ตอนที่สอง คำร้องขอ2
ตอนที่สอง คำร้องขอ
“ว่ามาสิ” ร่างงามของหวังมี่อิงนั่งตัวตรงตั้งใจฟังคำพูดในหัว ขณะเดียวกันก็คิดขำ
นี่ถ้ามีคนอื่นเข้ามาเห็นคงคิดว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
(ข้อแลกเปลี่ยนก็คือเจ้าต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ภารกิจหลักคือการเก็บสะสมแต้มเพื่อดำรงชีวิตอยู่ ส่วนภารกิจสำคัญคือการทำให้พวกเขาเลิกแตกแยกแล้วมาสมานฉันท์กัน)
“พวกเขา? ใครกัน?”
(อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะได้รู้เอง เอาล่ะข้าจะค่อยๆเล่าทีละเรื่องเพื่อป้องกันการสับสน ยามนี้เจ้ามีคะแนนอยู่30แต้ม ในแต่ละวันจะลดลงไป1แต้ม นั่นหมายความว่าหากครบ30วันแล้วไม่มีแต้มเพิ่มขึ้น เจ้าก็จะสิ้นชีวิต)
“อ้าว...เพิ่งตื่นมา ต้องตายอีกแล้วหรือ” คราวนี้หญิงสาวโวยวายทันที
(หากไม่อยากตายอีกหน ขอเพียงได้ร่วมรักกับชายหนุ่มสักคนเพื่อเก็บคะแนนย่อมมีโอกาสในการใช้ชีวิตต่อ
คะแนนจะมีตั้งแต่ความพึงพอใจ ความสุขใจจนถึงการหลั่งน้ำ ขอเพียงชายผู้นั้นหลั่งน้ำแห่งความสุขออกมาเจ้าจะได้คะแนนมากถึง3แต้ม
และคะแนนจะบวกเพิ่มขึ้นไปเมื่อเขายิ่งหลั่งน้ำช้าด้วยสุขใจมากหรือเสร็จสมเกินกว่าหนึ่งครั้ง)
เพียงได้ฟังเงื่อนไขของเจ้าระบบหวังเลี่ยน หญิงสาวถึงกับหน้าแดงก่ำ
“บ้าไปแล้ว นั่นมิเท่ากับว่าให้อ้าขาสอดใส่กับชายหนุ่มทุกคนไม่เลือกหน้าหรือถึงจะมีชีวิตรอด”
(เรื่องนี้ย่อมมีทางเลือก อย่าลืมว่าเจ้าเป็นผู้เอ่ยคำร้องขอนี้เอง)
“ก็ตอนนั้นคนกำลังเสียใจ” หญิงสาวยอมรับเสียงอ่อย
(มีคนมาแล้ว เมื่อถึงเวลาข้าจะมาบอกเล่ารายละเอียดอีกครา)
เสียงที่ดังในหัวเงียบหายไปพร้อมเสียงเปิดประตูของหญิงสูงวัยคนหนึ่ง
และนั่นจึงทำให้ได้รู้ว่าร่างนี้มีชื่อว่า ‘หวังมี่อิง’ นางเป็นหลานสาวคนหนึ่งของภรรยาเจ้าเมืองถูเป่ยซึ่งได้รับเลือกให้เดินทางไปเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าเมืองอื่นแห่งเมืองต้าถูเพื่อสร้างทายาท
เดิมทีหวังมี่อิงซึ่งใช้เวลาปรับตัวอยู่ไม่กี่วันก็กลมกลืนกับผู้คนที่นี่มัวแต่นั่งคิดมากเรื่องการเพิ่มคะแนนเพื่อเติมพลังชีวิต
ยามนี้คะแนนตั้งต้นลดลงวันละแต้ม กว่าจะเดินทางถึงก็ผ่านไปอีกสิบวัน คะแนนคงเหลือแค่13แต้มแล้ว หากนางต้องการอยู่ต่อก็ต้องเร่งหาคะแนนมาเติม
เฮ้อ... ไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องพูดคุยจัดพิธีกันอีกกี่วัน ขืนชักช้านางคงได้สิ้นใจก่อนจะได้เข้าหอ ไม่ได้การ ต้องเร่งรัดสักหน่อย
แต่นางเป็นสตรีจะเอ่ยอย่างไรไม่ให้กลายเป็นหื่นกระหายอยากแต่งงานจนตัวสั่น
ถ้อยคำต่างๆนานาถูกขบคิดออกมาจนหัวแทบแตก ที่ไหนได้ นางไม่ต้องเอ่ยวาจาใดสักคำด้วยยามนี้ร่างเปลือยเปล่ากำลังตกอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าเมืองถูเฉียน
เหมิงจิ่นลี่มองความอวบอิ่มตรงหน้าด้วยความชื่นชมหลงใหล ใช่ว่าเขาจะไม่เคยร่วมรักกับสตรีหรือไม่เคยเห็นสาวงามแน่งน้อย
ในเมืองถูเฉียนแห่งนี้ไม่ว่าจะย่างกรายไปทางใด เหล่าหญิงสาวแช่มช้อยล้วนชม้ายชายตาให้ท่าแก่เขา หากเห็นว่าไม่สร้างปัญหา เขาก็จะสนุกสนานด้วยสักหลายคืนแล้วแยกจากโดยดี
มีเพียงสองคนที่น่าสงสารจนพาตัวมาเลี้ยงเป็นอนุในเรือน
แต่สาวงามที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้กลับหาได้ยากนัก ใบหน้าอ่อนหวานกับเรือนกายเย้ายวนช่างปลุกราคะให้เร่าร้อนได้โดยง่าย
โชคดีจริงที่ตัดสินใจช่วงชิงตัวมา
เหมิงจิ่นลี่คิดอย่างย่ามใจขณะลากริมฝีปากอุ่นผ่านลำคอลงไปถึงเนินอกอิ่มซึ่งถูกสองมือกอบกุมฟอนเฟ้นช่วยส่งความนุ่มฟูและเม็ดบัวอันตึงแน่นเข้าใส่ปาก
“อื้อ...จะไม่คุยกันสักนิดหรือ”
หวังมี่อิงแม้เคลิ้มไหวไปกับการเล้าโลมแต่ยังรู้สึกอยากถ่วงเวลาอีกเล็กน้อย
เพิ่งเจอหน้าก็โดนจับมากะซวกใส่เสียแล้ว จะมักง่ายเกินไปหน่อยมั้งตาเจ้าเมืองคนนี้
“ข้ากำลังคุยกับเจ้าอยู่อย่างไรเล่า” คำแก้ตัวข้างๆคูๆของเจ้าเมืองหนุ่มเรียกค้อนวงใหญ่จากใบหน้างาม
มือใหญ่ไม่รอช้าจัดการดึงผ้าปิดอายทั้งสองผืนออกเผยความเนียนนุ่มละออตา
