พลางถอดเสื้อโยนลงตะกร้าซักผ้า
“ลุง ค่าเทอมในมหาวิทยาลัยมันแพงออก ลุงเอาเงินที่จะส่งฉันเรียน ไปซื้อรถใหม่จะดีกว่าไหม”
ยุวดีหันไปบอกก่อนสะบัดก้นออกไปจากห้อง ทิ้งให้ลุงกับป้ามองตามหลังด้วยความระอาทั้งคู่รู้ว่า โดยเนื้อแท้ของยุวดีเป็นเด็กดี เธอขยันทำงานในไร่ข้าวโพดของเขา แต่เขาก็ยังไม่อยากให้เธอมาทำไร่ ด้วยความที่ยุวดีเป็นผู้หญิง น่าจะอยากมีชีวิตที่ดีกว่าสาวชาวไร่ แต่ยุวดีดื้อดึงที่จะทำงานในไร่ เพราะไม่อยากให้ลุงกับป้าสิ้นเปลืองเพราะตัวเธอไปมากกว่านี้
“เป็นอะไรไปล่ะเอ็ง หน้าตาเครียดมาเลยวันนี้”
ป้าพวงถามขึ้นเพราะเห็นหน้าลุงสิทธิ์เคร่งเครียด
“เอ็งจำผู้หญิงคนที่หนีมาจากไร่ตะวันฉายเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ไหม”
“จำได้ซิผู้หญิงคนนั้น ทำไมหรือ?”
“เขาชื่ออะไร เขาได้บอกเอ็งไหม”
นางพวงนิ่งอึ้ง คืนที่ฝนตกหนัก ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตากฝนเข้ามาขอที่พักพิง เธอบอกว่าขอหลบฝนสักพักแล้วจะไป แต่เธอพักอยู่เพียงไม่นาน เพราะเมื่อเจ้าของไร่ตะวันฉายมาตามหา เธอก็ไม่พบผู้หญิงคนนั้นแล้ว นับแต่นั้นทั้งนางพวงและลุงสิทธิ์ก็ไม่รู้ข่าวเธออีกเลย
“ฉันไม่แน่ใจ ฉันว่าเราไม่ได้ถามชื่อของเธอนะ ตาสิทธิ์ เธอมาในสภาพที่...แทบไม่มีสติอยู่แล้วนะ แล้วทำไมจู่ๆ ถึงคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ”
“วันนี้ ข้าเจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เขาบอกเขามาตามหาแม่ที่ไร่ตะวันฉาย เด็กคนนั้นหน้าตาคล้ายเหลือเกิน คล้ายกับผู้หญิงคนนั้น”
“เขาบอกหรือเปล่าว่า คนที่เขาตามหาชื่ออะไร”
“เด็กมันบอกว่าแม่มันชื่อ อินทิรา”
******
“ไปอ่อยผู้ชายถึงไปไหน ถึงได้มาเอาป่านนี้” เสียงตวาดแว๊ดใส่ทันทีที่เห็นหลานสาวค่อยๆ เดินผ่านเข้ามาหน้าตึก เด็กสาวก้มหน้านิ่ง เดินตัวลีบเข้าไปในครัวโดยไม่ต่อปากต่อคำ
“เดี๋ยว ฉันพูดด้วย ทำไมไม่ตอบโอหังนักนะ”
วิรงรองตะคอกเสียงถามอย่างโกรธเกรี้ยว
“คุณวิ มีอะไรจะเปียรับใช้หรือคะ รอสักครู่นะคะเปียขอเอาของไปให้ป้าเกิดในครัวสักครู่”
เปีย หรือปิยฉัตรชะงักก่อนจะหันมาตอบด้วยท่าทีนอบน้อม
“นังส้ม ลับๆ ล่อๆ อยู่นั่น มาเอาของไปให้ป้าเกิดซิ ฉันมีธุระกับเด็กคนนี้”
ส้มสวย เด็กรับใช้รุ่นราวคราวเดียวกับเปียโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ตรงเข้ารับถุงพลาสติกที่บรรจุของสด ของแห้ง ของจิปาถะออกไปจากมือของหญิงสาว เมื่อรับมาถือเอง เจ้าตัวถึงกับร้องอูย..ทั้งยังกระซิบถามปิยฉัตรด้วยความเห็นใจว่า ไม่หนักหรือ เปียไม่ตอบแต่ยิ้มให้
“มานี่ได้แล้ว มีคนอยากรู้จักหล่อน”
วิรงรองทำเสียงดุ ก่อนเดินนำหน้าเข้าไปในตัวตึก
