บท
ตั้งค่า

9 กับดักเสน่หา NC

ห้องสวีทสุดหรูของโรงแรมระดับห้าดาว พริมาอยู่ในอ้อมกอดของภาสกร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในเวลานี้ ส่วนใหญ่คือการมาใช้เวลาด้วยกันในที่แบบนี้ ห่างไกลจากสายตาผู้คนและโลกภายนอก

แสงไฟสีนวลตาที่ซ่อนตามมุมต่างๆ สาดส่องลงมาอย่างนุ่มนวล บรรยากาศภายห้องในอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้สดที่จัดวางอย่างสวยงามคลอเคลียไปกับเสียงเพลงคลาสสิกเบาๆ ที่เปิดคลอ สร้างช่วงเวลาที่แสนจะโรแมนติกและเป็นส่วนตัว

ภาสกรประคองใบหน้าของพริมาขึ้นมอง แววตาคมของเขากวาดมองเรือนร่างอันแสนสวยงามของเธออย่างสำรวจทุกซอกทุกมุม ราวกับกำลังชื่นชมผลงานศิลปะอันล้ำค่า ความปรารถนาในดวงตานั้นทำให้พริมาอดหวั่นไหวไม่ได้ แม้จะมีความรู้สึกอื่นปะปนอยู่ในใจอยู่ก็ตาม

พริมาเองก็โน้มตัวเข้าไปหาอย่างอ่อนโยน สองแขนเรียวบางโอบรัดรอบคอชายหนุ่ม ตอบรับสัมผัสของเขาอย่างแผ่วเบา ภาสกรยิ้มรับ ก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหาทรวงอกอวบอิ่มคู่นั้น ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดผิวกาย สัมผัสนั้นชวนให้รู้สึกวาบหวามไปทั้งตัว ก่อนที่เขาจะจัดการไล้ริมฝีปากไปทั่วบริเวณอย่างเชื่องช้าและดูดดื่ม ปลุกเร้าความปรารถนาของพริมาให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง

ชีวิตของพริมายังคงวนเวียนอยู่กับภาสกร ความใกล้ชิดทางกายที่เริ่มต้นในค่ำคืนนั้นที่ต่างจังหวัด ได้พัฒนากลายเป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปแล้ว พริมายังคงยอมปล่อยให้ภาสกรครอบครองร่างกายเรื่อยมา

ตั้งแต่ครั้งที่กลับจากลพบุรี และทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน ความใกล้ชิดทำให้หัวใจของพริมาเต้นแรงขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะด้วยความหวั่นไหว ความคุ้นชิน หรือความรู้สึกที่สับสนปะปนกันไป แม้ลึกๆ ในใจจะรู้ดีถึงสถานะ 'เมียน้อย' ที่ตนเองเป็นอยู่ก็ตาม

เมื่อสัมผัสเร่าร้อนทวีความรุนแรงขึ้น ร่างบางสะท้านเฮือก เมื่อความหนักแน่นของความเป็นชายแทรกเข้ามาในเรือนกายสาว ความรู้สึกเสียวซ่านเพิ่มมากขึ้นจนร่างกายแทบจะทนไม่ไหว เธอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างของเขาแน่นและซ่อนใบหน้าลงกับซอกคอ สลัดทุกความคิด ทุกความกังวลออกไปชั่วขณะ ปล่อยให้ความรู้สึกทางกายเข้าครอบงำแต่เพียงผู้เดียว

ในห้วงเวลาแห่งความปรารถนาที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น ไม่มีคำพูดใดๆ มีเพียงเสียงลมหายใจ และสัมผัสที่เร่าร้อน ก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดถอนตัวตนเองมาเพราะอยากยืดเวลาแห่งความสุขนี้ให้ยาวนานออกไป

พริมายอมให้เขาได้ลงมือสำรวจเรือนร่างด้วยริมฝีปากอีกครั้ง เสียงหวานครางแผ่วเมื่อริมฝีปากของเขาประทับลงบนเนินอกอวบอิ่ม ดูดดึงราวกับต้องการกลืนกินทุกความรู้สึก

