บทที่7
"เมื่อไหร่พี่จะบอกความจริงกับทุกคนสักที" ชายหนุ่มที่สวมกอดร่างเล็กของพลอยดาวในสภาพเปลือยเปล่าเอ่ยขึ้น พร้อมกับถูไถจมูกที่แก้มขาวใสเบา ๆ
“ทำไมพี่ต้องบอกทุกคนด้วยล่ะ”
"ก็ผมกับพี่มีอะไรกันตั้งหลายครั้ง ผมเป็นผัวพี่ พี่ก็ควรบอกทุกคนสิว่าเราเป็นผัวเมียกันแล้ว"
"นายจะมาเรียกร้องอะไร ในเมื่อเราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่า เราจะสนุกกันชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น จะไม่มีสถานะและไม่มีตัวตนต่อกัน" พลอยดาวเสียงเรียบก่อนจะผลักร่างหนาให้พ้นกายแล้วลุกขึ้นนั่ง แต่คำพูดของหญิงสาวกลับสร้างความไม่พอใจให้กับชายหนุ่มที่ได้ฟัง
"ผมไม่สนข้อตกลงบ้าบออะไรแล้ว พี่เป็นของผมพี่เป็นเมียผม พี่ต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น"
"นายอย่ามาพูดไม่รู้เรื่องนะ ถ้านายยังเรียกร้องอะไรแบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ต้องจบลง ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป"
"ผมไม่ยอม ผมจะไม่มีวันยอมให้พี่ทิ้งผม ผมไม่ใช่ไอ้งั่งที่พี่จะทำกับผมยังไงก็ได้"
"ไม่ยอมก็เรื่องของนาย"
"พี่พลอย"
"ฉันมีผู้ชายที่ฉันรักอยู่แล้ว ส่วนนายก็แค่แก้เหงาแก้ขัดตอนที่เขาไม่อยู่เท่านั้น ตอนนี้เขากลับมาแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องยุ่งวุ่นวายกับนายอีก พี่ขุนเขาคือผู้ชายที่ฉันรัก นายมันก็แค่ผู้ชายไม่มีสถานะ ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ เมื่อพี่ขุนเขากลับมาฉันได้แต่งงานกับเขา ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันก็ต้องจบลง"
"พูดแบบนี้ไม่ใจร้ายไปไหนเหรอ? พี่เห็นผมเป็นตัวอะไร ถึงได้ทำกับผมแบบนี้" เขาเสียงห้วนจ้องมองแผ่นหลังขาวเนียนของพลอยดาวอย่างไม่พอใจ
"ฉันว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ หลังจากนี้ขอให้เราต่างคนต่างอยู่ เราจะไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก"
"พี่เป็นเมียผมแต่อยากไปแต่งงานกับไอ้ขุนเขา พี่ไม่ละอายใจบ้างเหรอ ตลอดเวลาพี่มาอ้าขาให้ผม พอมันกลับมาจะไปแต่งกับมัน มันยุติธรรมกับมันกับผมแล้วเหรอ?"
"พี่จำเป็นต้องสนใจความยุติธรรมงี่เง่านั่นไหม? ในเมื่อพี่จะแต่งกับพี่ขุนเขา พี่ก็แต่งกับเขาให้ได้"
"ผมจะเปิดเผยเรื่องของเรา ให้ทุกคนได้รู้"
"คิดว่าจะมีใครเชื่อคำพูดของนายก็ลองดู" ว่าจบพลอยดาวก็ลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าออกจากห้อง ร่างเล็กก็ถูกรวบเหวี่ยงลงที่นอน
"ผมไม่ให้พี่ไป!"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันจะไปหาพี่ขุนเขา ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ!"
"พี่ต้องอยู่กับผม อยู่จนกว่าสองคนนั้นจะแต่งงานกัน ผมจะทำให้พี่เป็นเมียผม เป็นเมียผมคนเดียว ไม่ใช่เมียไอ้ขุนเขา"
"ปล่อยนะ!"
-+-+-
ก็อก ๆ
ประตูห้องถูกเคาะเบา ๆ ขุนเขาที่กำลังโทรศัพท์หาแฟนสาวถึงกับถอนหายใจออกมาแรง ๆ แล้ววางโทรศัพท์ลงบนเตียง ประตูบานหนาถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งของบิดาที่เดินเข้ามา
"ขุนเขา"
"ถ้าพ่อจะมาพูดช่วยแม่เพื่อให้ผมแต่งกับพราวรุ้ง ผมไม่แต่งเด็ดขาด" เขายืนกรานเสียงแข็ง
"พ่อรู้ว่าลูกไม่อยากแต่ง พ่อเองก็ไม่ได้อยากจะบังคับลูกให้แต่งงานกับพราวรุ้ง สิ่งที่พ่อจะมาพูดกับลูกพ่อจะมาขอร้องอ้อนวอนลูก ให้ทำเพื่อแม่ก่อนที่แม่จะตายได้ไหม?" ทนงศักดิ์เอ่ยเสียงสั่นแล้วนั่งลงที่เตียงนุ่มข้าง ๆ บุตรชาย
"อะ ... อะไรนะครับ" ชายหนุ่มละล่ำละลั่กเอ่ยถามบิดาอย่างตกใจ อะไรคือก่อนที่แม่จะตาย เขาไม่เข้าใจ
"เฮ้อ แม่ของลูกเป็นเนื้องอกที่สมอง หมอไม่สามารถผ่าตัดออกได้ แม่มีเวลาอยู่กับเราแค่หกเดือนเท่านั้น" คำตอบของบิดาทำเอาชายหนุ่มชาไปทั้งร่าง ความรู้สึกหลายอย่างพุ่งชนหัวใจของเขาอย่างจัง มือไม้มันสั่นจนต้องเอามาประสานกันเอาไว้ เขาตกใจเขากลัวด้วยไม่คิดว่ามารดาที่ดูมีสุขภาพแข็งแรงมาตลอด จะไปโรคที่เกิดในสมองได้
"พ่อกำลังวางแผนกันกับแม่ เพื่อให้ผมแต่งงานกับพราวรุ้งใช่ไหม?"
