ตอนที่ 4
เรือนหอ
รุ่งเช้า
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องนอน แสงอบอุ่นที่ควรปลุกให้วันใหม่สดใสกลับทำให้หญิงสาวบนเตียงนอนรู้สึกหนักอึ้งในอกมากกว่าเดิม
เปลือกตาบางค่อย ๆ ลืมขึ้น ดวงตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้ทั้งคืนยังคงแดงเรื่อ เธอขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนล้า ราวกับร่างกายปฏิเสธที่จะเริ่มต้นวันใหม่
"อื้อ…ปวดหัวจัง" เสียงบ่นเบาหวิวเล็ดลอดจากริมฝีปาก เธอฝืนยันกายลุกขึ้นนั่ง แต่แรงบีบที่ขมับทั้งสองข้างก็ทำให้ร่างเล็กต้องล้มตัวลงไปบนหมอนอีกครั้ง อาการไมเกรนกำเริบขึ้นทุกครั้งที่ความเครียดกดทับ และเมื่อคืน…เธอก็ร้องไห้จนไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน
เวลาผ่านไปหลายนาที เธอค่อย ๆ พยายามฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นอีกครั้ง แม้ขาจะสั่นไหวเล็กน้อยก็ตาม มือเรียวเอื้อมไปเปิดลิ้นชักข้างเตียงด้วยความหวังว่าจะเจอยาที่ช่วยบรรเทา แต่เมื่อค้นหาไปทั่วก็พบเพียงความว่างเปล่า
“หมดเหรอเนี่ย…” เธอพึมพำเสียงแผ่ว สายตาไหวระริก น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงข้างเตียง มือกำขอบลิ้นชักแน่นเล็กน้อยเพื่อสะกดความเจ็บปวดทั้งกายทั้งใจที่รุมเร้า
หญิงสาวพยายามฝืนกายลุกขึ้น แม้ศีรษะยังหนักอึ้งอยู่ทุกย่างก้าว เธอพยุงตัวเองเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าเบา ๆ ให้ความเย็นของน้ำช่วยลดความร้อนผ่าวที่แผ่กระจายอยู่บนขมับ ร่างกายยังสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็รวบรวมแรงเพื่อจะเปลี่ยนชุดลงไปซื้อยาไมเกรนที่ร้านขายยาด้านล่าง
เมื่อบิดกลอนประตูห้องนอนแล้วก้าวออกมา เสียงวางแก้วกระทบโต๊ะดังขึ้นเบา ๆ ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ
“พี่เหนือ…” น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างสูงของสามีนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟา โต๊ะกระจกตรงหน้ามีแก้วกาแฟร้อนวางอยู่ กลิ่นหอมกรุ่นตลบอบอวลไปทั่วห้องนั่งเล่น เมื่อคืนเขากลับมาหรือเพิ่งกลับมากันแน่ เธอไม่แน่ใจ รอยยิ้มเล็กน้อยที่กำลังจะปรากฏกลับหยุดชะงักเมื่อเห็นสีหน้าของเขาที่เรียบเฉยเกินไป
"พี่เหนือจะทานข้าวเช้ามั้ยคะ" เสียงหวานเอ่ยถามสามีเธอพยายามฝืนยิ้มแต่ดวงตาของเธอไม่ได้ยิ้มตาม
"ฉันไม่กิน" ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงห้วนๆ เธอที่ได้รับความเย็นชาจากเขาก็เริ่มชินเสียแล้ว
"พี่เหนือ...จะซื้ออะไรมั้ยคะลินจะลงไปซื้อยาค่ะ" หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มเสียงแหบแผ่ว
"ยาอะไร" ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง คิ้วขมวดชนกันด้วยสงสัย
"ยาไมเกรนค่ะ...พอดีมันหมด" ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอย่างพิจารณา เขาไม่เคยรู้เลยว่าภรรยาในนามของเขาเป็นไมเกรนมาก่อน แต่จะรู้ได้ไงแค่วันหนึ่งคุยกันไม่ถึงสิบคำด้วยซ้ำ
"ฉันไม่อยากได้อะไร..." ชายหนุ่มพูดจบก็ก้มลงเล่นโทรศัพท์ต่อ หญิงสาวเตรียมจะเดินออกจากห้องแต่ต้องหลุดชะงักหันมาถามเขาด้วยความสงสัย
"พี่เหนือไม่ไปทำงานเหรอคะ" หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยเพราะตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในชุดลำลองสบายๆ แค่น้อยมากที่เขาจะหลุดงานแบบนี้
