บทที่3.คาสโนว่าพ่อลูกอ่อน........
เด็กหญิงกอดตอบ ก่อนจะวิ่งตื๋อไปกับพี่เลี้ยงที่ยืนรออยู่ทางด้านหลัง เพื่อจัดการตามที่ชะเอมบอก
หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นยืน เธอเดินสำรวจห้องนอนของอิรินาซ้ำ จดบันทึกสิ่งที่ควรแก้ เพราะเมื่อร่างแบบแล้ว ผลออกมาจะได้เป็นที่ถูกใจ
เด็กหญิงย้อนกลับมาอีกครั้งหลังหายไปเกือบ30 นาที คราวนี้มาในชุดอยู่บ้านสุดน่ารัก เหมือนตุ๊กตาเดินได้ จริงอยู่อิรินามีตาสีเขียวมรกต แต่ผมของเธอกลับเป็นสีดำสนิท มันอาจจะเป็นเพราะยีนของอเล็กไซก็ได้ เพราะชายหนุ่มเองก็มีผมสีดำ
“มาแว้วววว...หิวแล้วอ่า”
เสียงเล็กๆ ร้องแจ้วๆ พอโผล่หน้าเข้ามาก็ร้องแต่หิวๆ พี่เลี้ยงยิ้มกร่อยๆ หล่อนอยู่กับอิรินามานานพอสมควร เรื่องกินนี่มาเป็นอันดับหนึ่ง
“เดี๋ยวดิฉันเอาของว่างมาให้ค่ะ”
หล่อนเปรยกับนายจ้างตัวน้อย เตรียมตัวจะหมุนตัวกลับเพื่อไปจัดการตามความต้องการของคุณหนูของบ้าน
“เดี๋ยวจ้ะ...ลงไปข้างล่างดีกว่าไหม ห้องนอนไม่สมควรนำขนม หรือของหวานเข้ามา มันไม่สะอาด”
ชะเอมย่อตัวลง เธอกล่าวกับเด็กหญิง สอนในเรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้
“แต่ว่า...”
อิรินาเป็นคนติดห้อง เธอมักจะขลุกอยู่แต่ในห้องนอน มันอาจเป็นเพราะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยก็ได้
“เอาขนมมาทานในห้อง ตกกลางคืนน้องหนูก็เข้ามาหา...ไหนจะพี่แมลงสาบอีก เอวากลัวไหมล่ะคะ”
“หูยยย...เอวาเกลียดที่สุดค่า ไปค่ะไปค่ะ ลงไปทานข้างล่างก็ได้”
เด็กหญิงห่อปากทำตาโต รีบฉุดมือของชะเอมแล้วรีบจูงออกจากห้องนอนตัวเอง เพราะหากมีสัตว์จำพวกนั้นแวะเวียนมาเยี่ยมตอนที่ตัวเองหลับ คงนอนผวาไปทั้งคืน
พี่เลี้ยงอมยิ้ม เธอมองชะเอมด้วยความชื่นชม ไม่มีใครชี้นำคุณหนูอิรินาได้ เมื่อเจ้าตัวทั้งรั้นและดื้อ
ดังนั้นวันนี้ เก้าอี้เหล็กในบริเวณสวนหลังบ้านจึงได้มีโอกาสได้รับใช้เจ้าของบ้านสุดป่วน เมนูวันนี้ไม่ถูกปากเจ้าตัวเท่าไหร่ จึงมีเสียงบ่นอุบตลอดเวลา แม้ขณะที่กำลังเคี้ยวหยับๆ
“ไม่อร่อยเลยสู้ฝีมือหม่ามี้ก็ไม่ได้ วันหลังหม่ามี้มาทำให้เอวาทานอีกนะคะ”
ชะเอมอมยิ้ม ดูดน้ำหวานในแก้วเฉย ไม่ได้ตอบอะไรออกมา...
“บ้านเอวามีสระด้วยนะคะ หากหม่ามี้ว่างๆ เราลงสระกันนะคะ เอวาอยากว่ายน้ำเป็น แต่...ไม่มีใครสอน”
เรื่องออดอ้อนฉอเลาะ ไม่ต้องมีใครสอนสั่ง มันเป็นสัญชาตญาณของคนที่ขาด มีระบบในตัวเอง เป็นกลไกแบบอัตโนมัติ
ใบหน้ากลมแป้นม่อยลง แม้จะกำลังเจริญอาหารแบบนี้จะไม่ให้ชะเอมใจอ่อนยวบได้ยังไง
“ได้สิ...ยังไงหม่ามี้ก็ต้องมาบ่อยๆ ไว้ว่างๆ หม่ามี้จะสอนเอวาว่ายน้ำเองค่ะ”
พอได้ยินคำตอบที่เป็นที่พอใจ ใบหน้าหงิกหงอยก็ผลิบานเหมือนดอกไม้ได้น้ำฝน ชะเอมอมยิ้ม มีลูกสาวสุดน่ารักแบบนี้ ทำไมคนเป็นพ่อถึงปล่อยให้เจ้าตัวหงอยเหงาได้ เท่าที่เห็นรอบตัวอิรินามีแต่พี่เลี้ยงกับการ์ด มันไม่ใช่การเลี้ยงเด็กที่ถูกวิธีนัก
“บ้านเอวาไม่มีสวนดอกไม้เหรอจ๊ะ”
บรรยากาศแห้งแร้ง แม้จะร่มครึ้มไปด้วยไม้ยืนต้นใหญ่ๆ แต่พรรณไม้ที่มีสีสันกลับไม่มีให้เห็นในสายตา ชะเอมจึงอดไม่ได้ที่จะถาม
“นั่นสิค่า... ทำไมไม่มี”
เด็กหญิงรีบสนับสนุน มีบริเวณกว้างขวางแต่ไม้ดอกไม้ประดับกลับไม่มีให้เห็น
“คุณท่านให้คนแต่งสวนให้น่ะค่ะ ผลออกมาแบบนี้ ท่านก็ไม่เห็นว่าอะไร”
ชะเอมกวาดตามองไปรอบตัว สวนสวยก็จริงแต่มันดูโล้นๆ พิกล มีแต่สีเขียวขจี สีอื่นแทบไม่มีให้เห็น มันเป็นบรรยากาศทำให้ไม่สดชื่นเท่าที่ควร
“มีคนสวนไหมจ๊ะ ขอเอมคุยกับเขาหน่อย”
บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ คนสวน คนขับรถ คนรับใช้น่าจะมี ชะเอมแค่อยากถามหากสามารถปรับภูมิทัศน์ได้ มันก็จะเป็นผลดีกับคนที่อยู่อาศัย...
“สักครูค่ะอิฉันจะไปตามให้”
ความจริงชะเอมไม่อยากยุ่ง แต่หากมีสีสันเพิ่มเติมเข้ามาบ้างมันน่าจะสดชื่นกว่า
ชายสูงวัยค่อนข้างมีอายุสักนิด เขาเดินเข้ามานอบตัวใกล้ๆ ชะเอม
“ลุงเป็นคนสวนบ้านนี้ใช่ไหมจ๊ะ ทำไมสวนมีแต่ไม้ประดับไม่มีไม้ดอกบ้างเลยล่ะ”