"ความเป็นความตายแม่มากองอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าลูกจะคิดว่าพ่อกับแม่วางแผนกันเพื่อให้ลูกแต่งงานกับพราวรุ้งลูกก็คิดไปเถอะ พ่อแค่อยากให้ลูกทำเพื่อแม่สักครั้ง แต่งงานกับพราวรุ้งเพื่อแม่ได้ไหม?"
"พ่อก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"
"พ่อกับแม่ก็คงจะไม่พูดอะไรเรื่องนี้อีกแล้ว ในเมื่อพ่อมาอ้อนวอนแล้วลูกไม่ทำตามพ่อก็จนใจ"
"...."
"ถ้าลูกอยากจะไปแต่งงานกับพลอยดาว ลูกก็ไปเถอะ แต่ก็เหมือนอย่างที่แม่พูดนั่นแหละ ลูกจะไม่ได้สมบัติไปสักชิ้น ลูกจะไปแต่ตัวแล้วไปทำงานหาเลี้ยงผู้หญิงคนนั้นเอง"
"...."
"นี่คือผลตรวจของแม่" ทนงศักดิ์หยิบกระดาษสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้ววางลงบนเตียง "แม่อยู่กับเราได้ไม่นาน พ่อแค่ขอให้ลูกทำตามความต้องการของแม่ก่อนที่แม่จะจากเราไป แม่จะได้มีความสุข แล้วอย่าบอกแม่นะว่าพ่อมาบอกลูกเรื่องอาการป่วย แม่ไม่อยากให้ลูกเครียดเรื่องอาการป่วยของแม่ จึงให้พ่อปิดเรื่องนี้มาตลอด ถ้าเกิดว่าแม่รู้ว่าพ่อบอก อาการแม่ยิ่งจะแย่กว่าเดิม" ว่าจบทนงศักดิ์ก็เดินไปที่ประตู เขาหันไปมองบุตรชายเล็กน้อย แล้วเปิดประตูออกไป
ขุนเขาหยิบกระดาษแผนนั้นขึ้นมาอ่านก่อนจะปล่อยมันล่วงลงพื้น มือไม้ของเขามันสั่นจนไม่อาจจะปรามได้ เขาอยากจะรีบไปหามารดาแล้วถามไถ่อาการ แต่สิ่งที่บิดาขอเอาไว้ก็รั้งไม่ให้เขาทำได้ดั่งใจ
ท่านอยากให้เขาแต่งงานกับพราวรุ้ง ถ้าเขาไม่ทำก็อกตัญญูเกินทน ถึงอยากจะต่อต้านมารดาสุดกำลังแต่พอรู้ในสิ่งที่มารดาต้องการให้เขาทำก่อนจากไป เขาก็ไม่อาจที่จะอยู่เฉยได้
ขุนเขานอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ครุ่นคิดเรื่องนี้หัวจะแตก เขาไม่รู้จะต้องทำอย่างไร เขาควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี
งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตพราวรุ้งอยู่ในชุดแต่งงานสวยงาม มองขบวนขันหมากที่ตั้งแถวอยู่ไม่ไกลด้วยสายตาหม่นเศร้า นานแล้วที่ตั้งขบวนขันหมากแต่ไร้เงาของว่าที่เจ้าบ่าว ขุนเขาคงตั้งใจหักหน้าเพื่อให้เธอได้อับอาย เพื่อเอาคืนในสิ่งที่เธอทำกับเขา
"ดูทำหน้าสิ" คมสันยิ้มมองบุตรสาวที่ทำหน้าเศร้ากับงานที่แสนจะหน้ายินดี
"พ่อต้องอับอายแน่ ๆ ที่เจ้าสาวเป็นหม้ายขันหมาก"
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะลูก"
"เจ้าบ่าวไม่มีในวันแต่งน่ะสิคะ" พราวรุ้งเสียงเครือเบ้หน้าเล็กน้อย พยายามฝืนไม่ให้น้ำตามันหลั่งไหลออกมาประจานความอ่อนแอที่มีในหัวใจ "พราวขอโทษนะคะพ่อ ฮึก!"
"ขี้ใจน้อยจังนะเรา จะไม่มีเจ้าบ่าวได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าบ่าวของลูก อยู่ในขบวนขันหมากแล้ว"
"อะ...อะไรนะคะ?"
"นู่นเจ้าบ่าวของลูก" บิดาชี้ไปที่ชายร่างสูงอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ในขบวน พราวรุ้งหันไปมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
โห่ ฮิโห่ฮิโห่ฮิโห่ฮิโห่ฮิโห่ ฮิ้ว"
"ใครมีมะกรูด
มาแลกมะนาว
ใครมีมะกรูด
มาแลกมะนาว
ใครมีลูกสาว
มาแลกลูกเขย
เอาวะเอาเหวย
ลูกเขยกลองยาว
ตาลาลา...
หุย..ฮา..โห่..ฮี้ว"
