บท
ตั้งค่า

5

“ฝนถูกพวกผู้ชายเกเรในนั้นรุมน่ะครับ แล้วก็ฉุดลากจะพาไปที่อื่น ผมเห็นท่าไม่ดีก็เลย...”

ได้ยินแล้วก็พอคาดเดาเหตุการณ์ต่อจากนั้นได้ ถามดักยิ้มๆ

“เลยไปมีเรื่องกับพวกนั้น เพราะช่วยสาวงาม?”

ภูผาพยักหน้าเป็นการตอบรับ โหนกแก้มแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย

“ประมาณนั้นครับ”

“หล่อชะมัดเลยลูกชายแม่ แต่...” เธอชมก่อนสอนต่อจากนั้น และพ่อตัวดีก็รีบขัดอย่างรู้ทัน

“แต่ภูควรไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น” ภูผาบอกเสียงอ่อย ไม่ลืมอ้อนมารดา “แล้วผมก็ถูกซ้อมจนน่วมอย่างที่เห็นนี่ละครับ”

ขิมแขเลยอดค้อนส่งให้ไม่ได้

“ในงานไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเลยหรือไง น่าแปลกจัง”

“มีครับ” ภูผาตอบรับแล้วเล่าเรื่องในตอนนั้นให้ฟังไม่ปิดบัง “แต่พอดีผมกับฝน เราชวนกันว่าจะไปดูดาวตรงจุดที่เขาห้ามเข้า”

“อ้อ...” ขิมแขเลยเข้าใจได้ในตอนนั้นเอง ลูกชายของเธอพาเด็กสาวคนนั้นหลบไปดูดาวกันสองต่อสอง ห่างตาคน เลยเปิดโอกาสให้พวกคนไม่ดีใช้จังหวะนี้เข้าไประรานได้ ในที่สุดก็รู้เรื่องราวเสียทีว่าเป็นมาเป็นไปอย่างไร

“หลังจากนั้น ปลายฝนเลยพากลับมาที่บ้านของเธอครับ” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ภูผาจึงเล่าต่อจนจบ

“กลับมายังไง เด็กคนนั้นขับรถได้หรือ แล้วใบขับขี่?”

ภูผายิ้มเจื่อน ส่ายหน้าให้เป็นคำตอบว่าปลายฝนไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์

คนเป็นแม่เลยได้แต่ผ่อนลมหายใจด้วยความเพลีย ไม่เห็นด้วยเลยที่บ้านนั้นให้เด็กอายุเท่าภูผาใช้รถยนต์ได้แล้ว พ่อของเด็กสาวปลายฝนคงคิดว่ามีเงิน เลยใช้เงินแทนความรัก ความอบอุ่นให้ลูกได้ละมัง

หากขับรถไปชนใครเข้า ความรับผิดชอบจะมีไหม

คิดอย่างหนักใจ ถามให้คลายสงสัยอีกข้อ

“ตอนเข้าบ้านหลังนั้น พ่อเขาไปไหน คนของเขาอีก ทำไมไม่เห็นลูก”

“ฝนแอบพาเข้าทางหลังบ้านครับ มีพี่เลี้ยงของฝนคอยช่วยพาไป”

ได้ยินแล้วก็เผลอบ่นออกไปไม่ได้ “แสบจริง ๆ เลยเด็กคนนี้”

“ฝนแค่อยากทำแผลให้ผมครับ” รีบออกปากปกป้องคนที่ตนมีใจให้ ขิมแขเหลือบตามอง ถอนใจ บอกยิ้ม ๆ

“แม่รู้จ้ะ”

“คุณแม่อย่าว่าฝนเลยนะครับ”

ขิมแขยิ้มอีกหน่อยแล้วว่า “ทำผิดก็ต้องว่ากล่าวตักเตือนเป็นธรรมดานี่นา แต่ภูอย่าลืมนะ…” ยังพูดไม่จบประโยคดี ภูผารีบขัดด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ภูไม่ลืมครับคุณแม่ ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะมีความรักแบบหนุ่มสาว”

“ใช่จ้ะ ตอนนี้ลูกมีหน้าที่ตั้งใจเรียนเท่านั้น เพื่อนมีได้ คบหากันได้ แต่อย่าเกินเลยจนควบคุมไม่ได้”