สัมผัสร้อนรุ่มไล่ไปตามส่วนโค้งเว้า ปลุกเร้าทุกอณูประสาทให้ตื่นตัว เรียวลิ้นไล่ไปยังจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกายหญิงสาวอีกครั้ง ปลุกปั่นความเสียวซ่านให้แล่นพล่านไปทั่วร่าง ก่อนที่เรียวขางามทั้งสองข้างจะถูกจับแยกออกจากกันอย่างนุ่มนวลพร้อม ๆ กับใบหน้าอันหล่อเหลาที่ซุกไซ้ไปยังจุดกึ่งกลางของร่างกายที่อ่อนไหวที่สุด

“คิดถึงตรงนี้ที่สุดเลยครับ?” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบบอก พร้อมกับมือหนาที่นวดเฟ้นไปตามทรวงอกอวบอิ่ม พริมาหลับตาพริ้ม ตอบรับด้วยเสียงครางในลำคอ

“อือออ!!.. คุณภาส..!!” เรียวลิ้นร้อนชื้นสัมผัสจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกายหญิงสาว ปลุกปั่นความเสียวซ่านให้แล่นพล่านไปทั่วร่างอย่างไม่หยุดหย่อน

“อ๊ะ... ซี๊ด!!!...” พริมาปล่อยเสียงครางหวานออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มือเรียวเริ่มจิกผ้าปูที่นอน พร้อมกับสะโพกที่เกร็งบิดไปมาด้วยความเสียวซ่านจนภาสกรต้องถอนการปลุกปั่นออกมา หญิงสาวหุบขาเกร็งและเอามือปิดบังของสงวนเอาไว้ด้วยความทรมาน

เรียวขางามทั้งสองข้างถูกมือแกร่งจับแยกออกจากกันอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง พร้อมๆ กับใบหน้าอันหล่อเหลาที่ซุกไซ้ลงไป สัมผัสอุ่นชื้นและเร่าร้อนแตะลงบนจุดกึ่งกลางร่างของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มรุกล้ำอย่างช้าๆ ทว่าหนักหน่วง

“คุณภาส!!!!... อย่าค่ะ...ตรงนั้นมันเสียว” พริมาพยายามห้ามปรามเสียงสั่น แต่ร่างกายกลับทรยศ เธอเริ่มบิดเร้าด้วยความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามา

“ทำไมล่ะ...ที่รัก อย่าห้ามเลย ผมรู้ว่าคุณชอบ...” เสียงกระซิบแหบพร่าดังอยู่ระหว่างเรียวขา

“คุณภาส...อื้อ... มัน... มัน...เสียวอะ อย่าเขี่ยตรงนั้น” พริมาหาคำพูดไม่ได้ ร่างกายเธอสั่นเทิ้มไปหมด

“บอกผมสิ...ที่รัก ว่าคุณต้องการอะไร...” ไฮโซหนุ่มเร่งเร้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปรารถนา

“คุณภาสขา...ช่วยเข้ามาเถอะค่ะ” พริมาครางตอบเสียงแผ่ว ก่อนจะปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไปอย่างเคลิบเคลิ้ม

ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นจนร่างบางแทบจะหลอมละลาย เสียงร้องครวญครางแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบาง ราวกับเสียงของคนที่กำลังจะขาดใจในห้วงอารมณ์ปรารถนา สัมผัสที่รุกเร้านั้นทำให้ภาสกรพึงพอใจยิ่งนัก ยิ่งเห็นเธอส่ายสะโพกไปมาเพื่อตอบรับ เขายิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนรุ่มให้มากขึ้นอีก

เมื่อแรงตอดรัดจากร่างกายของเธอมีมากจนเรียวลิ้นสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่เข้มข้น เขาจึงละริมฝีปากออก แล้วส่งร่างกายหนุ่มแน่นเข้าไปสำรวจแทนที่ตามที่เธอขอร้อง

ความอ่อนนุ่มภายในโอบรัดชายหนุ่มไว้แน่นหนา ราวกับต้องการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว สัมผัสอันลึกซึ้งนั้นทำให้ภาสกรต้องร้องครางออกมาอย่างสุดเสียง แสดงถึงความพึงพอใจและความสุขสมที่ได้รับ

“อ่าร์ ซีดสส์!!!! โครตฟิตเลยที่รัก ขอกระแทกให้หายคิดถึงหน่อยนะ” สัมผัสหวาบหวิวในทุกจังหวะที่ขยับ ทำให้เลือดลมในกายของพริมาสูบฉีดอย่างรุนแรง เธอเริ่มร้องครางในลำคอเพิ่มมากขึ้น จากเสียงแผ่วเบากลายเป็นเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มสูง

“อร๊ายยย คุณภาสขา อุ้ยยย!! อะ..โอร๊ยยยย!! อื้มมม” ภาสกรจึงค่อยๆ ขยับสะโพกเนิบๆ เชื่องช้า สลับกับจังหวะที่หนักแน่นและรวดเร็วราวกับพายุหมุน เขาสร้างความเสียวซ่านให้เธอถึงขีดสุด ร่างกายของพริมาสั่นสะท้าน รับทุกสัมผัสที่เขามอบให้ เสียงหวานร้องครางจนแหบแห้งไปหมดในห้วงอารมณ์ปรารถนาอันลึกซึ้ง

ความเร่าร้อนยังคงโหมกระหน่ำ ร่างกายของทั้งสองแนบชิดเป็นหนึ่งเดียว ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะหักห้าม พริมาบิดเร้าด้วยความสุขสม ปล่อยเสียงครางหวานหูออกมาอย่างต่อเนื่อง มือเรียวเลื่อนไปกอดรัดแผ่นหลังกว้างของภาสกรแน่น

“อร๊ายย!!!... คุณภาสขา... อื้มมมม!!!!...” เสียงกระซิบแผ่วพร่าที่เปล่งออกมาจากห้วงแห่งความสุข

ภาสกรตอบสนองต่อคำพูดนั้นด้วยจูบที่ดูดดื่มและลึกซึ้งยิ่งขึ้น แรงกระแทกกระทั้นหนักหน่วงและถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ ปลุกเร้าให้ความรู้สึกในกายของพริมาทวีความรุนแรงจนแทบจะถึงจุดสูงสุด

“พริมาจ๋า... ผม...จะ ผมจะไม่ไหว โอ๊ยยย!!! อ่าร์ ๆ ซี๊ดดดส์ ผมปล่อยนะ” เสียงทุ้มต่ำของภาสกรสั่นพร่า ก่อนที่เขาจะกระชับอ้อมกอดแน่น

“ปล่อยเลยค่ะ ฉันไม่ไหวแล้ว อร๊ายย แรง ๆ ค่ะ อื้มม ๆ เสียวที่สุดเลย อร๊ายยย!!!!” ความปรารถนาที่อัดอั้นของทั้งคู่ถูกออกมาพร้อมกันจนหมดสิ้น

ความรู้สึกอุ่นร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างของพริมา เธอหายใจหอบถี่ สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในกายของเขา ความสุขสมถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นซัดฝั่ง จนกระทั่งทุกสิ่งดับวูบลง เหลือเพียงความเหนื่อยอ่อนและอ้อมกอดที่ยังคงกระชับ

ทั้งคู่นอนเคียงข้างกันบนเตียงนุ่ม ภาสกรกอดพริมาไว้หลวมๆ ลมหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติ ความเงียบเข้าปกคลุมห้อง มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของกันและกัน

กระทั่ง... เสียงโทรศัพท์มือถือของภาสกรดังขึ้น ทำลายความอบอุ่นนั้นชั่วพริบตา

เขาค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดของพริมา เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง มองหน้าจอครู่หนึ่ง ก่อนจะกดรับ

“มีอะไร คุณมนต์!!!...” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย พริมามองตามเขาด้วยความรู้สึกหน่วงในใจ

“ว่าไงนะ? ลูกตัวร้อนเหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่...” น้ำเสียงของภาสกรเริ่มมีความกังวล

พริมาลุกขึ้นนั่ง มองภาสกรที่ลุกพรวดพราดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว

“โอเคๆ ผมรีบไปเดี๋ยวนี้...” ภาสกรพูดอย่างร้อนรน คว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างลวกๆ โดยไม่ได้หันมามองพริมาเลย

“คุณภาส!!!..จะไปไหนคะ” พริมาเอ่ยถามเสียงแผ่ว

“ผมต้องไปแล้ว มนต์ตราโทรมาบอกว่าลูกไม่สบาย” ภาสกรพูดเร็วๆ ขณะที่กำลังติดกระดุมเสื้อ

“แล้วฉันล่ะคะ...?” พริมาถามด้วยความรู้สึกจุกที่คอ

ภาสกรชะงักเท้า หันกลับมามองพริมา แววตาที่เคยอ่อนโยนกลับกลายเป็นความรีบร้อนและเย็นชา

“คุณกลับเองได้มั้ย พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับก็ได้”

เขาพูดแค่นั้น ก่อนจะควักกระเป๋าสตางค์ หยิบเงินปึกหนาโยนลงบนเตียงข้างตัวเธอ ราวกับเป็นค่าตอบแทนสำหรับการร่วมเรียงเคียงหมอนเพียงชั่วข้ามคืน โดยไม่แม้แต่จะสบตา

แล้วรีบสาวเท้าออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้พริมานั่งมองเงินจำนวนนั้นอย่างโดดเดี่ยวบนเตียงที่ยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งความสุขสมที่เพิ่งจางหาย ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในหัวใจ ทั้งความวูบไหวจากสัมผัสเมื่อครู่ และความเย็นเยียบที่กัดกินลึกลงไปในความรู้สึก... เธอถูกทิ้งไว้... อีกครั้ง ราวกับเป็นเพียงสิ่งของที่หมดประโยชน์

ความเปล่าเปลี่ยวในห้องกว้างราวกับเงาเย็นเยียบ คลานเข้ามาโอบกอดพริมาอย่างแสนสาหัส ความเสียใจและผิดหวังจุกแน่นอยู่ที่ลำคอ ราวกับมีก้อนสะอื้นที่ไม่สามารถกลืนลงคอได้ เธอรู้สึกราวกับเป็นเพียงหุ่นเชิดในเกมตัณหา เป็นเพียงเครื่องมือที่คอยปลดเปลื้องความใคร่ให้กับภาสกรยามที่เขาปรารถนาเท่านั้น

เมื่อความสุขจอมปลอมจางหายไป เขาก็ทิ้งเธอไว้บนเตียงกว้างอย่างไม่ไยดี ราวกับตุ๊กตายางที่หมดความสำคัญ และความรู้สึกเจ็บปวดนี้... มันก็ไม่ใช่ครั้งแรก

ด้วยหัวใจที่หนักอึ้งราวกับถูกถ่วงด้วยหิน และดวงตาที่เริ่มร้อนผ่าว พริมาตัดสินใจลุกจากเตียง เธอแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ราวกับต้องการสร้างเกราะกำบังตัวเอง กลบเกลื่อนร่องรอยความอ่อนแอไว้ภายใต้ชุดเดรสเก๋สั้นเต่อที่เผยให้เห็นเรียวขาสวย ก่อนจะก้าวออกจากห้องด้วยท่าทีที่พยายามให้ดูเข้มแข็ง เดินลงมายังมินิบาร์ สุดหรูที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองของโรงแรมแห่งนี้ หวังจะหาอะไรมาดับความร้าวรานในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel