บทย่อ
ฐานะที่แตกต่างกันเกินไป ขวัญสุดาจึงถูกกีดกันทุกทางจากแม่ของผู้ชายที่เธอรัก ความรักที่เธอมีให้เขามากมายเหลือเกิน มากพอจนเธอคิดว่าบางทีควรจะเดินออกมา เพื่อ...ให้เขาได้เลือกเส้นทางตามที่ครอบครัวของเขาต้องการ เจ็บแต่จบกับทนแต่ไม่รู้ว่าทนเพื่ออะไรขวัญสุดาเฝ้าแต่ถามหาคำตอบให้ตัวเอง ผู้หญิงที่คิดจะขายตัวให้คุณหมอได้รับความรักเท่าที่มีในทุกวันนี้ก็มากเกินพอที่ควรจะต้องเดินออกมา /*/*/ “ฉันคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตถ้าวันนั้นฉันปล่อยเธอกลับไปโดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ” “ขอบคุณนะคะคุณหมอ ฉันไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนคุณอย่างไรดี ฉันไม่มีสมบัติอะไร จะมีก็แค่ร่างกายที่พอจะชดใช้ให้ได้บ้าง” “เอาเป็นว่าเมื่อเราสองคนพร้อมก็ค่อยมาว่ากัน ฉันไม่รีบร้อนหรอก จนกว่าอาการแม่เธอจะทุเลาลง ถึงวันนั้นฉันและเธอก็คงจะสนิทกันมากขึ้น” ในสัญญาเขาระบุไว้ชัดเจนว่าไม่ได้ปฏิเสธหากเธอต้องการตอบแทนบุญคุณเขาด้วยร่างกาย แต่ ขวัญสุดาจะต้องยินยอมไม่ฝืนใจตัวเอง และจะต้องไม่รู้สึกเสียใจในภายหลังเมื่อมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้กับเขาแล้ว /*/*/*/ “แล้วแบบนี้เราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อแม่ของคุณหมอก็ยังไม่ยอมรับฉันและท่านก็ตัดสินใจแล้วให้คุณหมอแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น” ตอนนี้มันสายเกินกว่าที่จะย้อนกลับไปแก้ไข เธอปล่อยให้ตัวเองท้องโดยไม่ได้คิดเลยว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่เอื้ออำนวย ดีไม่ดีหากเรื่องนี้รู้ถึงหูแม่คุณหมอ อีกฝ่ายอาจกล่าวหาว่าเธอท้องเพื่อจับ คุณหมอก็ได้ ดูแล้วทุกอย่างเหมือนจะมีทางออกแค่ไม่กี่ทาง
1ผมไม่ได้เป็นเกย์!
ตอนที่ 1
ผมไม่ได้เป็นเกย์!
กวินภพหัวเสียอย่างหนักแต่ก็ต้องเก็บอาการ เขาปั้นหน้านิ่งตลอดกาลสนทนาระหว่างสองครอบครัว ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะสบตาผู้หญิงตรงข้าม แม้ว่าเธอจะพยายามส่งสายตาให้เขาก็ตาม
กวินภพมองนาฬิกาของตัวเอง พลางชำเลืองมองผู้เป็นแม่ เขายอมรับว่าไม่พอใจที่แม่กุเรื่องเพื่อให้เขาออกมาจากโรงพยาบาล คิดว่ามีอะไรร้ายแรงแต่กลับกลายเป็นเรื่องไร้สาระที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด
ดารณีนุชต้องการให้ลูกชายมาดูตัว ทำ ความรู้จักกับลูกสาวเพื่อนสนิทของเธอ ณิชาเป็นดีไซเนอร์ที่มีผลงานโดดเด่น และยังเป็นเจ้าของ แบรนด์เสื้อผ้าที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ด้วยความที่เธอต้องสวย รวย และเก่ง ทำให้ดารณีนุชสนใจอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้
แต่กวินภพไม่ได้รู้สึกชอบผู้หญิงตรงหน้าเลย สายตาของเธอทำให้ชายหนุ่มรู้สึกขนลุก เธอโลมเลียเขาด้วยสายตาอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้กวินภพเผลอขมวดคิ้วหลายครั้ง
