เกริ่นนำ
แก้วกัลยาส่งรอยยิ้มสายตาเย้ายวนค่อย ๆ ก้าวเท้าถอยหลังอย่างเชื้อเชิญ อัศวนัยจ้องมองเหยื่อสาวแสนสวยตาไม่กะพริบพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเรียบออกทีละเม็ดพร้อมกับเดินย่างกรายเข้าหาเรือนร่างที่อยากครอบครอง ร่างบางยังคงถอยห่างทีละก้าวแต่คนใจร้อนมีหรือจะรอเวลาแห่งความเสพสุขไปได้นาน กายหนาพุ่งตัวเข้าหาโอบแขนแกร่งล้อมเอวบางไว้ให้อยู่ในอาณัติ หน้าสวยช้อนมองก่อนจะหลบตาลงมองหน้าอกกำยำโผล่พ้นจากเสื้อเชิ้ตเพียงน้อยนิด
“คุณดูประหม่า”
“ฉันไม่แน่ใจว่าคิดถูกไหมที่นัดคุณมาทำเรื่อง....อย่างว่ากัน” ฟันเรียงกัดขบริมฝีปากเลี่ยงสายตาหนีไม่มั่นใจ สายตาคมกรุ้มกริ่มลดสายตาลงปมเสื้อคลุมที่รวบรัดปิดเรือนร่างภายในไว้มิดชิดก่อนจะกระตุกสายเสื้อคลุมออกอย่างคนเอาแต่ใจ หญิงสาวหน้าเหวอรีบคว้าเสื้อคลุมที่กำลังเปิดอ้าออกเผยร่างกายเปลือยเปล่ามาปิดบัง
“มาขนาดนี้แล้ว ถึงจะลังเลผมก็ไม่ปล่อยคุณออกไปอยู่ดี” เสียงทุ้มแหบพร่าเกลี่ยปลายนิ้วไล้แก้มเนียนระเรื่อไปด้วยเลือดฝาดหน้าหล่อโน้มลงแตะปลายจมูกแนบกับปลายจมูกหญิงสาวมองสบตากันหวานซึ้ง ใจดวงน้อยเต้นรัวหายใจหอบแรงได้อยู่ใกล้เขาทีไรร่างกายคล้ายจะเสียการควบคุมวาบหวามเพียงเขาหายใจชิดใกล้ ริมฝีปากอุ่นปัดป่ายสัมผัสผ่านเบา ๆ กับริมฝีปากนุ่มไปมากระตุ้นให้ขนลุกชันมือเรียวกำเสื้อคลุมแน่นหลับตาพริ้มเงยหน้าขึ้นรับริมฝีปากหนาที่เคลื่อนผ่านก่อนจะกดจูบริมฝีปากนุ่มแนบแน่นไม่เว้นช่องว่างแม้แต่ส่งเสียงแขนแกร่งอ้อมล้อมกายสาวบดเบียดร่างกำยำเสียดสีอย่างปรารถนา ออกแรงกดจูบหนักหน่วงแทรกลิ้นสากเข้ากวาดเลียความหวานให้สมกับการรอคอยที่จะได้ครอบครองแม้รู้ดีว่าเป็นเรื่องต้องห้ามแต่ความต้องการนั้นก็ยากเกินควบคุม ผู้หญิงอื่นมากมายไม่ทำให้ความร้อนรุ่มโหยหาลดลงได้นอกจากเธอที่อยากได้ไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็ตาม
“แชะ แชะ แชะ” เสียงรัวชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปและฝีเท้าคนจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาให้ห้อง อัศวนัยสะดุ้งหันขวับไปมองด้วยความตกใจรีบผละออกรวบหญิงสาวไว้ข้างหลังอยู่ชิดหลังแกร่งไม่ให้ใครเห็นเกรงว่าเธอจะเสียหาย ส่วนตัวเขาเผชิญหน้ากับชายหญิงสี่คนกำลังยกโทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายรูปเก็บภาพเขากำลังจูบกับแก้วกัลยา