"อืม.." ชายหนุ่มออกเสียงภายในลำคอ หญิงสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
เวลาผ่านไปหญิงสาวก็เปิดประตูเข้ามาภายในห้องหลังจากไปซื้อยาและของใช้ในครัวเล็กน้อย ในมือของเธอมีทั้งถุงยาและของกินมากมาย เธอมองหาชายหนุ่มไปรอบห้องนั่งเล่นแต่ก็ไม่เจอคนเป็นสามี เธอหันตัวเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อที่จะนำของไปเก็บและเธอเองก็จะได้ทานยาด้วยเพราะตอนนี้อาการปวดมันเพิ่มมากขึ้นจนปวดไปถึงดวงตา
แกร๊ก~
เสียงเปิดประตูห้องนอนของชายหนุ่มดังแวบหนึ่ง หญิงสาวที่กำลังกินยาและดื่มน้ำหันไปมองชายหนุ่มแต่ก็พบเพียงสายตาเรียบเฉยของชายหนุ่ม เขาเปลี่ยนชุดใหม่เหมือนจะออกไปข้าง
“พี่เหนือ…จะไปไหนเหรอคะ” น้ำเสียงเธอสั่นเล็กน้อย แต่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา ชายหนุ่มเหลือบมองเธอเพียงเสี้ยววินาที ก่อนเอ่ยคำตอบเย็นชาที่ตัดใจของเธอออกจากใจทันที
"ฉันจะไปหาปริม" เพียงคำสั้น ๆ นั้น หัวใจของลินเหมือนถูกกระแทกจนจุกจนแทบหายใจไม่ออก เขาก็เห็นอยู่ว่าเธอไม่สบายแต่ก็อย่างว่านะเธอไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขาไม่ว่าเธอจะเป็นตายร้ายดียังไงเขาก็ไม่สนใจหรอก
เธอเฝ้ามองร่างสูงของเขาเดินออกไป มือเรียวยกถุงยาแน่นเกร็งราวกับต้องพยุงตัวเองไม่ให้ล้ม ลินเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง พิงตัวกับประตูช้า ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินเงียบ ๆ ในความมืดของห้อง
ร่างเล็กทรุดตัวลงบนเตียง ผ้าห่มคลุมตัวเองแน่นเพื่อหนีความเจ็บปวดทั้งกายและใจ เสียงของความเงียบเย็นชาในห้องทำให้หัวใจเธอเหมือนถูกบีบแน่นยิ่งกว่าเดิมในที่สุด เธอหลับตาลงอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะได้พักผ่อน…แต่เพื่อหนีความจริงที่ว่า เขาไม่เคยมองเห็นเธอเลย
ด้านทิศเหนือ
ลานหน้าคอนโดของปริม
แสงแดดยามสายสาดลงมากระทบพื้นลานจอดรถ เงาของต้นไม้เล็ก ๆ สะท้อนบนพื้นปูนทำให้บรรยากาศดูสดชื่นและสงบ ปริมก้าวขึ้นมาบนรถด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
"รอนนานมั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มทันทีเมื่อเธอขึ้นมาบนรถ
"ไม่ค่ะ...ปริมเพิ่งลงมา" ปริมหันไปยิ้มหวานให้ชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยตอบเขา
"ปริมอยากกินข้าวร้านไหนบอกพี่มาได้เลย" ชายหนุ่มพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมีรอยยิ้มเล็กๆ แต้มอยู่บนหน้า
"อื้อ...ร้านเดิมก็ได้ค่ะ" ปริมทำท่าทางคิดก่อนจะบอกร้านที่อยากทาน ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าให้เธอก่อนจะขับออกจากคอนโดของเธอทันที
"พี่ไปไหนมาไหนกับปริมแบบนี้ภรรยาของพี่ไม่ว่าเหรอคะ" ปริมหันมาถามชายหนุ่มด้วยความอยากรู้
"เขาจะว่าอะไรได้พี่กับเขาแค่แต่งงานกันเพราะธุรกิจเท่านั้น" ปริมยกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะเมื่อได้ขายหนุ่มพูดออกมาแบบนั้น
"แล้วเมื่อไหร่พี่จะหย่ากับเขาค่ะ..." ปริมแสร้งทำหน้าเศร้าเพื่อเรียกคะแนนจากชายหนุ่ม และมันมั่งจะได้ผลเสมอ
"อีกไม่นาน" ปริมยิ้มกว่างทันทีเมื่อได้ว่าเขากำลังจะหย่ากับภรรยาในนาม