“ลูกชายป้าไม่เคยมีแฟนเลยนะ ถ้าได้แต่งงานกันหนูจะต้องเป็นผู้หญิงคนแรกของเขาอย่างแน่นอน”
ดาราณีนุชอวดสรรพคุณลูกชายให้อีกฝ่ายฟัง หญิงวัยกลางคนทั้งสองตีไม้ตีมือกัน โดยไม่ได้สังเกต สีหน้าบอกบุญไม่รับของชายหนุ่ม
กวินภพไม่รู้ว่าแม่ต้องการนัดเขาให้มาดูตัว หากรู้ก่อนหน้าเขาคงจะไม่มา เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก หากนับดูแล้วนี่น่าจะเป็นครั้งที่ 13 ที่แม่พยายามจับคู่เขากับลูกสาวของเพื่อน
แม้ว่าจะล้มเหลวมาถึง 13 ครั้งแต่แม่ก็ไม่เคยลดละความพยายาม ชายหนุ่มไม่รู้จะทำยังอย่างไร ทั้งที่เคยบอกไปแล้วว่าเขาจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่แม่หาให้ อีกฝ่ามารดาก็ทำเป็นหูทวนลมทำไม่รู้ไม่ชี้และยังคงทำแบบเดิม
กวินภพรู้สึกขุ่นเคืองใจ การที่เขาจะมีหรือไม่มีแฟนทำไมแม่ต้องเดือดร้อนขนาดนี้
“ชวนน้องไปนั่งที่สวนข้างร้านสิลูก สวนตรงนั้นเพิ่งปรับปรุงใหม่ ร่มรื่นเชียว”
คนเป็นแม่บังคับให้ลูกชายพาณิชาออกไปสูดอากาศด้านนอก หวังว่าเมื่อทั้งสองใกล้ชิดกันอาจจะมีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้น แต่นอกจากชายหนุ่มจะไม่ทำตามแล้วเขายังปฏิเสธหน้าตาเฉย
“ไม่ดีกว่าครับ ตอนนี้เป็นเวลางานของผม ผมขอตัวกลับไปที่โรงพยาบาลก่อน”
คุณหมอหนุ่มลุกขึ้นยืนไม่ลืมที่จะยกมือไหว้เพื่อนรักของแม่ ถึงเขาจะไม่พอใจที่ทั้งสองพยายามจับคู่ให้ แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะเเสดงมารยาททราไม่ดีต่อหน้าทั้งสอง
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณน้า ไว้เจอกันที่บ้านนะครับคุณแม่”
ชายหนุ่มเดินลิ่วออกไปจนชายเสื้อกราวน์ปลิว รถยุโรปคันหรูแล่นออกไปจากร้านอาหาร ขึ้นสะพานก่อนหายลับสายตา
ดารณีนุชหน้าเจื่อน ได้แต่ยิ้มแห้งๆเมื่อลูกชายหักหน้าเธอต่อหน้าเพื่อนรักและลูกสาวของอีกฝ่าย
“ขอโทษด้วยนะ นี่เป็นเวลางานเขาคงจะมีเคสด่วน”
“ไม่เป็นไรหรอก ไว้วันหลังก็แล้วกัน นี่ถ้าฉันรู้ว่าเป็นเวลางานฉันคงไม่ให้เธอเรียกเขาออกมาเจอ เกรงใจน่ะ”
โชคดีแค่ไหนที่เพื่อนคนนี้เป็นคนใจเย็น และมักจะมองโลกในแง่ดีเสมอ ต่างจากณิชาผู้เป็นลูกสาวที่ใบหน้างอง้ำ เพราะตลอดการสนทนาชายหนุ่มแทบไม่มองหน้าเธอเลย แถมยังเมินใส่อีกต่างหาก
หญิงสาวเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ไม่คิดจะวิ่งตามผู้ชายที่ไม่ชอบเธอ สู้เอาเวลาไปโปรยเสน่ห์ให้ผู้ชายที่ชอบเธอยังดีซะกว่า
“ณิชาขอตัวก่อนนะคะคุณป้า พอดีนิชาเองก็มีงานด่วน”
ผิดหวังจากกวินภพเธอก็ยังมีผู้ชายในสต๊อกอีกมากมาย หญิงสาวสวมแว่นกันแดดเดินฉับๆออกไป ใบหน้าเชิดหลังตรง บ่งบอกว่าเธอมั่นใจในตัวเองมากแค่ไหน
“ต้องขอโทษอีกครั้งนะ ไว้วันหลังเราค่อยมาเจอกันใหม่”
ดารณีนุชหยิบกระเป๋า วางเงินจำนวนหนึ่งไว้บนโต๊ะ ก่อนรีบเดินออกไป เธออับอายมากกับการกระทำของลูกชาย ถึงขั้นส่งข้อความไปต่อว่าเขาอย่างรุนแรง