“ออกไป!” เสียงทุ้มตวาดลั่นแววตาแข็งกร้าวขบกรามขยี้โกรธคนบุกรุกจนแทบอยากพุ่งเข้าไปต่อยให้ราบเป็นหน้ากลองติดที่เขากำลังปกป้องหญิงสาวด้านหลัง
“นั่นคุณแก้วกัลยาใช่ไหมคะ คุณสองคนลักลอบมีความสัมพันธ์กัน” ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือบันทึกวิดีโอพยายามจะยื่นมือไปข้างกายหนาเพื่อให้เห็นผู้หญิงที่เขายืนบังไว้
“อย่าเสือกเรื่องของกู!” อัศวนัยถอยหลังเบี่ยงตัวไปมาพยายามบังไม่ให้ใครถ่ายรูปเธอไปได้
“สองตระกูลเป็นคู่แข่งรักกันเปิดเผยไม่ได้เลยแอบมาพลอดรักกันใช่ไหมครับ”
“กูจะฟ้องพวกมึงให้หมด!” อัศวนัยเกรี้ยวกราดจ้องคนถามตาเขม็งอย่างเอาเรื่อง หญิงชายแปลกหน้าชะงักหันมองกันเลิ่กลั่ก อัศวนัยได้ทีพลิกตัวหันมาโอบกอดแก้วกัลยาไว้ในอ้อมกอดแล้วกดหัวเธอให้ก้มลง
“เข้าไปหลบในห้องน้ำก่อน” เขาดันเธอให้เดินถอยหลังไปยังห้องน้ำเพื่อซ่อนตัวชายหญิงทั้งสี่ก็ยังเดินตามมาถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคล
“หยุด! อย่าถ่าย! กูบอกให้หยุดไงไอ้พวกห่าเอ๊ย!” อัศวนัยยกแขนปัดไล่ไม่ให้คนแปลกหน้าเดินตามมืออีกข้างก็กดหัวแก้วกัลยาให้มุดอยู่แนบอกพาเดินไปห้องน้ำด้วยกันแต่อัศวนัยก็ต้องหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วชะงักนิ่งก้มมองหญิงสาวพยายามดันหัวตัวเองขึ้นมาเงยมองหน้าเขา ชายหญิงสี่คนรัวชัตเตอร์ยื่นแขนยาวมาบันทึกวิดีโอเก็บข้อมูลกันเต็มที่
อัศวนัยก้มมองหน้าสวยที่ช้อนมองเขาคล้ายอยากเปิดเผยใบหน้า ไม่มีความตื่นตระหนกกลัวว่าตัวเองจะเสียหาย คิ้วเข้มขมวดสับสนจ้องมองสายตาเธอคล้ายไม่ได้หวาดกลัวแต่เป็นการมองอย่างรู้สึกผิดเสียมากกว่า อัศวนัยตัวชาวาบตั้งแต่หลังยันปลายเท้าแววตาสั่นระริกรู้ได้ทันทีว่าตัวเองตกกับดักของเธอเข้าให้แล้ว
“คุณหลอกผม”
“ขอ...โทษ” น้ำเสียงหวานลากยาวและแผ่วเบาน้ำใสเคลือบดวงตาสวยปริ่มจะไหลรู้สึกว่าตัวเองเลวที่หลอกเขาทั้งที่เขาพยายามปกป้อง อัศวนัยบดกรามขยี้ด้วยความโมโหแววตาเจ็บปวดในสิ่งที่เธอทำไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลอะไรก็ตามในสายตาของเขาก็มองผู้หญิงตรงหน้าที่หลอกลวงเขาดีไม่ได้อีกและนับจากวินาทีนี้เธอคือศัตรูจอมมารยาร้ายกาจที่เขาเกลียดที่สุด.................
