บทที่ 2
พอพักเที่ยง อนวัฒน์ก็พาต้นน้ำมาที่ร้านทันที เพราะจะได้แนะนำต้นน้ำให้พี่สาวเขารู้จักด้วย ทันทีที่ต้นน้ำมายืนที่หน้าร้านกาแฟ หัวใจของเขาก็เต้นแรง หายใจหอบถี่ เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่เขาแวะมาทุกปี แต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามานั่งด้านในเพราะเป็นร้านที่แม่คนสวยของเขาทำงานอยู่ แต่ที่เขาแปลกใจคือทำไมอนวัฒน์ถึงมาที่ร้านนี้ล่ะ
“อ้าว...ไอ้ต้น เข้ามาซิ จะยืนเป็นหินอีกนานไหมข้าหิวแล้วนะ” อนวัฒน์เรียกให้ต้นน้ำได้สติ แล้วเขาก็ก้าวช้าๆ เข้าไปในร้านด้วยหัวใจที่พองโต ใจเต้นตูมตาม เมื่อรู้ว่าจะได้พบหน้าผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
อนวัฒน์พาต้นน้ำมาหยุดด้านหลังพี่สาว ก่อนจะใช้มือสะกิดพัทธนันท์ให้หันมามองเขา พอเห็นน้องชายพัทธนันท์ก็ยิ้มให้พร้อมกับมองเลยไปยังผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สงสัยคนนี้ละมั้งที่อนวัฒน์บอกว่าจะมาทำงานพิเศษด้วยกัน พัทธนันท์มองใบหน้าเขาเหมือนจะคุ้นๆ ว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า ใบหน้าคมๆ แบบนี้ พัทธนันท์คิดกับตัวเองแถมชื่อเขายังคุ้นหูเธอมากด้วย
“นายชื่อต้นน้ำเหรอ” พัทธนันท์ลากชื่อเขาเสียงยาวเพราะกำลังใช้ความคิดแต่จะว่าไปผู้ชายตรงหน้าคงไม่ใช่ต้นน้ำคนที่เธอรู้จักหรอกโลกมันคงไม่กลมขนาดนั้นที่จะทำให้เธอได้พบกับเด็กชายต้นน้ำแถมยังเป็นเพื่อนของน้องชายเธอแบบนี้อีก
“ถูกต้องแล้วครับ อาเจ๊(แม่)” คำว่าแม่ไม่มีเสียงหลุดออกมาจากริมฝีปากของต้นน้ำ แต่เหมือนว่าพัทธนันท์จะเคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน แต่ความโกรธที่ถูก ต้นน้ำเอ่ยเรียกว่าอาเจ๊ก็ทำเอาพัทธนันท์ปรี๊ดแตก
“นี่นายอย่าเรียกฉันว่าอาเจ๊นะ” เพียงประโยคแรกที่ต้นน้ำเอ่ยก็ทำเอาพัทธนันท์อารมณ์ไม่ดีที่เพื่อนน้องชายเรียกเธอแบบนี้
“งั้นจะให้เรียกว่าอะไรดี” ต้นน้ำเอ่ยถามน้ำเสียงยียวน แต่ไม่ทันที่พัทธนันท์จะได้บอก ต้นน้ำก็พูดออกมาเสียก่อน
“งั้นเรียกว่าแม่นะ”
“แม่เหรอ! จะบ้าหรือไง ฉันยังไม่ได้แต่งงานนะ อีกอย่างฉันอายุแค่ยี่สิบสามปี มีลูกตัวโตเท่านายใครได้ยินคงจะหาว่าฉันบ้าไปแล้ว”
พัทธนันท์ไม่ยอมรับง่ายๆ กับสรรพนามที่ต้นน้ำจะใช้เรียกเธอ
“งั้นจะให้อาเจ๊เลือกระหว่าง อาเจ๊ แม่ ที่รัก จะให้เรียกว่าอะไรดี” ต้นน้ำให้พัทธนันท์เลือกชื่อที่จะใช้แทนตัวเธอเอง แต่ทุกชื่อที่ต้นน้ำเสนอให้นั้นพัทธนันท์ไม่ชอบเอาซะเลย
“ไม่เอา ฉันไม่ให้นายเรียกฉันว่าอะไรทั้งนั้น ฉันชื่อฟ้าใสเข้าใจไหม” พัทธนันท์เอ่ยบอกเสียงแข็ง เธอจะไม่ยอมรับชื่อที่ต้นน้ำจะใช้เรียกเธอง่ายๆ
“ผมให้อาเจ๊เลือกแล้วนะ ถ้าอาเจ๊ไม่เลือก งั้นผมก็จะเรียกทั้งหมดนั่นแหละ” ต้นน้ำยืนยันคำพูดนั้น และพัทธนันท์ก็คิดว่าเขาจะทำอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆ ด้วย พัทธนันท์ทำท่าจะเถียงต่อ แต่อนวัฒน์ก็เข้ามาเป็นกรรมการในการตัดสิน เพราะศึกครั้งนี้ท่าทางจะไม่จบง่ายๆ
“เอาน่าพี่ฟ้า อย่าไปสนใจไอ้ต้นมันเลย มันอยากเรียกอะไรก็ปล่อยมันไปเถอะ เพราะอย่างน้อยพี่ฟ้าก็มีผมเรียกว่าแม่ อาเจ๊ อยู่แล้วมีคนเรียกเพิ่มอีกคนคงไม่แปลกหรอกนะ เอ้านี่ผมชื้อปูไข่มาฝากด้วย” อนวัฒน์ยื่นถุงปูไข่ที่เพิ่งไปซื้อมาจากตลาดให้พี่สาว
“คลื่นเรียกนะไม่แปลก แต่คนอื่นนี่ซิแปลก” มือก็รับถุงปูไข่จาก อนวัฒน์ แต่ปากก็ยังไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ ซึ่งแตกต่างจากต้นน้ำที่เขารู้สึกชอบใจที่ได้เรียกชื่อเธอแบบนั้น
“พี่ฟ้าไปทานข้าวกันเถอะ ผมหิวแล้ว” อนวัฒน์ชวนพี่สาว เพราะถ้าปล่อยไว้วันนี้คงยังเถียงกันไม่จบ
“ก็ได้จ้ะ พี่ก็หิวแล้วเหมือนกัน แต่ก่อนที่จะกินข้าวพี่ว่าคลื่นพาเพื่อนไปเปลี่ยนเสื้อก่อนดีกว่านะ จะได้มาทานข้าวกัน อีกอย่างพี่ไม่อยากนั่งทานข้าวไปพร้อมกับกลิ่นข้าวผัดทะเล” พัทธนันท์หันมาแขวะต้นน้ำอีกครั้ง แต่บรรยากาศการทานข้าวกลางวันของทั้งสามคนเต็มไปด้วยสายตาพิฆาตที่พัทธนันท์ส่งไปยังต้นน้ำ ตลอดเวลาที่นั่งร่วมโต๊ะ แต่ดูๆ ไปแล้วต้นน้ำจะไม่สะทกสะท้านเขา ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทานกับข้าวฝีมือคุณแม่คนสวยของเขาอย่างเอร็ดอร่อย เพราะนี่เป็นอาหารฝีมือแม่เขามื้อแรกที่ต้นน้ำได้ทาน แถมยังทานเผื่ออีกคนที่คงอยากจะทานด้วยเป็นแน่