เย็นวันนั้นหลังจากที่ชายหนุ่มทำงานเสร็จแล้ว เขาก็แวะไปที่คลินิกของตัวเอง เพื่อตรวจความเรียบร้อยเหมือนทุกๆวัน นอกจากกวินภพจะเป็นลูกชายเศรษฐีนีแล้ว เขายังเป็นหมอฝีมือดี และเปิดคลินิกของตัวเองหลายสาขา
แม้ว่างานล้นมือแต่เขาก็ยังไม่คิดจะลาออกจากโรงพยาบาล เพราะทางอาจารย์หมอได้ขอไว้ให้เขาอยู่ช่วยที่นี่ก่อน ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกเลยไม่กล้าปฏิเสธ
“วันนี้เป็นยังไงบ้างไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
ชายหนุ่มเอ่ยถามพยาบาลที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ พยาบาลสาวหน้าแดง พยักหน้าด้วยท่าทางเหนียมอาย
“ไม่มีปัญหาอะไรก็ดีแล้ว ดูแลลูกค้าทุกคนให้ดีเท่าเทียมกันเข้าใจไหม”
หญิงสาวพยักหน้าพลางหลบสายตา ชายหนุ่มไม่สนใจเขาเห็นอะไรแบบนี้จนชินแล้ว ผู้หญิง หลายคนเวลาอยู่ใกล้เขาก็มักจะเหนียมอายแบบนี้เสมอ
“เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอ แล้วนี่คุณหมอจะกลับแล้วหรือคะ”
“ผมจะกลับแล้วมีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรค่ะคุณหมอ”
หญิงสาวเอ่ยอ้อมแอ้ม เธอแอบชอบกวินภพมานานแต่ไม่กล้าบอกเขา หลายครั้งที่เธอพยายามรวบรวมความกล้า แต่เมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มความกล้ามันก็กระเจิดกระเจิง
พยาบาลสาวได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ ไม่กล้าสารภาพรัก เพราะข่าวเรื่องของชายหนุ่มทำให้เธอนั้นเริ่มลังเลว่าควรจะชอบเขาต่อไปดีหรือไม่
กวินภพเดินทางกลับมาที่บ้าน เขาถอดเสื้อกราวน์พาดไว้ที่บ่า ถอดรองเท้าเก็บใส่ตู้ ก่อนฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดก่อนเข้าบ้าน
เขาเป็นคนเจ้าสำอางมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่หัวจรดเท้าจะต้องเนี๊ยบดูดีไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ยอมออกจากบ้านเด็ดขาด
ผมจะต้องจัดทรงอย่างดี ห้ามมีเส้นผมสักเส้นแตกแถวออกมา เสื้อของเขาจะตรวจดูทุกจุดหากมีรอยยับเขาจะตีกลับไปให้รีดไหม แม้แต่รองเท้าจะต้องขัดจนเงาวับ หากมีคราบเปื้อนเขาจะไม่ใส่รองเท้าคู่นั้น
ดารุณีนุชยืนกอดอกอยู่หน้าบันได มองลูกชายที่สำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกตรงประตู ก่อนออกจากบ้านสภาพไหนกลับมาสักที่ทำงานก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม กวินภพเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมาก มากจนทำให้แม่อย่างเธอเริ่มกังวล เพราะลูกชายสำอางเกินไป ผิดกับผู้ชายที่เธอเคยพบเจอทั่วไป
ดารณีนุชไม่ได้อยากคิดว่าลูกเป็นพวกผิดเพศ แต่ลักษณะท่าทางและพฤติกรรมหลายๆอย่างของเขาทำให้เธออดคิดไม่ได้
ด้วยเหตุผลนี้ดารณีนุชจึงอยากให้กวินภพแต่งงาน เพราะเธอกลัว กลัวว่าสิ่งที่คิดจะเป็น ความจริง

