บทที่ 5
ใช้เวลาไม่นานจากกรุงเทพฯจนถึงเชียงใหม่ มีคนของไร่ชนะพลมารอรับพวกเขาอยู่แล้ว ปารดาทำตามทุกอย่างที่ชนาวินสั่ง เธอไม่พูดอะไรและเข้าไปนั่งรอในรถ เห็นว่าชนาวินกำลังสั่งงานลูกน้องอยู่ และทุกคนก็ขึ้นมาบนรถตู้ก่อนจะขับออก
"พักสายตาก่อนก็ได้ครับ อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง" เป็นป่าสน คนสนิทของชนาวินที่เอ่ยบอกกับปารดาด้วยความเป็นห่วง ปารดาตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมตัวเข้าพิธี จนนี่เกือบหัวค่ำแล้วคงจะเหนื่อยน่าดู ยิ่งเห็นใบหน้าอิดโรยก็รู้สึกสงสารไม่ได้
"อีกไกลเหรอคะ" ปารดาถามกลับเพราะไม่รู้ทิศรู้ทางอะไรเลย
"ครับราว ๆ สองชั่วโมง" ป่าสนยิ้มตอบ
"เงียบๆฉันจะนอน" เสียงชนาวินดังขัดขึ้น ป่านสนเม้มปากแน่นแล้วหันกลับไปนั่งดีๆ ส่วนชนาวินที่หลับตากอดอกนิ่งก็เบนหน้าหนีไปทางอื่น ปารดาเลยได้แต่มองเขาแล้วถอนใจออกมา สงสัยจะไม่ชอบเธอจริงๆ
ปารดาปรับท่านั่งให้พอดี หลังตาลงเพื่อพักสายตาตามที่ป่านสนแนะนำ และพล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
รถตู้แล่นด้วยความเร็วคงที่ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงก็มาถึงไร่ส้มชนะพล ปารดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าหัวของชนาวินเกยอยู่ที่ไหล่ของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
"นี่คุณ..." ปารดาไม่กล้าขยับแรง กลัวว่าอีกคนจะตกใจ แต่มันก็ทำให้ชนาวินตื่นขึ้นมาทำหน้ามุ่ยใส่อยู่ดี
"เสียงดังอะไรเนี่ย หนวกหู" เขาบ่นใส่ หน้าตาบึ้งตึงคิ้วขมวดมุ่น
ปารดาพรูลมหายใจ แค่เรียกเบาๆยังหาว่าเสียงดัง นี่ถ้าตะโกนใส่จะเป็นยังไง
"....." ปารดาไม่ได้พูดอะไร แค่ทำหน้านิ่งแล้วปล่อยให้อีกคนอาละวาดใส่ได้ตามใจ
"พ่อเลี้ยงครับ ถึงแล้วครับ" ป่าสนบอก เปิดประตูออกกว้างเพื่อให้เจ้านายลงมาจากรถตู้ ตามมาด้วยปารดา ชนาวินยืนมองปารดาอย่างใช้ความคิด ความคิดที่เต็มไปด้วยแผนการ
/พ่อไม่อยู่เดือนนึง จะทำอะไรกับเธอก็ได้สินะ/ เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะคว้าเข้าที่แขนเสลา พาไปที่ศาลาที่อยู่ในสวนของบ้าน
"คุณ ฉันเจ็บค่ะ" ปารดาท้วงขึ้นมา แรงบีบที่ข้อมือทำให้เจ็บแปลบ และชนาวินก็ปล่อยเธอเป็นอิสระ
"เรามีเรื่องต้องตกลงกัน" เขาตีหน้าขรึม
อันที่จริงปารดามองว่ามันคือการเก็กหน้าให้ดูขรึมมากกว่า แล้วก็ไม่เห็นว่าอีกคนจะหล่อตรงไหน ทำไมจากที่รู้มาเขาออกจะฮอตในหมู่สาวๆมากมาย แถมยังติดอันดับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเมื่อปีก่อนด้วย
"ว่ามาสิคะ" ปารดาไม่ได้กลัวเขาหรอกนะ ถึงจะตีหน้าขรึมให้ดูน่ากลัวก็เถอะ แต่เธอก็ยังเกรงใจอีกฝ่าย ในฐานะเจ้าหนี้
"ตั้งแต่วันนี้เธอคือป่าน ป่านเฉยๆไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้อง เธอเจอพ่อฉันที่กรุงเทพฯ ก็เลยมาของานทำ เธอคือคนงานใหม่ของพ่อ ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องคุยกับใครเรื่องส่วนตัว ก้มหน้าทำงานไปเข้าใจนะ" ชนาวินพูดไป เท้าเอวไป คำพูดคำจาที่บอกออกมาเหมือนกำลังจะเล่นขายของ นี่เธออยู่ในละครเรื่องอะไรกัน ปารดาคิด
"แค่นี้ใช่ไหม" ปารดาตอบออกไปนิ่งๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชนาวินค่อนข้างตกใจ
ปารดาไม่มีอาการตกใจด้วยซ้ำกับสิ่งที่เขาพูดออกมา เหมือนเธอเตรียมใจมาแล้วว่าต้องเผชิญกับมัน
ใช่ปารดาเตรียมใจมาแล้ว เธอรู้ว่าชนาวินไม่ได้เต็มใจจะแต่งงาน ไม่ว่าจะกับเธอหรือพี่สาว แต่ถึงอย่างนั้นชนาวินก็คงพึงพอใจปารมีมากกว่าเพราะรายนั้นทั้งสวยและเก่ง ต่างจากเธอ ที่แทบจะเทียบอะไรพี่สาวไม่ได้เลย
"เธอ โอเคเหรอ" เขาถามย้ำ หน้าตาเหรอหราที่เผลอแสดงออกมาทำให้ปารดาจ้องนิ่งๆ ท่าทางเขาจะตกใจไม่น้อยเลยที่เธอยอมทำที่เขาบอก
"แล้วฉันต้องนอนที่ไหน ฉันบอกใครไม่ได้ด้วยใช่ไหมเรื่องแต่งงาน" ชนาวินอึ้งอีกครั้งกับคำถามของคนตรงหน้า
"ใช่...เธอห้ามบอกใครเรื่องของเรา เข้าใจนะ แล้วก็ถอดแหวนด้วยนะ ฉันเองก็จะถอดเหมือนกัน" พูดแล้วก็ทำอย่างที่ปากพูด ถอดแหวนเพชรเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที
"แล้วลูกน้องคุณ" ปารดากลอกตากับการกระทำของคนตรงหน้าก่อนถามออกไป