“ครับ ภูไม่ลืมครับ”

ขิมแขหันมายิ้มให้บุตรชาย บอก “นี่ถ้าคุณพ่อไม่ติดสัมมนาที่ญี่ปุ่น คงได้เจอปลายฝนด้วย”

ภูผามีสีหน้าอึดอัดใจเล็กน้อย บอกเสียงนุ่มนวลติดอ้อนวอน

“อย่าเพิ่งเล่าเรื่องนี้ให้คุณพ่อฟังได้ไหมครับ”

ได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นของภูผา ก็รู้ว่าลูกไม่สบายใจ ขิมแขถามกลับ แม้พอจะคาดเดาคำตอบได้ก็ตาม “ทำไมจ๊ะ”

“ภูกลัวคุณพ่อผิดหวังในตัวภูครับ”

ลาสายตาจากถนนชั่วขณะ มองทางภูผา หลังได้ยินคำตอบ

‘นายแพทย์พิริยะ’ บิดาของภูผาเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่อง เลี้ยงลูกเข้มงวดและคาดหวังกับภูผามาก หากทราบว่าบุตรชายคนเดียวโกหกเพื่อไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศ แล้วยังไปมีเรื่องชกต่อย ย่องเข้าบ้านเขาแบบนี้ ภูผาคงได้เจอข้อหาหนัก ถูกกักบริเวณ และอาจต้องอ่านแต่หนังสือจนไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนอีกเป็นแน่

ขนาดว่าตัวไม่ค่อยอยู่บ้าน นายแพทย์พิริยะก็ยังสามารถเคี่ยวเข็ญภูผาให้อ่านแต่หนังสือตลอดเวลาได้ โดยผ่านทางคนของเขา จนเธอต้องเข้าขันอาสาว่าจะเคี่ยวเข็ญดูลูกให้เอง แล้วเพิ่งมีโอกาสได้แตกแถว แอบหนีเที่ยวครั้งนี้เป็นครั้งแรก เริ่มทีแรกก็เล่นเอาเสียหนัก ไปมีเรื่องมีราวเข้าจนได้ ภูผาคงเป็นพวกทำตัวเหลวไหลไม่ขึ้นละมัง

ขิมแขถอนหายใจเบาๆ เมื่อนึกถึงนายแพทย์พิริยะ รับปากกับภูผา “ได้ลูก แม่สัญญาว่าเรื่องนี้เราจะรู้กันแค่สองคนเท่านั้น”

“ขอบคุณครับ”

ภูผาบอกด้วยสีหน้าคลายกังวล ยิ้มให้ขิมแขอย่างโล่งใจ

“แม่ตกใจมากรู้ไหม ตอนพวกเขาโทรหาแม่ กำลังเป็นนางแบบให้กานดาอยู่เลย ชุดก็ไม่ได้เปลี่ยน รีบออกไปรับภู”

ภูผามองชุดของเธอแล้วก็หัวเราะเบาๆ

“คุณแม่ใส่ชุดแบบนี้ก็สวยดีครับ”

เธอยิ้มก้มลงมองเสื้อแวบหนึ่งแล้วบ่น “สวยก็สวยดีหรอก แต่โป๊ไปหน่อย ภูว่าไง”

บอกจบนึกถึงสายตาคมดุคู่นั้นของชายคนนั้นที่มองเธอเมื่อครู่ คงคิดว่าเธอเป็นพวกแต่งตัวสวยไร้สมองไปวัน ๆ ละมัง ช่างเขาสิ คิดอย่างไร แบบไหน ก็ช่างประไร ใครสน เพราะคงไม่ได้วนไปเจอกันอีกแล้ว ท่าทางหวงลูกสาวขนาดนั้น คงไม่มีทางปล่อยออกมาเจอใครอีกเป็นแน่

แว่วเสียงภูผากล่าวขัดขึ้น

“แม่ขิมของภูใส่ชุดไหนก็สวยครับ”

ได้ยินลูกยอออดอ้อนแบบนั้นแล้ว อดยกมือข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัยลูบศีรษะบุตรชายเบา ๆ อย่างมันเขี้ยวไม่ได้ แล้วคุยเรื่องอื่นเอื่อยเฉื่อยเรื่อยไป พารถมุ่งหน้าสู่จุดหมายในเวลาต่อมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel