บท
ตั้งค่า

14 เธอมากับฝน NC

กลิ่นเหงื่อและกลิ่นอับชื้นลอยคลุ้งจนพริมารู้สึกอึดอัด เธอเพียงแต่ภาวนาให้รถเคลื่อนตัวไปถึงจุดหมายปลายทางโดยเร็วที่สุด เสียงฟ้าร้องและเสียงพูดคุยของผู้คนบริเวณโดยรอบยังคงอื้ออึงไปหมด ตัวเธอเปียกชื้นเล็กน้อยจากที่ต้องรีบลุยฝนมาที่รถเมล์เมื่อสักครู่ เสื้อผ้าชุดสวยที่ใส่ออกงานเมื่อบ่ายเปียกชื้นและทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว ความเหนื่อยล้า ความหงุดหงิด จากสิ่งที่เผชิญมาทั้งวัน ทำให้เธอรู้สึกอยากร้องไห้ แต่ก็ต้องหยุดน้ำตาเอาไว้ และพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด

ท่ามกลางผู้คนที่อัดแน่นราวกับปลากระป๋องในรถโดยสาร พริมาสัมผัสได้ถึงแรงเบียดจากผู้โดยสารอีกหลายคนที่เพิ่งก้าวขึ้นมาใหม่ ร่างของเธอถูกดันจนต้องขยับชิดไปถึงด้านหลังของตัวรถ

ทันใดนั้นเอง! พริมาก็รู้สึกถึงแรงสัมผัสเบาๆ ที่ก้นของเธอ พอหันไปมองก็เป็นกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายที่ยืนบ้างนั่งบ้างอยู่ทางด้านหลัง พวกที่ยืนอยู่คนหนึ่งเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เธออย่างรวดเร็ว กลิ่นบุหรี่ฉุนกึกเจือด้วยกลิ่นเหล้าจางๆ ลอยมาแตะจมูกของเธออย่างจัง หญิงสาวพยายามไม่คิดอะไร แต่ก็พยายามสังเกตโดยรอบ

วัยรุ่นชายกลุ่มนั้นสวมเสื้อช็อปสีเทา นั่งกระจัดกระจายอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา แต่ส่วนใหญ่ยืนออกันอยู่ตรงกลางรถ พริมาสังเกตเห็นตราสัญลักษณ์บริษัทเล็กๆ ปักอยู่ตรงอกเสื้อด้านขวาของพวกเขา กางเกงยีนส์เก่าซีดและรองเท้าผ้าใบมอๆ คือเครื่องแบบที่พวกเขาสวมใส่คล้ายคลึงกัน บ่งบอกถึงวิถีชีวิตที่คลุกคลีอยู่กับงานในแหล่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน หรือไซต์งานก่อสร้างหรือที่ใดสักแห่ง ดูแล้วคนกลุ่มนี้ไม่ใช่พวกนักเรียกอาชีวะที่ชอบยกพวกตีกัน พริมาคิดได้ดังนั้นก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

บางคนผมเผ้ารุงรัง บางคนสวมหมวกแก๊ปปีกโค้งปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง แต่ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อพริมาสังเกตดีๆ ดวงตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว แววตาของกลุ่มคนเหล่านั้นฉายความคะนองและไร้มารยาทอย่างโจ่งแจ้ง หรือนี่อาจเป็นเพราะชุดเดรสสั้นเต่อที่เธอสวมใส่กันแน่ ที่ทำให้สายตาของคนเหล่านั้นจับจ้องเธอไม่วาง

ความรู้สึกไม่สบายใจแล่นริ้วเข้ามาในอกของหญิงสาวทันที พริมาพยายามขยับตัวหลีกเลี่ยงและสบตาของกลุ่มคนเหล่านั้น แต่ฝูงชนรอบข้างกลับเบียดเสียดเข้ามาเรื่อย ๆ

เมื่อจำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นจนแทบไม่มีช่องว่างให้ขยับเขยื้อน พริมาจำต้องค่อยๆ เลื่อนตัวไปจนชิดกับกลุ่มชายวัยรุ่นเหล่านั้น ยิ่งพยายามหลีกหนี กลับกลายเป็นว่าเธอต้องใกล้ชิดพวกเขามากขึ้นทุกที หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงด้วยความประหม่าและหวาดระแวง แล้วในที่สุด เสียงทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งในกลุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังเธอก็เอ่ยขึ้น...

“มานั่งแทนพี่ไหมครับ...คนสวย” พริมาหันไปตามเสียง ก็เห็นว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนดังกล่าวลุกขึ้นยืนให้เธอเดินเข้าไปนั่ง พริมายิ้มตอบไปตามมารยาทและโค้งศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง โดยไม่รับน้ำใจจากเขา แต่ราวกับเป็นการยั่วอารมณ์ของคนในกลุ่ม เมื่อสมาชิกคนหนึ่งเอ่ยแซวเธอขึ้นมา

“พี่เมฆเค้าอุตส่าห์ชวนให้ไปนั่ง...ก็ไปสิจ๊ะ หรือว่าน้องคนสวยอยากจะนั่งตักพี่แทนล่ะ หึม์!?” เสียงทุ้มต่ำของชายอีกคนที่ยืนเบียดอยู่ด้านหลังกระซิบชิดใบหูของพริมาด้วยลมหายใจที่ร้อนระอุ ตัวของมันเบียดเสียดอยู่ด้านหลังจนแทบจะแนบชิดไปกับแผ่นหลังของเธอ

ความรู้สึกอึดอัดและน่าขนลุกแล่นปราดไปทั่วร่าง จากนั้นไม่นาน กลุ่มวัยรุ่นเหล่านั้นก็เริ่มพูดจาแทะโลมเธอด้วยถ้อยคำสองแง่สามง่าม พร้อมเสียงหัวเราะคิกคักจากเพื่อนร่วมแก๊งค์ที่นั่งอยู่รายรอบตัวเธอดังตามมาติดๆ ราวกับเป็นเรื่องสนุกสนานที่พวกมันกำลังรื่นรมย์

ความรู้สึกอึดอัดเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อชายคนดังกล่าวที่อยู่ข้างหลังเธอพยายามเอาหน้าเข้ามาแนบชิดบริเวณหัวไหล่เธออย่างถือวิสาสะ บางครั้้งก็แอบสัมผัสก้นของเธอ จนพริมาต้องหันไปทำตาขวางใส่

“สวยขนาดนี้ น้องมีแฟนหรือยังจ๊ะ..?” เสียงแหบห้าวที่เต็มไปด้วยความหื่นดังขึ้นข้างใบหู ลมหายใจอุ่นร้อนของมันเป่ารดลำคอระหงของเธออย่างจงใจ ดวงตาหยาบคายไล่สำรวจเรือนร่างภายใต้ชุดเดรสสั้นที่แนบเนื้ออย่างถือวิสาสะ

สายตาของมันจ้องมองต่ำลงมายังเนินอกอวบอิ่ม ก่อนจะไล่สำรวจอย่างไม่ปิดบังไปยังเรียวขาสวยที่เผยให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งภายใต้เดรสตัวสั้นที่แทบจะปิดเรียวขางามของเธอไม่มิด ความรู้สึกขยะแขยงและหวาดกลัวแล่นริ้วไปทั่วร่างของพริมา ราวกับถูกคุกคามในพื้นที่ส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้ง

ชายหนุ่มร่างกำยำที่ยืนเบียดชิดเธอเมื่อครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอย กลับกลายเป็นชายหนุ่มอีกคนที่มีรูปร่างใกล้เคียงกันมายืนแทนที่ ราวกับว่าพวกมันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาใกล้ชิดเธออย่างตั้งใจ

พริมาขยับกระเป๋าสะพายด้านข้างมาไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว หวังจะใช้มันเป็นเกราะกำบังเพื่อปกปิดสัดส่วนโค้งเว้าและบั้นท้ายกลมกลึงของเธอจากการลุกล้ำทางสายตา และการสัมผัสเนื้อตัวเมื่อครู่ที่ทำให้เธอรู้สึกหวาดระแวงอยู่ลึกๆ

ไม่นานนัก เพื่อนของพวกมันอีกคนก็ลุกขึ้นตามมา ก่อนจะเบียดชิดร่างของพริมาจากทางด้านหลังจนแผ่นหลังของเธอแทบจะแนบสนิทไปกับแผงอกแข็งกระด้างของมัน ความรู้สึกอึดอัดและน่าขนลุกแล่นปราดไปทั่วร่าง ราวกับถูกกักขังอยู่ในอ้อมกอดที่น่าหวาดหวั่น

ไม่นานพวกมันก็ทะยอยกันลุกจากที่นั่ง มาล้อมรอบตัวพริมา ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ราวกับเธอถูกกักขังอยู่ในกรงขังที่อบอวลไปด้วยกลิ่นบุหรี่และสุรา เสียงทุ้มต่ำยังคงพยายามพูดจาแทะโลมเธออย่างต่อเนื่อง ถ้อยคำหยาบคายเสียดแทงความรู้สึก ราวกับคมมีดกรีดลงบนผิวเนื้อ ความอึดอัดและหวาดหวั่นเริ่มก่อตัวขึ้นในใจหญิงสาวอย่างรวดเร็ว หัวใจพริมาเต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่น เธอรู้สึกเหมือนเป็นเหยื่อตัวน้อยที่กำลังถูกรุมทึ้งโดยฝูงสัตว์ร้ายอย่างไร้ทางสู้

พริมาจำต้องยืนตัวแข็งทื่อ ราวกับถูกแช่อยู่ในช่องฟรีซ ความหวาดกลัวทำให้เธอรู้สึกชาไปทั้งตัว ไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงตอบโต้หรือตะโกนขอความช่วยเหลือใด ๆ ไม่แม้แต่จะหันไปสบสายตาที่จ้องมองมาอย่างคุกคามของกลุ่มคนพวกนั้น และในตอนนี้เธอก็ถูกพวกมันล้อมเอาไว้ ทั้งด้านซ้าย ขวา หน้า และหลัง ราวกับคนพวกนั้นพร้อมใจกันพาเธอให้จมดิ่งสู่ความรู้สึกที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ

“พวกพี่ตั้งใจลุกให้น้องคนสวยนั่งเลยน้า!!!...อยากนั่งตรงไหนก็เลือกเอาเลยสิจ๊ะ สวย ๆ อย่างน้องจะมายืนให้เมื่อยทำไมล่ะจ๊ะ” สมาชิกหนึ่งในนั้นพูดจากแทะโลมเธออีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เผยให้เห็นความต้องการอันน่าหวาดหวั่น

“นั่นสิคนสวย...ถ้าน้องไม่ไปนั่งพี่ก็ไม่เกรงใจแล้วนะ” อีกคนในกลุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ พูดเสริมด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย จากนั้นสายตาหลายคู่ก็พากันจ้องมองสำรวจเรือนร่างของเธออย่างไม่ปิดบัง ราวกับเธอเป็นเหยื่อที่พวกเขาหมายปอง

พริมาพยายามขยับร่างหนีอย่างอึดอัด แต่พื้นที่แคบๆ บนรถโดยสารนั้นช่างจำกัดจนแทบขยับเขยื้อนไม่ได้ เธอรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวอย่างยิ่งกับระยะห่างที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ เช่นนี้

“น้องคนสวยเนี่ย...ตัวหอมจังเลยนะครับ...พี่ชักอยากจะรู้เสียแล้วซิ...ว่าส่วนอื่น ๆ ในตัวน้อง มันจะหอมด้วยหรือเปล่า!!!” เสียงแหบพร่าของชายอีกคนในกลุ่มที่ยืนออกไปด้านข้างกระซิบชิดใบหูขาวผ่องของเธอ ด้วยถ้อยคำลามกที่เอ่ยออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร

ลมหายใจอุ่นร้อนของมันเป่ารดลำคอระหงของเธออย่างจงใจ สายตาหลายคู่จ้องมองสำรวจเรือนร่างของเธออย่างเปิดเผย ราวกับต้องการถอดชุดเดรสที่เธอสวมใส่อยู่นั้นออกไปจากกายของเธอ ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะและน่าขยะแขยงแล่นปราดไปทั่วร่าง ทุกการจ้องมองคือการลวนลามทางสายตาและสัมผัสที่แผ่วเบา และมันก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีอยู่มีมือหนึ่งที่มองไม่เห็นกำลังลูบไล้เธออย่างหยาบคาย

“ถ้าไม่อยากให้พวกพี่จับก้น ก็ไปนั่งสิจ๊ะ...คนสวย!!!” เสียงทุ้มต่ำของคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยชวนพริมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ หญิงสาวคิดอย่างรวดเร็ว หรือคำพูดของมันจะเป็นจริง? ถ้านั่งลง อย่างน้อยก็อาจจะหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสโดยตรงได้บ้าง

แต่ก่อนที่พริมาจะได้ทันตั้งสติ หรือแม้แต่จะเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือใดๆ มือหยาบกระด้างหลายคู่ก็ผลักดันร่างของเธอให้ไปทางด้านหลังของรถโดยสาร ซึ่งบริเวณนั้นเป็นมุมอับสายตา

การเบียดเสียดและแรงผลักดันจากกลุ่มชายวัยรุ่นคึกคะนอง ค่อยๆ นำพาร่างบอบบางของพริมาไปยังเบาะนั่งด้านหลังสุดของรถอย่างเงียบเชียบ ราวกับคลื่นที่ซัดพาเศษซากปลาไปเกยตื้น การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างแนบเนียน จนอาจไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่ได้นั่งอย่างสบายใจ ต่างก็ก้มหน้าจดจ่ออยู่กับหน้าจอสมาร์ตโฟนในมือ ราวกับโลกภายนอกไม่มีความหมาย หรือบางทีอาจมีใครบางคนเหลือบมองเห็น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังตกเหยื่อ เพราะไม่อยากมีเรื่องมีราวกับกลุ่มคนอันตรายเหล่านั้น

เมื่อพริมาถูกดันจนมาถึงมุมอับด้านหลังของรถโดยสาร กลุ่มคนพวกนั้นก็เริ่มลงมือลวนลามเธออย่างย่ามใจ! พวกมันยืนล้อมร่างของพริมาเอาไว้ ไม่มีทางให้เธอหลีกหนี ก่อนจะผลักร่างของเธอให้นั่งลงบนเบาะนั่งด้านในสุด ราวกับต้องการซ่อนเธอจากสายตาของผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อาจจะสังเกตเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel