บท
ตั้งค่า

ความฝันหรือความจริง 1

ในความพร่ามัวราวกับความฝัน ฉินหร่านกลับรู้สึกถึงความหรรษาอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ดวงตาที่หนักอึ้งพยายามลืมตาขึ้นแต่ไร้ความหมาย เธอรู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้ สัมผัสบนเรือนร่างกลับชัดเจนในความรู้สึกเหมือนจริงจนรู้สึกหวาดกลัว

ทว่าความอบอุ่นอ่อนโยนที่ถูกมอบให้ ทำให้เธอล่องลอยอย่างสุมสม เธอเหมือนเรือลำน้อยที่ถูกคลื่นทะเลตงไห่ซัดสาดไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำได้แต่ปล่อยให้เรือลำน้อยล่องลอยไปตามคลื่นลมที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง และเฝ้าหวังว่าความฝันอันเลือนรางนี้จะจบลงด้วยดี

ราตรีกาลผ่านพ้นไป รุ่งอรุณมาเยือนจนแสงสีเหลืองทองสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ฉินหร่านลืมตาขึ้นมองแสงยามเช้าสาดส่องดวงตาอย่างสับสน เธอกวาดตามองรอบห้องที่เป็นเพียงห้องที่เก่ามาก เครื่องเรือนที่แทบจะไม่มีภายในห้องนอนเล็กๆ แห่งนี้

ฉินหร่านผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความปวดร้าว เรือนร่างของเธอเวลานี้ปวดร้าวไปทั้งตัวโดยเฉพาะส่วนล่างที่รู้สึกเจ็บจนต้องเม้มปากแน่น ทันใดนั้นความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอหลั่งไหลเข้ามาราวกับสายน้ำเซี่ยวกราก เธอพยายามอดทนกับความเจ็บปวดที่ศีรษะ โชคดีที่ความเจ็บปวดนี้ใช้เวลาไม่นาน

แต่สิ่งที่เธอเรียบเรียงได้กลับทำให้ตื่นตกใจ เหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอคิดว่าเป็นเพียงความฝันกลับเป็นความจริง เจ้าของร่างนี้มีชื่อว่าฉินหร่านเช่นเดียวกับเธอ และถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด ซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่นาน ด้วยราคาเพียงแค่หนึ่งตำลึงทองเท่านั้น และร่างนี้มีอายุเพียงแค่สิบหกปีที่พึ่งผ่านพ้นวัยปักปิ่นมา

อีกทั้งเมื่อคืนเป็นคืนที่ต้องเข้าหอ แต่โชคร้ายที่เด็กน้อยฉินหร่านคนนั้นหวาดกลัวจนช็อกตาย และเธอก็เข้ามาแทนที่พอดี มือเล็กผอมบางยกมือขึ้นนวดหน้าผากตัวเองอย่างสับสน จำได้ว่าเธอนอนอยู่บนเตียงของตัวเองทำไมถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ หากบอกว่าเป็นความฝัน ทว่าความเจ็บปวดตอนนี้กลับหลอกเธอไม่ได้

“เจ้าตื่นแล้ว”

ฉินหร่านหันไปมองคนพูดอย่างตกใจ ใบหน้าคนตรงหน้าหล่อเหลาคมคาย ทว่าดวงตาทั้งสองข้างกลับปิดสนิท เรือนร่างสมส่วนอยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มเก่าๆ คนตรงหน้าคือฉีเยี่ยนสามีของร่างนี้ และเป็นคนที่เธอร่วมสัมพันธ์เมื่อคืนนี้ ใบหน้าแดงระเรื่อ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ อย่างไรเธอก็เป็นสาวโสดมากว่ายี่สิบแปดปีและเมื่อคืนก็เป็นครั้งแรกของเธอเช่นกัน

“ลุกไหวหรือเปล่า จะได้มากินข้าวกัน” น้ำเสียงอ่อนโยนของชายตาบอดที่ยืนอยู่หน้าประตู ทำให้ฉินหร่านรีบลุกขึ้นยืนแต่เพราะความหักโหมจากเมื่อคืน ทำให้เธอทรุดกลับไปนั่งที่เดิม เธอเม้มปากแน่นหน้าแดงระเรื่อแต่ถึงกระนั้นชายตาบอดก็ไม่สามารถมองเห็นได้

“ท่านพี่ทานก่อนเถอะเจ้าค่ะ”

ฉินหร่านเอ่ยบอก แม้เธอจะหิวแต่สังขารตอนนี้กลับไม่อำนวยความสะดวกให้เธอเลย ร่างนี้ผ่ายผอมเกินไปอีกทั้งเมือคืนนี้โดนจัดหนักทำให้ไม่มีแรงจะลุกเดินได้ ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับหมุนกายจากไป เธอมองตามอย่างขัดเคือง ถึงอย่างไรคนที่ทำให้นางมีสภาพนี้ก็คือชายตาบอดนั่น

ขณะที่กำลังบ่นในใจชายตาบอดก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมโจ๊กในมือ ฉินหร่านมองตามอย่างสนใจแต่เมื่อเห็นโจ๊กข้าวที่แทบไม่มีเมล็ดข้าว อีกทั้งยังเป็นสีเหลืองและกากข้าวบางส่วนก็ทำให้อดที่จะเงยหน้ามองสามีหมาดๆ ไม่ได้

“กินอะไรสักหน่อยก่อนแล้วค่อยนอนพัก”

ฉินหร่านมองถ้วยที่ถูกยื่นมาตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ ว่ามันสามารถกินได้จริงๆ ใช่หรือไม่ ตั้งแต่เธอเป็นเชฟระดับห้าดาวมาไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ทว่าเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของคนร่างสูงก็อดที่จะรับมาถือไว้ไม่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel